ทีมู
บทความนี้เป็นการแปลคร่าว ๆ จากภาษาอื่น ซึ่งอาจเป็นการแปลโดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือไม่ใช่ผู้ชำนาญทางภาษา |
ก่อขึ้น | กรกฎาคม 2022 |
---|---|
พื้นที่ให้บริการ | รายการ
|
อุตสาหกรรม | อีคอมเมิร์ซ |
บริการ | การซื้อขายออนไลน์ |
บริษัทแม่ | พีดีดีโฮล์ดิงส์[8] |
ยูอาร์แอล | เว็บไซต์ทางการ |
เปิดตัว | กันยายน ค.ศ. 2022 |
ทีมู (อังกฤษ: Temu; /ˈtiːmuː/ tee-moo) คือแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทอีคอมเมิร์ซจีน พีดีดีโฮล์ดิงส์[8] [9] โดยมักมีสินค้าที่ลดราคาให้ถูกมาก ส่วนใหญ่จัดส่งโดยตรงจากประเทศจีน[10][11]
โมเดลธุรกิจของทีมูทำให้บริษัทได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้ใช้ แต่ก็นำไปสู่ความกังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การใช้แรงงานบังคับ ทรัพย์สินทางปัญญา และคุณภาพของสินค้าที่ผู้ใช้จะได้รับ บริษัทมีข้อพิพาททางกฎหมายกับคู่แข่งอย่าง ชีอิน
ประวัติ
[แก้]ทีมูเป็นครอบครองและดำเนินการโดยพีดีดีโฮล์ดิงส์ ซึ่งเป็นกลุ่มพาณิชย์ข้ามชาติที่จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน โดยมีดับลินเป็นที่ตั้ง สำนักงานใหญ่[9][12] พีดีดีโฮลดิงส์ยังเป็นเจ้าของ พินตัวตัว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในประเทศจีนอีกด้วย[13][14] ในสหรัฐ ทีมูอยู่ภายใต้การครอบครองของ เวลโค, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของพีดีดีโฮล์ดิงส์ที่จดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์และแมสซาชูเซตส์[15]
แพลตฟอร์มทีมูเริ่มใช้งานครั้งแรกในสหรัฐในเดือนกันยายน 2022 และแสดงโฆษณาในช่วงซุปเปอร์โบวล์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023[16] ในเดือนมีนาคม 2023 ทีมูเปิดตัวในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในเดือนต่อมา ทีมูเปิดตัวในฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และสหราชอาณาจักร ในที่สุดทีมูก็ขยายกิจการเข้าสู่ตลาดละตินอเมริกา[17] เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2024 ทีมูเปิดตัวอย่างเป็นทางการในแอฟริกาใต้ นับเป็นประเทศที่ 49 ที่ทีมูเปิดเปิดตัวนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2022[18]
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ทีมูเสนอแจกเงิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโฆษณาซุปเปอร์โบวล์หลายรายการซึ่งสมาชิกรัฐสภาสหรัฐหลายคนขอให้อย่าลงโฆษณา[19] ต่อมาบริษัทพบว่าการค้นหาชื่อและการเข้าชมของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น[11][20] โดยมีผู้ใช้งานจริงในสหรัฐกว่า 100 ล้านคน ดาวน์โหลดแอปทั่วโลกมากกว่า 130 ล้านครั้ง และมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ประมาณ 420 ล้านครั้งต่อเดือน ตามข้อมูลของเซมรัช[21][22] ผลการวิจัยของเซนเซอร์ทาวเวอร์ประมาณการว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของ ค.ศ. 2023 ผู้ใช้ทีมูใช้เวลาเฉลี่ย 23 นาทีต่อสัปดาห์บนแอป เมื่อเทียบกับ 18 นาทีบนแอมะซอน และ 22 นาทีบนอีเบย์[11]
คดีความกับบริษัทชีอิน
