บุรุษปราสาทฟ้า
ปกแข็ง ฉบับพิมพ์ครั้งที่หนึ่ง | |
ผู้ประพันธ์ | ฟิลิป เค. ดิก |
---|---|
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ประเภท | ประวัติศาสตร์ประยุกต์ |
สำนักพิมพ์ | พัตนัมส์ |
วันที่พิมพ์ | ตุลาคม ค.ศ. 1962 |
ชนิดสื่อ | สิ่งพิมพ์ (ปกแข็งและปกอ่อน) |
หน้า | 240 หน้า |
OCLC | 145507009 |
813.54 |
บุรุษปราสาทฟ้า (อังกฤษ: The Man in the High Castle) เป็นนวนิยายประวัติศาสตร์ประยุกต์ เขียนโดยฟิลิป เค. ดิก นักเขียนชาวอเมริกัน เล่าถึงชีวิตประจำวันภายใต้ระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จในปี ค.ศ. 1962 สิบห้าปีหลังนาซีเยอรมนีและจักรวรรดิญี่ปุ่นชนะสงครามโลกครั้งที่สอง และร่วมกันปกครองอดีตสหรัฐอเมริกา
ดิกได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้หลังอ่าน Bring the Jubilee นวนิยายของวอร์ด มัวร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมาพันธรัฐอเมริกาชนะสงครามกลางเมืองอเมริกา[1] ดิกยังกล่าวอีกว่าได้รับแนวคิดเพิ่มเติมจากหนังสือ ความรุ่งเรืองและล่มสลายของจักรวรรดิไรช์ที่สาม ประวัติศาสตร์เยอรมันภายใต้นาซี (The Rise and Fall of the Third Reich) โดยวิลเลียม แอล. ไชเรอร์, ฮิตเลอร์ ศึกษาแห่งทรราช (Hitler: A Study in Tyranny) โดยแอลัน บุลลอค และบันทึกของโยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ระหว่าง ค.ศ. 1942–1943[2] บุรุษปราสาทฟ้า ตีพิมพ์ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 และได้รับรางวัลฮิวโกสาขานวนิยายยอดเยี่ยมในปี ค.ศ. 1963
ในปี ค.ศ. 2015 บุรุษปราสาทฟ้า ได้รับการดัดแปลงเป็นซีรีส์โทรทัศน์โดยแอมะซอนสตูดิโอส์ ฉบับภาษาไทยแปลโดยยรรยง เต็งอำนวย ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 2018 โดยสำนักพิมพ์บทจร[3]
เนื้อหา
[แก้]เบื้องหลัง
[แก้]บุรุษปราสาทฟ้า บอกเล่าเรื่องราวเมื่อแฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ ประธานาธิบดีสหรัฐถูกลอบสังหารโดยจูเซปเป แซงการาสำเร็จในปี ค.ศ. 1933 ทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ดำเนินต่อไป และสหรัฐดำเนินนโยบายโดดเดี่ยวในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่สอง[4] ด้านอดอล์ฟ ฮิตเลอร์นำนาซีเยอรมนีพิชิตยุโรปส่วนใหญ่และสหภาพโซเวียต พร้อมทั้งกวาดล้างชาวยิว ชาวโรมานี และชาวสลาฟ ขณะเดียวกันจักรวรรดิญี่ปุ่นยึดเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย ก่อนจะร่วมกับนาซีบุกสหรัฐอเมริกาจากทางตะวันออกและตะวันตก จนในที่สุดปี ค.ศ. 1947 สหรัฐและพันธมิตรที่เหลืออยู่ยอมจำนนต่อฝ่ายอักษะ เป็นอันสิ้นสุดสงคราม[5]
