พระมงคลรังษี (สุวัฒน์ จนฺทสุวณฺโณ)
พระมงคลรังษี,วิ. (สุวัฒน์ จนฺทสุวณฺโณ) | |
---|---|
ชื่ออื่น | หลวงปู่ธรรมรังษี |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 6 เมษายน พ.ศ. 2462 (87 ปี) |
มรณภาพ | 9 ตุลาคม พ.ศ. 2549 |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | ป.4,ครุศาสตร์บัณฑิต(กิตติมศักดิ์) โปรแกรมวิชาจิตวิทยาและการแนะแนว |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | พระพุทธบาทพนมดิน จังหวัดสุรินทร์ |
อุปสมบท | 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2481 |
พรรษา | 68 |
ตำแหน่ง | อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทพนมดิน อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ |
พระมงคลรังษี,วิ. นามเดิม สุวัฒน์ ฉิง ฉายา จนฺทสุวณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทพนมดิน[1] อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เป็นพระเกจิมหาเถราจารย์ผู้อุดมเวทย์วิทยาคมแห่งดินแดนอิสานใต้
ชาติภูมิ
[แก้]- พระมงคลรังษี,วิ. นามเดิมชื่อ สุวัฒน์ ฉิง (ព្រះមង្គលរង្សី វិ.)[2]
- เกิดเมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๒
- ภูมิลำเนาเดิมมาตุภูมิ ตำบลเกีย อำเภอโมงฤษี (อำเภอโมงรือแซ็ยในปัจจุบัน) จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา
บรรพชาและอุปสมบท
[แก้]- เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ๑ พรรษา แล้วลาสิกขาออกมาช่วยบิดา-มารดา ทำงานจนอายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์จึงได้อุปสมบท
- อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ณ พัทธสีมาอุโบสถวัดเวฬุวนาราม (វត្តវេឡុវនារាម) ตำบลเกีย (ឃុំកៀ) อำเภอโมงรือแซ็ย (ស្រុកមោងឬស្សី) จังหวัดพระตะบอง (ខេត្តបាត់ដំបង) ประเทศกัมพูชา โดยมีพระสุวัณณเถระ เป็นพระอุปัชฌาย์ ,พระสุวัณณปัญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ,พระจันทัตตเถระ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ได้ให้นามฉายาว่า “ จนฺทสุวณฺโณ ”
วุฒิการศึกษา / วิทยฐานะ
[แก้]- เมื่อปฐมวัยได้ศึกษาจนจบการศึกษาภาคบังคับ (เทียบเท่าชั้น ป.๔ ของไทย)
งานปกครองคณะสงฆ์
[แก้]- ไดรับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอโมงรือแซ็ย จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา
- พ.ศ. 2540 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทพนมดิน[3] อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ [4]
การเข้าสู่ประเทศไทยเนื่องจากภัยสงครามกลางเมืองในประเทศกัมพูชา
[แก้]พระมงคลรังษี,วิ. (สุวัฒน์ จนฺทสุวณฺโณ)[5] หรือหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นพระที่มีใจใฝ่ปฏิบัติสมาธิภาวนา และกรรมฐาน ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานควบคู่กับการศึกษาพระเวทย์วิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ หลายรูปในประเทศกัมพูชาตลอด ๓๕ พรรษา จนมีวิชาแก่กล้าแตกฉานและเชี่ยวชาญหลายแขนงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน และจังหวัดใกล้เคียงในประเทศกัมพูชาในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่หลวงปู่ธรรมรังษีท่านอายุ ๒๐ ปี ท่านเน้นศึกษาสายพระเวทย์ วิทยาคมจากครูบาอาจารย์หลากหลายสำนัก รวมทั้งศึกษากับพระสังฆราชชวน นาถ (พระสังฆราชองค์ก่อนในยุค ๒๔๙๐) ซึ่งพระสังฆราชชวน นาถ ท่านเป็นมหาปราชญ์แห่งประเทศกัมพูชา หลวงปู่ธรรมรังษีท่านเรียนพระเวทย์เขมรโบราณชั้นสูง ตลอดระยะเวลา ๓๕ ปี (ถึงอายุ ๕๕ ปี) ควบคู่กับการปฏิบัติกรรมฐาน ก่อนที่หลวงปู่ธรรมรังษีจะหันมามุ่งเน้นการปฏิบัติกรรมฐานอย่างจริงจังเพียงอย่างเดียวในครั้งเวลาต่อมาในขณะนั้นหลวงปู่ได้รับสมณศักดิ์ เป็น “ พระครูธรรมรังษี “ เป็นเจ้าคณะอำเภอโมงรือแซ็ย
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๘ ขณะที่สงครามกลางเมืองในประเทศกัมพูชาร้อนระอุถึงขั้นวิกฤตนั้นหลวงปู่ธรรมรังษีในฐานะทายาทผู้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาตกอยู่ในฝ่ายตรงข้ามเขมรแดง เนื่องจากวัดวาอารามในจังหวัดใกล้เคียงจังหวัดพระตะบอง ถูกทำลายเสียหายและถูกยึดเป็นค่ายทหาร พระสงฆ์องค์ใดไม่อ่อนน้อมยอมลาสิกขาเข้าเป็นพวกจะถูกทรมานถึงชีวิต ที่หนีรอดก็กระจัดกระจายไม่ทราบชะตากรรม