[แก้]ในเดือนธันวาคม 2022 ทีมูถูกฟ้องโดยบริษัทคู่แข่ง ชีอิน โดยกล่าวหาว่า ทีมูวานออนไลน์อินฟลูเอนเซอร์ "ให้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จและหลอกลวง" เกี่ยวกับบริษัทชีอินเพื่อโฆษณาสินค้าของตนเอง ต่อมาทีมูฟ้องบริษัทชีอินในเดือนกรกฎาคม 2023 โดยกล่าวหาว่าบริษัทชีอิน "มีส่วนร่วมในการปลุกระดมข่มขู่ คุกคาม กล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเท็จ และพยายามปรับเงินโดยไม่มีเหตุผล" ต่อผู้ผลิตเสื้อผ้าที่คาดว่าทำงานร่วมกับทีมู[23] เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2023 ชีอินชนะคดีระหว่างทีมูในอีกคดีหนึ่ง ซึ่งกล่าวหาว่าทีมูใช้ภาพที่มีลิขสิทธิ์ของชีอินในรายการสินค้า[24] ต่อมาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ชีอินได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงลอนดอน โดยกล่าวหาว่าผู้ใช้ที่จำหน่ายสินค้า "จำนวนนับพัน" ในทีมูคัดลอกภาพถ่ายรายการของบริษัทชีอิน และขอร้องให้ลบโพสต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมด พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายอย่างน้อย 100,000 ปอนด์[25]
ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2023 ทีมูยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ โดยกล่าวหาว่าชีอินละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด[26] ทีมูระบุในคำฟ้องว่าในปี 2022 ชีอินเป็นครอบครองตลาดอัลตราฟาสต์แฟชั่นของสหรัฐมากกว่า 75% และใช้ความได้เปรียบในตลาดเพื่อบีบบังคับให้ผู้ผลิตเครื่องแต่งกายไม่ร่วมมือกับทีมู[26] ทีมูโต้แย้งต่อไปว่าในเดือนพฤษภาคม 2023 ชีอินสั่งให้ผู้ประกอบการ 8,338 รายที่ขายบนแพลตฟอร์มชีอินตกลงในข้อตกลงพิเศษ ซึ่ไม่ให้ขายสินค้าของตนบนแพลตฟอร์มทีมู หรือให้กับผู้ขายในเครือทีมู[26] ทีมูอ้างว่าผู้ผลิตเหล่านี้ที่เชื่อมโยงกับชีอินคิดเป็นส่วนมากที่ประมาณ 70% - 80% ของผู้ประกอบการทั้งหมดที่จำหน่ายสินค้าอัลตราฟาสต์แฟชั่นในสหรัฐ ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อย และขัดขวางการเติบโตของตลาดอัลตราฟาสต์แฟชั่นในสหรัฐ[26]
ในเดือนตุลาคม 2023 ชีอินและทีมูยื่นคำขอให้ยกฟ้องคดีที่ตนฟ้องต่อกัน ในรัฐแมสซาชูเซตส์และอิลลินอย ทั้งสองบริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมหรือระบุว่าได้มีการตกลงกันแล้วหรือไม่[27]
ในเดือนธันวาคม 2023 ทีมูฟ้องชีอินอีกครั้งโดยกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงผู้จัดหาอย่างผิดกฎหมาย[14] ในเดือนสิงหาคม 2024 ชีอินยื่นฟ้อง ทีมูในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ[28]
โมเดลธุรกิจ
[แก้]ทีมูช่วยให้ผู้จัดจำหน่ายในประเทศจีนสามารถขายและจัดส่งสินค้าถึงลูกค้าได้โดยตรงโดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางในประเทศปลายทาง ทำให้สินค้าราคาถูกลง[29] ผู้ขายบางรายระบุว่าทีมูขอให้พวกเขาลดราคาลงถึงขนาดขายสินค้าขาดทุนด้วยซ้ำ ทีมูเสนอสินค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับผู้ใช้บางรายที่ชวนให้สมัครเป็นผู้ใช้ใหม่สำเร็จผ่านรหัสที่ติดในลิงก์ชวน โซเชียลมีเดีย และการเล่นเกมในแพลตฟอร์ม ทีมูเปิดระบบซื้อออนไลน์ผ่านเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตหรือผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ทีมูมีการลงโฆษณาออนไลน์ขนาดใหญ่คือเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม[30]