คริสต์ทศวรรษ 1960 ญี่ปุ่นกับนาซีกลายเป็นสองมหาอำนาจที่แข่งขันกัน ดินแดนสหรัฐอเมริกาเดิมถูกแบ่งเป็นสามส่วน ญี่ปุ่นปกครองสหรัฐแปซิฟิกแห่งอเมริกา (Pacific States of America) ฝั่งตะวันตก ตรงกลางเป็นพื้นที่กันชนเรียกว่ากลุ่มมลรัฐเทือกเขาร็อกกี (Rocky Mountain States) และนาซีปกครองฝั่งตะวันออกที่แยกเป็นสองประเทศ ด้านฮิตเลอร์ยังมีชีวิตอยู่แต่ป่วยหนักด้วยซิฟิลิส มาร์ทีน บอร์มันจึงดำรงตำแหน่งผู้นำแห่งไรช์ โดยมีโยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ ไรน์ฮาร์ท ไฮดริช แฮร์มัน เกอริง และอาร์ทัวร์ ไซส์-อินควาร์ทวางแผนชิงอำนาจ ฝ่ายนาซีดำเนินหลายโครงการ เช่น สูบน้ำออกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อปรับเป็นที่เพาะปลูก พัฒนาระเบิดไฮโดรเจน ออกแบบจรวดความเร็วสูงเพื่อใช้เดินทาง และตั้งนิคมบนดวงจันทร์ ดาวศุกร์ และดาวอังคาร[6] ฉากในเรื่องส่วนใหญ่ดำเนินในเมืองซานฟรานซิสโก ที่ซึ่งชาวจีนถูกจัดให้เป็นพลเมืองชั้นสอง และชาวผิวสีตกเป็นทาส และเมืองแคนยอนซิตี เดนเวอร์ และไชแอนน์ในกลุ่มมลรัฐเทือกเขาร็อกกี
เรื่องย่อ
[แก้]ในปี ค.ศ. 1962 สิบห้าปีหลังนาซีเยอรมนีและจักรวรรดิญี่ปุ่นชนะสงครามโลกครั้งที่สอง โรเบิร์ต "บ๊อบ" ไชล์แดนเปิดร้านหัตถศิลป์อเมริกันในเมืองซานฟรานซิสโก ไชล์แดนได้รับการติดต่อจากโนบุสุเกะ ทาโกมิ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นเพื่อให้หาของกำนัลแก่เบนย์ส นักธุรกิจชาวสวีเดน สินค้าบางส่วนของไชล์แดนเป็นของทำเลียนแบบจากโรงงานวินดัม-แมตสัน โรงงานที่แฟรงก์ ฟริงก์ ทหารผ่านศึกผู้ปิดบังตนเองว่าเป็นชาวยิวเพิ่งถูกไล่ออก ต่อมาแฟรงก์ตกลงตั้งธุรกิจเครื่องประดับทำมือกับอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจูเลียนา ฟริงก์ อดีตภรรยาของแฟรงก์ทำงานเป็นครูสอนยูโดที่เมืองแคนยอนซิตีเริ่มคบหากับโจ ซินนาเดลลา คนขับรถบรรทุกชาวอิตาลี ตลอดทั้งเรื่องตัวละครมักใช้ อี้จิง วิชาพยากรณ์ของจีนในการช่วยตัดสินใจครั้งสำคัญ และหลายตัวละครอ่านนวนิยายที่ถูกสั่งห้ามเรื่อง ตั๊กแตนนอนหมอบ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับฝ่ายสัมพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่สอง เขียนโดยนักเขียนลึกลับนามฮอว์ธอร์น อเบนด์เซน
แฟรงก์ขู่จะเปิดโปงวินดัม-แมตสันว่าจัดหาของเลียนแบบให้ไชล์แดนเพื่อรีดเอาทรัพย์หาทุนสนับสนุนธุรกิจของตนเอง ด้านทาโกมิและเบนย์สยังหารือกันไม่ได้เนื่องจากต้องรอยาตาเบ้ บุคคลที่สามจากญี่ปุ่น ทันใดนั้นมีข่าวว่ามาร์ทีน บอร์มันเสียชีวิตหลังล้มป่วยได้ไม่นาน ส่วนไชล์แดนนำของฝากขายของแฟรงก์มาเสนอลูกค้าชาวญี่ปุ่น ผู้รับรู้ได้ถึง "พลังงาน" บางอย่างจากของชิ้นนั้น ขณะที่จูเลียนาและโจเดินทางไปเดนเวอร์ โดยโจชักชวนจูเลียนาให้ไปเยี่ยมอเบนด์เซนที่อาศัยอยู่ใน ปราสาทฟ้า ในเมืองไชแอนน์ หลังบอร์มันเสียชีวิตไม่นาน มีข่าวว่าโยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ได้ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่
