ข้ามไปเนื้อหา

พระราชวัชรญาณดิลก (ปัญญา สทฺธายุตฺโต)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระราชวัชรญาณดิลก

(ปัญญา สทฺธายุตฺโต)
Buddhism
ส่วนบุคคล
เกิด๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ (64 ปี)
นิกายธรรมยุติกนิกาย
การศึกษานักธรรมชั้นตรี,ศน.ม.(กิตติมศักดิ์)
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดมกุฎคีรีวัน นครราชสีมา
อุปสมบท๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔
พรรษา33
ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน

พระราชวัชรญาณดิลก (ปัญญา สทฺธายุตฺโต) นามเดิมว่า ปัญญา ยาหอม เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน (ธรรมยุต) ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และเจ้าคณะอำเภอปากช่อง ฝ่ายธรรมยุต จังหวัดนครราชสีมา

ประวัติ

[แก้]

ชาติกำเนิด

[แก้]

พระราชวัชรญาณดิลก (ปัญญา สทฺธายุตฺโต) นามเดิมว่า วินัย ยาหอม (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ปัญญา ยาหอม เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗) เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ตรงกับวันศุกร์ เดือน ๑๑ ขึ้น ๒ ค่ำ ปีชวด ที่แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ ร.ต.ต.จันทร์ ยาหอม และนางฟู ยาหอม ศึกษาที่โรงเรียนราชดำริ กรุงเทพมหานคร จนสำเร็จการศึกษาในระดับชั้น ม.ศ. ๓ ในวัยเยาว์ได้เคยเป็นศิษย์วัดใกล้บ้านที่บางนา ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น ต่อมาหลังจากเข้ารับการเกณฑ์ทหารเพื่อไปรับใช้ชาติแล้ว ก็ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของพระญาณสิทธาจารย์ (สิงห์ สุนฺทโร) หรือหลวงปู่เมตตาหลวง ที่วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตามปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่เมตตาหลวงอยู่หลายปี เมื่อหลวงปู่เมตตาหลวงมรณภาพ

อุปสมบท

[แก้]

เมื่ออายุ ๓๑ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยมีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (ประจวบ กนฺตาจาโร) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมธัชมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระธรรมปาโมกข์ ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชวราลังการ เป็นพระกรรมวาจารย์ ได้รับฉายาว่า สทฺธายุตฺโต และมาจำพรรษา ณ สำนักปฏิบัติธรรมมกุฏคีรีวัน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔

การช่วยเหลือสังคม

[แก้]

ด้านสาธารณะสุข===โรงพยาบาลมกุฎคีรีวัน ปากช่องนานา

[แก้]
   พระราชวัชรญาณดิลก ท่านให้การสงเคราะห์ด้านสาธารณะสุขกับประชาชนในพื้นที่ แต่ก่อนชาวบ้านในบริเวณตำบลโป่งตาลอง ตำบลวังกะทะ และตำบลวังหมี ซึ่งมีประชาชนอยู่อาศัยในพื้นที่มากกว่า ๑๕,๐๐๐ คน ในยามเจ็บป่วยประชาชนจะต้องเดินทางไปรับบริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลปากช่องนานาหรือโรงพยาบาลวังน้ำเขียว ซึ่งมีระยะทางไกลมากกว่า ๔๐ กิโลเมตร ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของชาวบ้าน ที่ไม่สามารถเดินทางไปรักษาได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านเอาใจใส่ญาติโยมชาวบ้านในพื้นที่มาโดยตลอด 
   จึงเป็นที่มาของการ ก่อตั้ง โรงพยาบาลมกุฎคีรีวัน ปากช่องนานา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก จำนวน ๓๐ เตียง ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป อุบัติเหตุและเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการแพทย์แผนไทย แก่ประชาชนในตำบลโป่งตาลอง ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๔ พระราชวัชรญาณดิลก เจ้าอาวาสวัดมกุฎคีรีวัน ได้มอบที่ดิน ๗ ไร่ โดยมีคุณคีรี กาญจนพาศน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และเพื่อนๆ ได้ร่วมกันบริจาคเงินในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ อาคารแพทย์แผนไทย อาคารผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโครงการระยะแรก ส่วนโรงพยาบาลปากช่องนานา ได้จัดทีมสหวิชาชีพมาให้บริการ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๖๑ พระราชวัชรญาณดิลก ได้ถวายโรงพยาบาลแห่งนี้ แด่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เพื่อเป็นโรงพยาบาลในพระองค์สำหรับดูแลประชาชน ข้าราชการ และข้าราชบริพารในพื้นที่ตำหนักทิพย์พิมาน โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้เขตสุขภาพที่ ๙ จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ในการพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพ และคุณภาพมาตรฐาน
   ท่านได้ให้การสงเคราะห์ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขในหลายๆด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งจตุปัจจัยซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รถพยาบาล ที่ดิน และปรับปรุงอาคารของโรงพยาบาล รวมถึงหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษาโรคให้กับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด เป็นต้น (ในฐานะของผู้เขียนและเป็นคนที่เกิดที่นี่ ขอขอบพระคุณในความเมตตาที่ท่านเจ้าคุณแดง ห่วงใยในชีวิตของชาวบ้าน และรู้สึกตื้นตันใจทุกครั้งที่ได้มากราบท่าน)

โรงเรียนสอนคนตาบอด

[แก้]
    โรงเรียนสอนคนตาบอดมกุฏคีรีวัน (เขาใหญ่) เกิดขึ้นจากคณะศิษยานุศิษย์ของพระคุณเจ้าหลวงปู่ บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ได้มีจิตศรัทธา จัดสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ ในวาระมงคลอายุ ครบ ๑๐๐ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ โดยพระคุณเจ้าพระราชวัชรญาณดิลก (ท่านเจ้าคุณแดง) ได้อนุเคราะห์ที่ดินประมาณ ๑๐ ไร่ บนเนื้อที่ของวัดมกุฏคีรีวัน และได้รับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างสถานศึกษาแห่งนี้จาก นายคีรี กาญจนพาสน์ ในนามของ “คีรีและเพื่อน”

สงเคราะห์หน่วยงานราชการ

[แก้]
    เนื่องจากท่านได้พิจารณาว่าหน่วยงานราชการต่างๆ มีหน้าที่โดยตรงในการช่วยเหลือ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน 

ดังนั้นเมื่อหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น สถานีตำรวจภูธร องค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานของกรมป่าไม้ กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่มาขอความช่วยเหลือ ถ้าท่านพิจารณาแล้วเห็นสมควร ท่านก็จะช่วยเหลือเต็มที่ทั้งอาหารการกิน เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น การดำเนินการด้านอนุรักษ์ป่าไม้ โครงการปลูกป่า ท่านนำพาชาวบ้านประชาชนในพื้นที่และกลุ่มอนุรักษ์ร่วมด้วยช่วยกันปลูกป่าเป็นประจำทุกปี เป็นต้น

ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์

[แก้]

ลำดับสมณศักดิ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, ตอนที่ 15 ข, เล่ม 123, วันที่ 6 กรกฎาคม 2549, หน้า 11
  2. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, ตอนที่ 38 ข, เล่ม 141, วันที่ 3 กรกฎาคม 2567, หน้า 8