ทีมูมีเงื่อนไขให้ผู้ขายตั้งราคาให้ต่ำกว่าแพลตฟอร์มอะลีเอ็กซ์เพรส[31] เมื่อผู้ขายหลายรายเสนอสินค้าเดียวกัน ทีมูจะปล่อยผ่านเพียงรายการที่ราคาต่ำที่สุดเท่านั้น[31] สินค้าที่ไม่สามารถจำหน่ายถึงยอดที่กำหนดได้ (ขายได้ 30 ชิ้นและ 90 ดอลลาร์ใน 14 วัน) จะถูกลบออกจากแพลตฟอร์ม[31]
การแข่งขันทางตลาดระหว่างทีมูและแอมะซอนส่งผลให้ทั้งสองบริษัทต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของกันและกันในปี 2024 โดยทีมูจึงให้ตั้งคลังสินค้าในสหรัฐเพื่อลดระยะเวลาในการจัดส่ง ขายสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ขณะที่ แอมะซอนตกลงในสัญญากับผู้ขายในจีนเพื่อส่งสินค้าโดยตรงถึงผู้ซื้อเป็นทางเลือกแทนการใช้คลังสินค้า "ฟูลฟิลเมนต์บายแอมะซอน" ที่มีอยู่[32]
ในเดือนกันยายน 2024 ในการบริหารของประธานาธิบดีไบเดินประกาศว่าจะเสนอกฎใหม่เพื่อปิดข้อยกเว้น มูลค่าอย่างต่ำปลอดภาษี (de minimis) ที่ตั้งไว้ที่ 800$ และกำหนดข้อกำหนดให้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม[33] แผนดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าผู้ขายรายย่อยอาจทำให้เสียดุลยภาพเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่างทีมู[34]
ในเดือนตุลาคม 2024 อินโดนีเซียได้ขอให้แอปเปิลและกูเกิลปิดกั้นทีมูจากร้านค้าแอปเพื่อปกป้องธุรกิจขนาดเล็กในประเทศ[35]
การวิจารณ์
[แก้]โฆษณา
[แก้]ในปี 2023 หน่วยงานมาตรฐานการโฆษณาของสหราชอาณาจักรได้สั่งห้ามโฆษณาทีมูจำนวน 5 รายการ เนื่องจากเป็นภาพเด็กสาวสวมบิกินี่ซึ่งคาดว่ามีอายุระหว่าง 8 ถึง 11 ปี ในท่าที่ "ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่สำหรับวัยของเธอ" สวมจ็อกสแตรปที่เน้น "โครงร่างของอวัยวะเพศ" สวมกางเกงขาสั้นที่ "ดูเหมือนกางเกงใน" โดยมีส่วนล่างตัดออก และสวมภาพชุดเดรสที่ไม่แสดงหน้าของนางแบบ ทีมูกล่าวว่ารูปภาพของเด็กหญิงนั้นละเมิดนโยบายของบริษัทและจะไม่แสดงอีก แต่โต้แย้งผลการพิจารณาอื่น ๆ ของหน่วยงาน โดยกล่าวว่าการไม่แสดงใบหน้าของนางแบบนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ผู้หญิงเป็นวัตถุ และระบุว่ามีผู้ประกอบการกลุ่มอื่นก็ใช้รูปภาพในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน[36] [37]
ทีมูกำลังเผชิญกับคดีความสองคดีในสหรัฐ กรณีส่งข้อความโดยไม่ได้รับอนุญาตไปยังหมายเลขในทะเบียนละเว้นการโทร ซึ่งยังคงส่งต่อไปแม้ว่าผู้รับจะขอให้ "หยุด" แล้วก็ตาม[38]
การร้องเรียนจากผู้ใช้
[แก้]ผู้ขายบางคนใช้ทีมูเป็นเพื่อล้างสต็อกโดยพยายามขายสินค้าคุณภาพต่ำ หมดอายุ หรือล้าสมัย[39]
อ้างอิงจากแอนดรวู โชว์เขียนไว้ในนิตยสารไทม์ ระบุว่าในปี 2022 ลูกค้าของทีมูประสบปัญหามากมาย เช่นพัสดุไม่ได้รับการจัดส่ง สินค้ามีตำหนิหรือไม่ตรงเนื่องจากโฆษณาไม่ตามจริง และเพิ่มค่าใช้จ่ายในรายการสรุปโดยไม่ทราบที่มา รวมถึงฝ่ายบริการลูกค้าไม่ตอบสนอง