เบนย์สและทาโกมิพบกับยาตาเบ้หรือนายพลเทเดกิ ต่อมามีการเปิดเผยว่าเบนย์สคือนามแฝงของรูดอล์ฟ เวเกนเนอร์ นาซีผู้แปรพักตร์ที่กำลังถูกซิชเชอร์ไฮทซ์ดีนสท์ (SD) ตามล่า เวเกนเนอร์เตือนนายพลเทเดกิว่านาซีมีแผนโจมตีหมู่เกาะญี่ปุ่นด้วยระเบิดปรมาณู ขณะหารือกันอยู่เจ้าหน้าที่ SD สองนายบุกเข้ามาแต่ถูกทาโกมิใช้ปืนโบราณยิงตายทั้งคู่ ด้านแฟรงก์ถูกคนแจ้งข่าวว่าเป็นชาวยิวและถูกจับกุม ขณะที่จูเลียนาอนุมานได้ว่าโจมีแผนจะฆ่าอเบนด์เซน ซึ่งต่อมาโจยอมรับว่าตนเป็นมือสังหารของนาซี จูเลียนาสบโอกาสทำร้ายโจจนตาย และรีบขับรถไปเตือนอเบนด์เซน
เวเกนเนอร์กลับไปที่เยอรมนีและพบว่าไรน์ฮาร์ท ไฮดริชที่ต่อต้านแผนโจมตีญี่ปุ่นมีแผนจะล้มเกิบเบิลส์ ขณะที่ทาโกมิซึ่งยังตระหนกนำปืนที่ใช้ยิงเจ้าหน้าที่ SD ไปขายคืนให้ไชล์แดน แต่เขากลับซื้อเครื่องประดับชิ้นหนึ่งกลับมา หลังจากนั้นทาโกมิรับรู้ถึงพลังงานจากเครื่องประดับชิ้นนั้นจนมองเห็น "ประวัติศาสตร์อีกด้าน" ของซานฟรานซิสโก และภายหลังบังคับกงสุลเยอรมันให้ปล่อยตัวแฟรงก์โดยที่ไม่รู้ว่าแฟรงก์เป็นผู้ทำเครื่องประดับชิ้นนี้ ด้านจูเลียนาเดินทางไปที่ ปราสาทฟ้า ของอเบนด์เซน และพบว่าเขาย้ายมาอยู่บ้านชั้นเดียวธรรมดา หลังหลบเลี่ยงหลายคำถามที่จูเลียนาถาม อเบนด์เซนเปิดเผยว่าเขาใช้ อี้จิง ในการชี้แนะตอนเขียน ตั๊กแตนนอนหมอบ ในตอนจบของเรื่องจูเลียนาและอเบนด์เซนทำการเสี่ยงทายด้วย อี้จิง และพบว่าแท้จริงแล้วเยอรมนีและญี่ปุ่นแพ้สงคราม
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Bolton, Naomi (September 9, 2019). "Alternate War History Novels Like The Man In The High Castle". ManyBooks. สืบค้นเมื่อ January 8, 2021.
- ↑ บุรุษปราสาทฟ้า, ฟิลิป เค. ดิก เขียน ยรรยง เต็งอำนวย แปล, หน้า 9, พ.ศ. 2561, สำนักพิมพ์บทจร กรุงเทพฯ
- ↑ "บุรุษปราสาทฟ้า: ประวัติศาสตร์และปรัชญาในโลกคู่ขนาน". The Momentum. December 1, 2018. สืบค้นเมื่อ January 8, 2021.
- ↑ Bady, Aaron (January 17, 2017). "Philip K. Dick's Vision for Resisting Fascism in America". The New Yorker. สืบค้นเมื่อ January 8, 2021.
- ↑ Gray, John (March 17, 2016). "John Gray on Philip K Dick: lost in the multiverse of history". New Statesman. สืบค้นเมื่อ January 8, 2021.
- ↑ "The Man in the High Castle". Project Gutenberg Self-Publishing. สืบค้นเมื่อ January 8, 2021.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ บุรุษปราสาทฟ้า