พระราชวัชรญาณดิลก (ปัญญา สทฺธายุตฺโต)
พระราชวัชรญาณดิลก (ปัญญา สทฺธายุตฺโต) | |
---|---|
![]() | |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ (64 ปี) |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
การศึกษา | นักธรรมชั้นตรี,ศน.ม.(กิตติมศักดิ์) |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดมกุฎคีรีวัน นครราชสีมา |
อุปสมบท | ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ |
พรรษา | 33 |
ตำแหน่ง | เจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน |
พระราชวัชรญาณดิลก (ปัญญา สทฺธายุตฺโต) นามเดิมว่า ปัญญา ยาหอม เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน (ธรรมยุต) ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และเจ้าคณะอำเภอปากช่อง ฝ่ายธรรมยุต จังหวัดนครราชสีมา
ประวัติ
[แก้]ชาติกำเนิด
[แก้]พระราชวัชรญาณดิลก (ปัญญา สทฺธายุตฺโต) นามเดิมว่า วินัย ยาหอม (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ปัญญา ยาหอม เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗) เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ตรงกับวันศุกร์ เดือน ๑๑ ขึ้น ๒ ค่ำ ปีชวด ที่แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ ร.ต.ต.จันทร์ ยาหอม และนางฟู ยาหอม ศึกษาที่โรงเรียนราชดำริ กรุงเทพมหานคร จนสำเร็จการศึกษาในระดับชั้น ม.ศ. ๓ ในวัยเยาว์ได้เคยเป็นศิษย์วัดใกล้บ้านที่บางนา ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น ต่อมาหลังจากเข้ารับการเกณฑ์ทหารเพื่อไปรับใช้ชาติแล้ว ก็ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของพระญาณสิทธาจารย์ (สิงห์ สุนฺทโร) หรือหลวงปู่เมตตาหลวง ที่วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตามปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่เมตตาหลวงอยู่หลายปี เมื่อหลวงปู่เมตตาหลวงมรณภาพ
อุปสมบท
[แก้]เมื่ออายุ ๓๑ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยมีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (ประจวบ กนฺตาจาโร) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมธัชมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระธรรมปาโมกข์ ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชวราลังการ เป็นพระกรรมวาจารย์ ได้รับฉายาว่า สทฺธายุตฺโต และมาจำพรรษา ณ สำนักปฏิบัติธรรมมกุฏคีรีวัน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔
การช่วยเหลือสังคม
[แก้]ด้านสาธารณะสุข===โรงพยาบาลมกุฎคีรีวัน ปากช่องนานา
[แก้]พระราชวัชรญาณดิลก ท่านให้การสงเคราะห์ด้านสาธารณะสุขกับประชาชนในพื้นที่ แต่ก่อนชาวบ้านในบริเวณตำบลโป่งตาลอง ตำบลวังกะทะ และตำบลวังหมี ซึ่งมีประชาชนอยู่อาศัยในพื้นที่มากกว่า ๑๕,๐๐๐ คน ในยามเจ็บป่วยประชาชนจะต้องเดินทางไปรับบริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลปากช่องนานาหรือโรงพยาบาลวังน้ำเขียว ซึ่งมีระยะทางไกลมากกว่า ๔๐ กิโลเมตร ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของชาวบ้าน ที่ไม่สามารถเดินทางไปรักษาได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านเอาใจใส่ญาติโยมชาวบ้านในพื้นที่มาโดยตลอด
จึงเป็นที่มาของการ ก่อตั้ง โรงพยาบาลมกุฎคีรีวัน ปากช่องนานา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก จำนวน ๓๐ เตียง ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป อุบัติเหตุและเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการแพทย์แผนไทย แก่ประชาชนในตำบลโป่งตาลอง ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๔ พระราชวัชรญาณดิลก เจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน ได้มอบที่ดิน ๗ ไร่ โดยมีคุณคีรี กาญจนพาศน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และเพื่อนๆ ได้ร่วมกันบริจาคเงินในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ อาคารแพทย์แผนไทย อาคารผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโครงการระยะแรก ส่วนโรงพยาบาลปากช่องนานา ได้จัดทีมสหวิชาชีพมาให้บริการ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๖๑ พระราชวัชรญาณดิลก ได้ถวายโรงพยาบาลแห่งนี้ แด่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เพื่อเป็นโรงพยาบาลในพระองค์สำหรับดูแลประชาชน ข้าราชการ และข้าราชบริพารในพื้นที่ตำหนักทิพย์พิมาน โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้เขตสุขภาพที่ ๙ จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ในการพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพ และคุณภาพมาตรฐาน ท่านได้ให้การสงเคราะห์ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขในหลายๆด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งจตุปัจจัยซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รถพยาบาล ที่ดิน และปรับปรุงอาคารของโรงพยาบาล รวมถึงหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษาโรคให้กับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด เป็นต้น (ในฐานะของผู้เขียนและเป็นคนที่เกิดที่นี่ ขอขอบพระคุณในความเมตตาที่ท่านเจ้าคุณแดง ห่วงใยในชีวิตของชาวบ้าน และรู้สึกตื้นตันใจทุกครั้งที่ได้มากราบท่าน)
โรงเรียนสอนคนตาบอด
[แก้]โรงเรียนสอนคนตาบอดมกุฏคีรีวัน (เขาใหญ่) เกิดขึ้นจากคณะศิษยานุศิษย์ของพระคุณเจ้าหลวงปู่ บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ได้มีจิตศรัทธา จัดสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ ในวาระมงคลอายุ ครบ ๑๐๐ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ โดยพระคุณเจ้าพระราชวัชรญาณดิลก (ท่านเจ้าคุณแดง) ได้อนุเคราะห์ที่ดินประมาณ ๑๐ ไร่ บนเนื้อที่ของวัดมกุฏคีรีวัน และได้รับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างสถานศึกษาแห่งนี้จาก นายคีรี กาญจนพาสน์ ในนามของ “คีรีและเพื่อน”
สงเคราะห์หน่วยงานราชการ
[แก้]เนื่องจากท่านได้พิจารณาว่าหน่วยงานราชการต่างๆ มีหน้าที่โดยตรงในการช่วยเหลือ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน
ดังนั้นเมื่อหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น สถานีตำรวจภูธร องค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานของกรมป่าไม้ กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่มาขอความช่วยเหลือ ถ้าท่านพิจารณาแล้วเห็นสมควร ท่านก็จะช่วยเหลือเต็มที่ทั้งอาหารการกิน เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น การดำเนินการด้านอนุรักษ์ป่าไม้ โครงการปลูกป่า ท่านนำพาชาวบ้านประชาชนในพื้นที่และกลุ่มอนุรักษ์ร่วมด้วยช่วยกันปลูกป่าเป็นประจำทุกปี เป็นต้น
ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์
[แก้]- ๒๕๔๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
- ๒๕๔๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
- ๒๕๖๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอปากช่อง ฝ่ายธรรมยุต
ลำดับสมณศักดิ์
[แก้]- ๒๕๔๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นฐานานุกรม ที่ พระครูใบฎีกา
- ๒๕๔๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นฐานานุกรม ที่ พระครูพุทธพจนประกาศ
- ๒๕๔๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นฐานานุกรม ที่ พระครูวินัยธร
- ๒๕๔๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นฐานานุกรมสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ ที่ พระครูปลัดสัมพิพัฒนเมธาจารย์
- ๒๕๔๙ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยก ที่ พระญาณดิลก [1]
- ๒๕๖๗ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระราชวัชรญาณดิลก สุนทรนายกภาวนานุสิฐ ยติคณิสสรบวรสังฆาราม คามวาสี [2]


อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, ตอนที่ 15 ข, เล่ม 123, วันที่ 6 กรกฎาคม 2549, หน้า 11
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, ตอนที่ 38 ข, เล่ม 141, วันที่ 3 กรกฎาคม 2567, หน้า 8