อ้างอิงจากซาราห์ เปเรซ ซึ่งเขียนบทความเกี่ยวกับการโฆษณาของทีมูให้กับเทคครันช์ว่า "โฆษณาเหล่านี้ดูเหมือนจะช่วยเพิ่มจำนวนการติดตั้งทีมูได้ แต่ถ้าคุณลองอ่านรีวิวของแอปนี้ดู คุณจะพบว่ามีข้อตำหนิคล้าย ๆ กันกับวิชรวมถึงการลงรายการสินค้าที่หลอกลวง การจัดส่งเสียหายหรือล่าช้า คำสั่งซื้อไม่ถูกต้อง และขาดการบริการลูกค้า"[30]
ในเดือนตุลาคม 2022 สำนักงานเบตเทอร์บิซซีเนซซ์สาขาบอสตันเปิดสืบค้นเกี่ยวกับทีมูและในท้ายปี 2022 พวกเขาได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าเกี่ยวกับบริการของเว็บไซต์ในขณะนั้น 31 ครั้ง ในเดือนมกราคม 2024 บริษัทมีระดับเครดิตบีบีบีในระดับ C+ แม้ว่าจะไม่ได้รับการรับรองระดับบีบีบีก็ตาม
ในเดือนมีนาคม 2024 เบบีเซนเตอร์ตรวจสอบแอปทีมูและระบุว่าเว็บไซต์พบสินค้าที่ถูกเรียกคืน อาจเป็นของปลอม หรือไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของสหรัฐ รวมถึงขาดคุณสมบัติที่สำคัญในการป้องกันปัญหาต่าง ๆ เช่น การสำลัก[40]
ในเดือนพฤษภาคม 2024 องค์กรผู้บริโภคยุโรปยื่นเรื่องร้องเรียนว่าด้วยทีมูต่อคณะกรรมาธิการยุโรป โดยกล่าวหาว่ามีการละเมิดกฎหมายบัญญัติบริการดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดการติดตามผู้ใช้ และความโปร่งใสและความรับผิดชอบตามอัลกอริทึมที่ใช้ในระบบแนะนำของแอปพลิเคชัน[41] ในเดือนเดียวกัน คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่าทีมูจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายบัญญัติบริการดิจิทัลดังกล่าว[42]
คุณภาพสินค้า
[แก้]ในเดือนสิงหาคม 2024 เจ้าหน้าที่ในกรุงโซลค้นพบว่าสินค้าที่จำหน่ายโดยผู้ใช้ในแพตฟอร์มซื้อขายยอดนิยมอย่างชีอิน, ทีมู และอะลีเอ็กซ์เพรส มีสารพิษเกินปริมาณปลอดภัยตามกฎหมายอย่างมาก การตรวจสอบพบสารเคมีอันตราย เช่น พทาเลท ฟอร์มาลดีไฮด์ และตะกั่วในปริมาณที่น่าตกใจในสิ่งของต่าง ๆ เช่น รองเท้า หมวก ของเล่น และน้ำยาทาเล็บ สารเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างมาก รวมถึงเป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง และเป็นพิษต่อตับ ทำให้เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้เรียกร้องให้มีการปลดสินค้าเหล่านี้ออกจากรายการสินค้า ในขณะที่บริษัทที่เกี่ยวข้องเริ่มดำเนินการสอบสวนภายในเพื่อปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย[43][44]
ในการสืบสวนอีกกรณีหนึ่งที่ดำเนินการโดยอุตสาหกรรมของเล่นยุโรปในช่วงต้นปี 2024 พบว่าของเล่น 19 ชิ้นที่ซื้อจากทีมูไม่เป็นไปตามระเบียบความปลอดภัยของสหภาพยุโรป โดยมี 18 ชิ้นที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสำคัญต่อเด็ก ๆ ของเล่นไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญ ส่งผลให้เกิดอันตรายได้ เช่น การสำลัก การรัดคอ และการสัมผัสสารเคมี รวมถึงเน้นย้ำถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้ขายตติยภูมิบนแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่สหภาพยุโรป เช่น ทีมู ซึ่งหลีกเลี่ยงกฎหมายความปลอดภัยที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป สิ่งนี้ส่งผลให้มีการเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและการแก้ไขกฎระเบียบความปลอดภัยของเล่นเพื่ออุดช่องโหว่ทางกฎหมายและเพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองที่ดีกว่า[45]
ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
[แก้]ในเดือนพฤษภาคม 2023 คณะกรรมธิการตรวจสอบความมั่นคงและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ-จีน ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บนทีมูหลังจากที่พินตัวตัวซึ่งเป็นแอปในเครือเดียวกันในจีน ถูกระงับจากกูเกิล เพลย์ เนื่องจากพบว่าแอปบางเวอร์ชันที่ไม่มีอยู่ในกูเกิลส์ แอปสโตร์ของกูเกิลมีมัลแวร์[46][47][48] สองวันหลังจากปล่อยการอัพเดตเพื่อลบช่องโหว่ พินตัวตัวจึงยุบทีมวิศวกรและผู้จัดการสินค้าที่เพิ่มช่องโหว่ดังกล่าว จากแหล่งข่าวของซีเอ็นเอ็นระบุว่าสมาชิกในทีมผู้พัฒนาส่วนใหญ่ถูกย้ายมาที่ทีมู โดยกระจายไปทำงานในแผนกต่าง ๆ แต่กลุ่มแกนหลักของวิศวกรยังคงอยู่ที่พินตัวตัว[49]
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2023 เกรก จีอันโฟร์เต ผู้ว่าการรัฐมอนแทนาของสหรัฐสั่งห้ามทีมูบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั่วทั้งรัฐ รวมถึงแอปพลิเคชันจากไบต์แดนซ์ (รวมถึง ติ๊กต็อก), วีแชต และเทเลแกรม[50][51]
ตามรายงานของโพลิติโก "แอปเปิลกล่าวว่าบริษัท [ทีมู] ได้ละเมิดกฎความเป็นส่วนตัวที่บังคับใช้ของบริษัทก่อนหน้านี้และทำให้ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการใช้ข้อมูลของพวกเขา"[52]
มีการฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มอีกคดีหนึ่งต่อทีมูในปี 2023 ในรัฐอิลลินอย[53] และในนิวยอร์กในเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนตัวของทีมูที่รวบรวมผ่านบัญชีที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของพวกเขา[54][55]
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 คณะกรรมาธิการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเกาหลีใต้ได้เริ่มการสอบสวนทีมูและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลผู้ใช้ [56] ในเดือนมิถุนายน 2024 อธิบดีอัยการรัฐอาร์คันซอยื่นฟ้อง ทีมูโดยกล่าวหาว่ามีมัลแวร์และมีพฤติกรรมหลอกลวง[57]
ความกังวลเรื่องแรงงานบังคับ
[แก้]ในเดือนมิถุนายน 2023 คณะกรรมการคัดเลือกของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่าด้วยการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ระหว่างสหรัฐและพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า ทีมูไม่ได้รักษา "แม้แต่ฉากหน้าของการปฏิบัติตาม" กับพระราชบัญญัติป้องกันแรงงานบังคับอุยกูร์เพื่อเก็บสินค้าที่ผลิตโดยแรงงานบังคับออกจากแพลตฟอร์ม[58][59][60][61] รายงานของคณะกรรมการได้ประเมินเชิงวิพากษ์เกี่ยวกับทีมู โดยระบุว่ามี "ความเสี่ยงสูงมากในการเชื่อมโยงของแรงงานบังคับภายในห่วงโซ่สินค้าของทีมู" [61] นอกจากนี้ รายงานยังพบอีกว่าทีมูใช้ประโยชน์จากกฎมูลค่าอย่างต่ำปลอดภาษีของสหรัฐในการเลี่ยงการบังคับกฎหมายศุลกากร [62] ในปี 2024 ทีมูผชิญกับข้อวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งโดยอ้างถึงรายงานปี 