ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ
รายการ | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
| |||||||
วันที่ | 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 | ||||||
สนาม | สนามกีฬาโอลิมปิก, เคียฟ, ยูเครน | ||||||
ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำนัด | อันเดรส อีเนียสตา | ||||||
ผู้ตัดสิน | เปดรู ปรูเองซา | ||||||
ผู้ชม | 63,170 คน | ||||||
สภาพอากาศ | ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิ 26 °C ความชื้นสัมพัทธ์ 42%[1] | ||||||
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ กำหนดจัดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 ที่สนามกีฬาโอลิมปิกแห่งชาติเคียฟ ในเคียฟของยูเครน เพื่อตัดสินหาทีมชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 (ยูโร 2012)[2] ทีมที่ป้องกันตำแหน่งชนะเลิศคือสเปน ซึ่งชนะการแข่งขันต่อเยอรมนี 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2008[3]
สเปนประกบคู่มาแข่งขันกับอิตาลี ในความพยายามรักษาตำแหน่งชนะเลิศของพวกเขาไว้ หากสเปนชนะเลิศในครั้งนี้ พวกเขาจะเป็นทีมแรกที่ชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป สองสมัยติดต่อกัน และจะเป็นฟุตบอลทีมชาติแรก ที่ชนะเลิศการแข่งขันรายการใหญ่ (ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และ ฟุตบอลโลก) สามครั้งติดต่อกัน[4][5]
ผู้ชนะเลิศในรายการนี้ จะได้รับสิทธิเข้าแข่งขัน ในรายการคอนเฟเดอเรชันส์คัพของฟีฟ่า ประจำปี ค.ศ. 2013 โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม สเปนได้สิทธิเข้าแข่งขันอยู่ก่อนแล้ว ในสถานะผู้ชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ดังนั้นอิตาลีจะผ่านการคัดเลือกจากยูฟ่าโดยอัตโนมัติ เมื่อเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะเลิศหรือไม่ก็ตาม[6]
ภูมิหลัง
[แก้]ก่อนการแข่งขันนัดนี้ ทั้งสองทีมพบกันมาแล้ว 30 ครั้ง โดยอิตาลีชนะ 10 นัด ส่วนสเปนชนะ 8 นัด ซึ่งการแข่งขันครั้งหลังสุด เป็นนัดกระชับมิตรเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ที่สนามสตาดิโอ ซาน นีโกลา ในเมืองบารี ผลปรากฏว่า อิตาลีเปิดบ้านชนะสเปนไป 2-1[7][8] อิตาลีเคยชนะเลิศฟุตบอลยูโรมาแล้วเมื่อ ค.ศ. 1968 ขณะที่สเปนได้มาสองสมัยด้วยกัน คือในการแข่งขันเมื่อ ค.ศ. 1964 ซึ่งชนะสหภาพโซเวียต และครั้งล่าสุดเมื่อ ค.ศ. 2008 ซึ่งชนะทีมชาติเยอรมนี
โดยทีมชาติฝรั่งเศส เคยเป็นผู้ชนะเลิศเหนือทั้งสองชาติมาก่อนแล้ว โดยในฟุตบอลยูโรเมื่อ ค.ศ. 2000 พวกเขาชนะอิตาลี 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ด้วยระบบโกลเดนโกล และในการแข่งขันเมื่อ ค.ศ. 1984 ฝรั่งเศสเอาชนะสเปน 2-0 ในเวลาปกติ อนึ่ง เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันคราวนี้ สเปนเป็นทีมอันดับหนึ่ง จากการจัดอันดับของฟีฟ่า ขณะที่อิตาลีอยู่ในอันดับที่ 12 ส่วนการจัดอันดับของยูฟ่า พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 8 อย่างไรก็ตาม อิตาลีเคยชนะเลิศในฟุตบอลโลกมาถึง 4 สมัย คือเมื่อครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1934) ครั้งที่ 3 (ค.ศ. 1938) ครั้งที่ 12 (ค.ศ. 1982) และครั้งที่ 18 (ค.ศ. 2006) ซึ่งมากที่สุดในบรรดาทีมชาติยุโรป แต่ก็พ่ายแพ้ต่อบราซิลไป 2 สมัย จากครั้งที่ 9 (ค.ศ. 1970) และครั้งที่ 15 (ค.ศ. 1994) ส่วนสเปนเพิ่งชนะเลิศในครั้งที่ 19 เมื่อปี ค.ศ. 2010 เท่านั้น
เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ
[แก้]สเปน | รอบ | อิตาลี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
