พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช สุขยางค์)
พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช ร. สุขยางค์) | |
---|---|
เกิด | 12 สิงหาคม พ.ศ. 2438 ท่าเตียน, จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 4 เมษายน พ.ศ. 2493 (55 ปี) โรงพยาบาลศิริราช จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
สัญชาติ | ไทย |
ศิษย์เก่า |
|
ผลงานสำคัญ |
|
พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช ร. สุขยางค์) (12 สิงหาคม พ.ศ. 2438 – 4 เมษายน พ.ศ. 2493[1]) เป็นสถาปนิกชาวไทย อดีตรองอธิบดีกรมศิลปากร พระสาโรชฯ ถือเป็นหนึ่งในนักเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์รุ่นแรกๆ ของไทยที่จบการศึกษาจากประเทศอังกฤษ แล้วกลับเข้ามาออกแบบงานสถาปัตยกรรมในประเทศไทยหลายแห่ง ในช่วงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 ถึงหลังยุคการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมป์ เมือปี พ.ศ. 2477 โดยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ เป็นคนแรก[2] และยังเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนประณีตศิลปกรรม ที่ต่อมาพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร
พระสาโรชรัตนนิมมานก์ได้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และสไตล์อลังการศิลป์ (Art Deco) หลายแห่งในไทยทั้ง อาคารที่ทำการกรมไปรษณีย์โทรเลข (อาคารไปรษณีย์กลาง) บางรัก, วังวาริชเวสม์, หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรีฑาสถานแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) กลุ่มอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม รวมไปถึงอาคารเรียนหลายหลังในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, วชิราวุธวิทยาลัย, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ โรงพยาบาลศิริราช
ประวัติ
[แก้]พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช ร. สุขยางค์) สกุลเดิม สุภัง[1] เป็นบุตรชายคนเล็กของหลวงพัฒนพงศ์ภักดี (ทิม สุขยางค์) ผู้ประพันธ์กลอนนิราศเรื่อง นิราศหนองคาย กับนางเสงี่ยม ท่านมีพี่ชาย 1 คน คือ มหาอำมาตย์โท พระยาสารศาสตร์สิริลักษณ์ (สรรเสริญ สุขยางค์) ผู้ปฏิบัติราชการในตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์คมนาคม
พระสาโรชรัตนนิมมานก์ ศึกษาระดับชั้นประถมที่โรงเรียนกล่อมพิยาคาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และจบการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2453[3] ได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงของกระทรวงธรรมการให้ออกไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ ในวิชาสถาปัตยกรรม โดยเข้าศึกษาระดับเตรียมอุดมศึกษาที่โรงเรียนเอาน์เดิล เป็นเวลา 2 ปี และได้สำเร็จการศึกษาวิชาสถาปัตยกรรมศาลตร์ และการวางผังเมืองมาจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล[4] ประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2463[3] ใช้เวลาในหลักสูตร 5 ปี
หลังศึกษาจบ เข้ารับราชการในกรมศิลปากร สังกัดกระทรวงธรรมการ ตั้งแต่ พ.ศ. 2463 ในตำแหน่งสถาปนิก ได้มีผลงานออกแบบจำนวนมาก ตลอดช่วงการทำงาน โดยเฉพาะการออกแบบอาคารในหน่วยงานราชการหลากหลายประเภทอาคาร ทั้งอาคารเรียน อาคารที่ทำการ อาคารศาล อาคารโรงพยาบาล ไปจนถึงอาคารหอประชุม และสนามกีฬาขนาดใหญ่ ที่มีการผนวกแนวความคิดสมัยใหม่ รูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีความหลากหลาย การวางผังที่สอดรับกับบริบทแวดล้อม ทั้งเชิงการใช้งานอาคาร ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมไปถึงการออกแบบโครงสร้างคอนกรีต พระสาโรชรัตนนิมมานก์ได้รับการแต่งตั้งเป็นสถาปนิกชั้นพิเศษ ระดับเทียบเท่าอธิบดี ในปี พ.ศ. 2485[5] ถือเป็นตำแหน่งทางราชการสูงสุดที่ได้รับ จนกระทั่งได้ลาออกจากราชการในปี พ.ศ. 2491 และเสียชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2493[3]
ผลงานออกแบบสถาปัตยกรรม
[แก้]- อาคารมานุษยนาควิทยาทาน วัดบวรนิเวศวิหาร
- อาคารนิภานภดล โรงเรียนเทพศิรินทร์
- อาคารมาลินี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- อาคารวชิรมงกุฎ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
- อาคารพยาบาล โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย (ปัจจุบัน หอประวัติ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย)
- อาคารหอประชุม โรงเรียนมัธยมบ้านสมเด็จ (ปัจจุบัน วิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา)
- โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช (ปัจจุบัน พิพิธบางลำพู)
- วังวาริชเวสม์
- อาคารที่ทำารกรมไปรษณีย์โทรเลข (ปัจจุบัน อาคารไปรษณีย์กลาง)
- ศาลแขวงเชียงใหม่ (ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์พื้นทถิ่นล้านนา จังหวัดเชียงใหม่)
- ศาลแขวงสงขลา
- กรีฑาสถานแห่งชาติ (ปัจจุบัน สนามศุภชลาศัย)
- ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- กลุ่มอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม
- โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน
อาคารในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
[แก้]- ผังแม่บทจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตึกวิทยาศาสตร์ (ตึกชีววิทยา 1 หรือ ตึกขาว)
- อาคารจักรพงษ์
- ตึกวิศวกรรมศาสตร์ 1 (ตึกแดง)
- ตึกฟิสิกส์ 1
- อาคารเคมี 1 (ปัจจุบัน อาคารศิลปวัฒนธรรม)
- หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตึกวิศวกรรมศาสตร์ 2
- อาคารเภสัชกรรมศาสตร์ 1 (ปัจจุบัน อาคารศิลปกรรมศาสตร์ 1)
อาคารในโรงพยาบาลศิริราช
[แก้]- อาคารพยาธิวิทยา
- อาคารอำนวยการคณะแพทยศาสตร์
- อาคารกายวิภาคและสรีรวิทยา
- อาคารศัลยกรรมชาย (อาคารมหิดลบำเพ็ญ)
- อาคารอายุรกรรม (อาคารอัษฎางค์)
- อาคารนรีเวชกรรม (อาคารตรีเพชร)
- อาคารสูติกรรม (อาคารจุฑาธุช)
- อาคารศัลยกรรมหญิง
- อาคารหอพักนักศึกษาแพทย์ชาย
- อาคารอายุกรรมพิเศษ (อาคารมหิดลวรานุสรณ์)
- อาคารหอนอนพยาบาล
ระเบียงภาพ
[แก้]-
ตึกชีววิทยา 1 / ตึกขาว คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
ตึกวิศวกรรมศาสตร์ 1 (ปราสาทแดง) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2483 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)[6]
- พ.ศ. 2480 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)[7]
- พ.ศ. 2467 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[8]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ, ศธ 21.1/177
- ↑ ประวัติสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์[ลิงก์เสีย]
- ↑ 3.0 3.1 3.2 หนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช ร. สุขยางค์)
- ↑ พระสาโรชรัตนนิมมานก์[ลิงก์เสีย]
- ↑ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ, ศธ0701.2.2/71
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน เก็บถาวร 2022-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๕๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๑๕๘, ๗ ตุลาคม ๒๔๘๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-08-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๕๔ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๖๘๓, ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๘๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-06-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๕๖๕, ๑ มกราคม ๒๔๖๗