2023 ของวุฒิสมาชิกสหรัฐ ทอม คอตทอนและตัวแทนสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แคต แคมแมกก์ และมิเชล สตีล หลังจากทีมูออกอากาศโฆษณาในช่วงซุเปอร์โบลว์ LVIII[62] ในเดือนสิงหาคม 2024 อธิบดีอัยการแห่งรัฐในสหรัฐกว่า 20 คนขอข้อมูลจากทีมูเกี่ยวกับเงื่อนไขการทำงาน การปฏิบัติตามกฎหมายบัญญัติป้องกันแรงงานบังคับอุยกูร์ และข้อเชื่อมโยงที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน[63][64]
ความกังวลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา
[แก้]ผู้ขายในทีมูต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาบ่อยครั้งว่าละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา [65] มีรายงานกรณีการขโมยผลงานออกแบบอันมีลิขสิทธิ์ด้วย [66]
ความกังวลเรื่องการทำงานในบริษัท
[แก้]ทีมูถูกวิจารณ์ว่ามีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้มข้นและสนับสนุนระบบการทำงาน 996 [67] วัฒนธรรมทำงานนี้มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของพนักงานบริษัทพีดีดีโฮล์ดิงส์ ซึ่งกลายเป็นพาดหัวข่าวไปทั่วโลก[67]
ในปี 2024 ไฟแนนเชียลไทมส์และเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า พินตัวตัวฟ้องอดีตพนักงานหลายราย ฐานละเมิดข้อตกลงการห้ามแข่งขัน หลักฐานที่พินตัวตัวยื่นต่อศาล ได้แก่วิดีโอบันทึกของอดีตพนักงานที่ไปทำงานให้กับคู่แข่งของพินตัวตัว และกล่าวว่าได้รับหลักฐานมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย[68] [69]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "China-backed shopping app that could unseat Kmart, Big W". News.com.au. April 18, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 18, 2023. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
- ↑ "Temu: varejista concorrente da Shopee e AliExpress começa a vender produtos no Brasil". TudoCelular.com. June 6, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2024. สืบค้นเมื่อ July 7, 2024.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 3.6 Qu, Tracy (2023-04-24). "Chinese budget shopping app Temu opens in Europe amid rapid expansion". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 25, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-04-25.
- ↑ McLymore, Arriana; Hall, Casey (2023-03-10). "Shein, Temu in fierce fight over US market for $10 dresses". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 25, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-04-25.
- ↑ Vega, Fernando (2023-08-30). "Temu, la app que compite con Shein y Aliexpress, aterriza en Chile". La Tercera. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-05-11.
- ↑ Crystal, Meirav (October 3, 2023). "Cheaper than AliExpress: Chinese website TEMU starts shipping to Israel". Ynetnews. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 8, 2023. สืบค้นเมื่อ October 4, 2023.