คู่แข่งขัน | ผลการแข่งขัน | รอบแบ่งกลุ่ม | คู่แข่งขัน | ผลการแข่งขัน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อิตาลี | 1 – 1 | นัดที่ 1 | สเปน | 1 – 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ไอร์แลนด์ | 4 – 0 | นัดที่ 2 | โครเอเชีย | 1 – 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โครเอเชีย | 1 – 0 | นัดที่ 3 | ไอร์แลนด์ | 2 – 0 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ตารางคะแนนสิ้นสุด |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คู่แข่งขัน | ผลการแข่งขัน | รอบแพ้คัดออก | คู่แข่งขัน | ผลการแข่งขัน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฝรั่งเศส | 2 – 0 | รอบก่อนรองชนะเลิศ | อังกฤษ | 0 – 0 (หลังต่อเวลาพิเศษ) (4 – 2 ยิงลูกโทษ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โปรตุเกส | 0 – 0 (หลังต่อเวลาพิเศษ) (4 – 2 ยิงลูกโทษ) | รอบรองชนะเลิศ | เยอรมนี | 2 – 1 |
การแข่งขัน
[แก้]รายละเอียด
[แก้]สเปน | 4 – 0 | อิตาลี |
---|---|---|
ดาบิด ซิลบา 14' ฌอร์ดี อัลบา 41' เฟร์นันโด ตอร์เรส 84' ควน มาตา 88' |
รายงาน |
สเปน[1]
|
อิตาลี[1]
|
|
|
แมนออฟเดอะแมตช์:
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
|
สถิติ
[แก้]- ตลอดเกม[10]
รายการสถิติ | สเปน | อิตาลี |
---|---|---|
ประตู | 4 | 0 |
การยิงรวม | 14 | 11 |
เข้ากรอบ | 9 | 6 |
การครอบครองบอล | 52% | 48% |
การเตะมุม | 3 | 3 |
การทำฟาวล์ | 17 | 10 |
การล้ำหน้า | 3 | 3 |
ใบเหลือง | 1 | 1 |
ใบแดง | 0 | 0 |
หลังเกมการแข่งขัน
[แก้]มีแชล ปลาตีนี ประธานสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลอ็องรี เดอโลแน แก่อีเกร์ กาซียัส หัวหน้าทีมชาติสเปน ทั้งนี้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน บีเซนเต เดล โบสเก เป็นบุคคลที่สองที่นำทีมชาติขึ้นรับถ้วยรางวัลในการแข่งขันฟุตบอลยูโรและฟุตบอลโลก ต่อจากเฮลมุท เชิน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติเยอรมนี (ค.ศ. 1937–1941)[11] และเป็นชาติแรกที่สโมสรฟุตบอลของตนชนะเลิศการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกด้วย[12]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 "Tactical Line-up – Final – Spain-Italy" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 1 July 2012. สืบค้นเมื่อ 1 July 2012.
- ↑ "Fixture plan brings EURO dream closer". Union of European Football Associations. 4 October 2010. สืบค้นเมื่อ 3 January 2012.
- ↑ McNulty, Phil (29 June 2008). "Germany 0–1 Spain". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 22 June 2012.
- ↑ Logothetis, Paul (27 June 2012). "Euro 2012: Spain won't change game plan for Portugal's Cristiano Ronaldo". National Post. สืบค้นเมื่อ 28 June 2012.
- ↑ Evans, Simon (27 June 2012). "Spot-on Fabregas sends Spain into Euro 2012 final". Chicago Tribune. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-28. สืบค้นเมื่อ 28 June 2012.
- ↑ "Italy qualify for Confederations Cup". Soccerway. 29 June 2012.
- ↑ "Match Press kit – Final – Spain-Italy" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 1 July 2012. สืบค้นเมื่อ 1 July 2012.
- ↑ "Aquilani leaves it late". ESPN Soccernet. ESPN. 10 August 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-23. สืบค้นเมื่อ 1 July 2012.
- ↑ 9.0 9.1 "Full-time report Spain-Italy" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 1 July 2012. สืบค้นเมื่อ 1 July 2012.
- ↑ "Team statistics: Full time" (PDF). www.UEFA.com. สมาคมฟุตบอลยุโรป. 1 July 2012. สืบค้นเมื่อ 2 July 2012.
- ↑ Atkin, John (1 July 2012). "Double-winning Del Bosque matches Schön feat". UEFA.com. Kiev: Union of European Football Associations. สืบค้นเมื่อ 1 July 2012.
- ↑ Atkin, John (2 July 2012). "Del Bosque reflects on 'historic win' for Spain". UEFA.com. Union of European Football Associations. สืบค้นเมื่อ 2 July 2012.