คืนวันหนึ่ง ในขณะที่หลวงปู่ท่านนั่งเจริญสมาธิภาวนาในกลางดึกสงัด เกิดนิมิตทางหู ได้ยินเสียงประกาศกึกก้องมาแต่ไกล และใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา ท่านยังคงนั่งนิ่งดำรงสติมั่น และเกิดภาพนิมิตเบื้องหน้าปรากฏชัดเจน คือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของชาวไทย เสด็จยืนอยู่ใต้ร่มโพธิ์ใหญ่ มีข้าราชบริพารนั่งคุกเข่าเฝ้าถวายความเคารพอยู่เนืองแน่น หลวงปู่ท่านเพ่งมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งเลือนหายไป ภาพดังกล่าวยังคงติดตาหลวงปู่ธรรมรังษีมาโดยตลอด วันรุ่งขึ้นหลวงปู่ท่านได้เล่ามงคลนิมิตให้บรรดาญาติโยมและพระลูกวัดฟัง และเอ่ยบอกว่าประเทศไทยนี้ปลอดภัยที่สุด เพราะอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารพระบารมีองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะพาญาติโยมและพระลูกวัดทั้งหลายอพยพหนีร้อนมาพึ่งเย็น ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วจากนั้นหลวงปู่จึงพาคณะและพระ ๔ รูป เดินทางเช้าตรู่ วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ คล้อยหลังเพียงหนึ่งวันอำเภอโมงรือแซ็ย ได้ถูกเขมรแดงยึดไว้ได้ใน วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘
เกียรติคุณที่ได้รับ
[แก้]- วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2547 สถาบันราชภัฏสุรินทร์ มีมติถวายปริญญาครุศาสตร์บัณฑิต (กิตติมศักดิ์) โปรแกรมวิชาจิตวิทยาและการแนะแนว ถวายแด่ พระครูมงคลธรรมวุฒิ (สุวัฒน์ จนฺทสุวณฺโณ) ในปีการศึกษา 2546
สมณศักดิ์
[แก้]- ได้รับสมณศักดิ์ เป็น "พระครูธรรมรังษี" (ព្រះគ្រួធម្មរង្សី) เป็นเจ้าคณะอำเภอโมงรือแซ็ย จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา
- วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2545 เข้าเฝ้าสมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายมหานิกายแห่งประเทศกัมพูชา ได้รับประทานสมณศักดิ์พัดยศราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมวิริยาจารย์" (ព្រះធម្មវិរិយាចារ្យ)
- ได้รับแต่งตั้งจากพระเทพปัญญาเมธี (ทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ให้ดำรงตำแหน่งฐานานุกรมในพระราชาคณะชั้นเทพ ฐานานุศักดิ์ที่ "พระครูสังฆรักษ์สุวัฒน์ จนฺทสุวณฺโณ"
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2545 เนื่องในวโรกาสอันเป็นวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้รับพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานตั้งสมณศักดิ์พระครูสัญญาบัตร มีพัดยศสมณศักดิ์ประจำตำแหน่ง เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนามที่ “พระครูมงคลธรรมวุฒิ”[6](จร.ชท.)
- 12 สิงหาคม พ.ศ. 2547 เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ได้รับพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนามที่ “พระมงคลรังษี,(สย.วิ.)”[7]
ถึงแก่มรณภาพ
[แก้]วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2549 เวลา 22.48 น. พระมงคลรังษี, วิ.(สุวัฒน์ จนฺทสุวณฺโณ) ถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชรา ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพมหานคร ขณะเข้ามารักษาอาการอาพาธ สิริอายุ สิริอายุ 87 ปี 68 พรรษา [8] และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุชั่วคราววัดพระพุทธบาทเขาพนมดิน อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2558 เวลา 17.00น.[9]
ก่อนหน้า | พระมงคลรังษี (สุวัฒน์ จนฺทสุวณฺโณ) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
- | พระราชาคณะชั้นสามัญ พระมงคลรังษี (12 สิงหาคม พ.ศ.2547 - 9 ตุลาคม พ.ศ 2549) |
พระมงคลรังษี (เหลือ มหาปญฺโญ) |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "วัดพระพุทธบาทพนมดิน". ปักหมุดเมืองไทย. 2020-12-21.
- ↑ เว็บสนม, Websanom (วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555). "WEBSANOM - เว็บสนม: วัดพระพุทธบาทพนมดิน". WEBSANOM - เว็บสนม.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ http://www.m-culture.in.th/album/view/140053/
- ↑ https://culturalenvi.onep.go.th/index.php/site/detail/5807
- ↑ "เปิดบันทึกตำนาน (OFFICIAL) - YouTube". www.youtube.com.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 119, ตอนที่ 23ข, 11 ธันวาคม 2545, หน้า 80. ลำดับที่ 820. พระครูสังฆรักษ์ สุวัฒน์ วัดพระพุทธบาทพนมดิน จังหวัดสุรินทร์ เป็น พระครูมงคลธรรมวุฒิ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๒๑, ตอนที่ ๑๗ ข, ๑๕ กันยายน ๒๕๔๗, หน้า ๑๔
- ↑ "ผู้ว่าฯสุรินทร์อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพ "หลวงปู่ธรรมรังษี" เกจิชื่อดังอีสานใต้". mgronline.com. 2006-10-11.
- ↑ "๕ เม.ย.งานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ธรรมรังษี (ท่านเจ้าขุนสองแผ่นดิน) | OK NATION". www.oknation.net (ภาษาอังกฤษ).