- ↑ Joder, Denise (August 13, 2023). "Aggressive adverdisting: Temu e new, clever player in online commerce (in German)". Swiss Radio and TV. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 15, 2023. สืบค้นเมื่อ January 4, 2024.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 Murray, Conor (February 17, 2023). "What To Know About Temu: New Chinese-Owned Fast Fashion App Draws Comparisons (Good And Bad) To Shein". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 26, 2023. สืบค้นเมื่อ February 26, 2023.
- ↑ 9.0 9.1 Maruf, Ramishah (28 June 2023). "Shein sent American influencers to China. Social media users are furious" (ภาษาอังกฤษ). CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 5, 2023. สืบค้นเมื่อ 14 September 2023.
- ↑ Kharpal, Arjun. "China's e-commerce giant Pinduoduo quietly launches US shopping site in Amazon challenge" (ภาษาอังกฤษ). CNBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 17, 2022. สืบค้นเมื่อ September 18, 2022.
- ↑ 11.0 11.1 11.2 Schulz, Bailey (February 12, 2024). "What is Temu? What we know about the e-commerce company with multiple Super Bowl ads". USA Today (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-02-15.
- ↑ Securities Exchange Commission filling for year 2023 submitted by PDD Holdings.
- ↑ Liao, Rita (November 22, 2022). "Pinduoduo's sister shopping app Temu tops US google Store better". TechCrunch. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 11, 2022. สืบค้นเมื่อ December 11, 2022.
- ↑ 14.0 14.1 Jones, Callum (2023-12-14). "Online retailer Temu sues rival Shein, alleging 'mafia-style intimidation'". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2024. สืบค้นเมื่อ 2023-12-16.
- ↑ https://news.bloomberglaw.com/privacy-and-data-security/whaleco-hit-with-lawsuit-over-data-collected-through-temu-app
- ↑ Morley, Olivia (February 12, 2023). "Ecommerce Startup Temu Airs First Super Bowl Spot—Twice". Adweek. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 12, 2023.
- ↑ "美国观察|被美国国会点名的Temu和SHEIN:高速增长、政治打压与剧烈竞争". fddi.fudan.edu.cn. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ "Temu Officially Launches Its South African Site". Pandaily. January 18, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2024. สืบค้นเมื่อ April 10, 2024.
- ↑ "Temu returns to Super Bowl ad slate as lawmaker ire swells". CNBC. February 9, 2024.
- ↑ Zahn, Max. "What is Temu, the company made famous in Super Bowl ads?". ABC News (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-02-15.
- ↑ "Semrush Temu.com Overview". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 30, 2024. สืบค้นเมื่อ April 10, 2024.
- ↑ "Temu Statistics - Analyzify". March 12, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 13, 2024. สืบค้นเมื่อ April 10, 2024.
- ↑ Toh, Michelle (July 19, 2023). "Shein and Temu's battle for US bargain shoppers is getting nasty". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 19, 2023. สืบค้นเมื่อ September 10, 2023.
- ↑ Arcieri, Katie (August 10, 2023). "Shein, Temu Take Fast-Fashion Antitrust Battle to US Courts". Bloomberg News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 16, 2023.
- ↑ Field, Matthew (2023-09-10). "Shein sues Chinese rival in High Court copycat row". The Daily Telegraph (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0307-1235. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ 26.0 26.1 26.2 26.3 "A Once-Obscure Chinese Startup Overtakes Shein In US". Bloomberg News (ภาษาอังกฤษ). 2023-06-14. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 14, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ Hall, Casey (2023-10-27). "Low-cost e-commerce rivals Shein and Temu shelve US court cases". Reuters (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 30, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ "Shein sues Temu over copyright infringements as the legal feud between the two companies heats up". Associated Press (ภาษาอังกฤษ). 2024-08-21. สืบค้นเมื่อ 2024-08-22.
- ↑ Conrad, Jennifer (October 26, 2022). "How Retail App Temu Lures US Shoppers With Mind-Bending Prices: The new ecommerce platform can beat Amazon on price by shipping direct from China. It's already racing up the charts". Wired. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 18, 2023. สืบค้นเมื่อ February 11, 2023.
- ↑ 30.0 30.1 Perez, Sarah (January 28, 2023). "This Week in Apps: Temu's hot streak, Walmart's m-commerce & an Apple XR App Store". TechCrunch. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 11, 2023. สืบค้นเมื่อ February 11, 2023.
- ↑ 31.0 31.1 31.2 网易 (2023-07-26). "拼多多Temu出海记:一场席卷全球的价格战". 163.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ "Amazon and Temu Swap Strategies". Marketplace Pulse (ภาษาอังกฤษ). 11 July 2024.
- ↑ Lawder, David (September 13, 2024). "China's online retailers Shein, Temu in focus as US aims to plug trade "loophole"". Reuters. สืบค้นเมื่อ September 13, 2024.
- ↑ "Temu and Shein can weather de minimis changes. Others may struggle". Retail Dive.
- ↑ "Indonesia asks Apple, Google to block China's Temu to protect small merchants". Reuters. October 11, 2024. สืบค้นเมื่อ October 11, 2024.
- ↑ Rahman-Jones, Imran (1 November 2023). "Temu adverts banned for sexualising a child and objectifying women". BBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2024. สืบค้นเมื่อ April 11, 2024.
- ↑ "Temu shopping adverts banned for sexualising a young girl and objectifying women | News".
- ↑ "Temu accused of sending unsolicited marketing texts in class action lawsuit". Fashion Dive (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-09-29.
- ↑ "Temu扩张加速 法律风险不容忽视_中国贸易报". www.chinatradenews.com.cn. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 13, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ Han, Nydia; Grubola, Heather (2024-03-12). "Lawsuits claim app for online retailer Temu gains access to 'literally everything' on your phone". WPVI-TV (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 19, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-03-19.
- ↑ Qu, Tracy; Qin, Sherry (May 16, 2024). "Chinese Retailer Temu Under Fire From European Consumer Groups". The Wall Street Journal (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 17, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-05-17.
- ↑ "Temu will have to comply with tougher EU online content rules, EU says". Reuters. May 31, 2024. สืบค้นเมื่อ May 31, 2024.
- ↑ Japan Times (2024-08-15). "Seoul authorities find toxic substances in Shein and Temu products". The Japan Times (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-08-17.
- ↑ Burch, Kelly. "5 products for kids you should avoid buying on Temu and how to find safe alternatives, according to a pediatrician". Business Insider (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-08-17.
- ↑ "95% of toys bought from new online platform break EU safety rules". Toy Industries of Europe (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2024-08-17.
- ↑ Chiang, Sheila (2023-05-17). "Temu accused of data risks after sister app was suspended for malware". CNBC (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 17, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-05-17.
- ↑ Leong, Clarence; Purnell, Newley (2023-03-21). "Google Halts Download of Chinese App Pinduoduo Over Security Concerns". The Wall Street Journal (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0099-9660. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-03-21. สืบค้นเมื่อ 2023-06-25.
- ↑ "Google Suspends Chinese E-Commerce App Pinduoduo Over Malware". Krebs on Security (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 22 March 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-05. สืบค้นเมื่อ 2023-04-05.
- ↑ Gan, Nectar; Xiong, Yong; Liu, Juliana (2023-04-02). "'I've never seen anything like this:' One of China's most popular apps has the ability to spy on its users, say experts". CNN (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-05. สืบค้นเมื่อ 2023-04-05.
- ↑ Peters, Jay (2023-05-17). "Montana bans Telegram, WeChat, and Temu from government devices". The Verge (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 20, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-05-20.
- ↑ Kern, Rebecca (17 May 2023). "Montana bans TikTok for all residents". Politico (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 24, 2023. สืบค้นเมื่อ 13 June 2023.
- ↑ Goujard, Clothilde (2023-07-24). "Booming Chinese shopping app faces Western scrutiny over data security". Politico Europe (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 30, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-07-30.
- ↑ "Ziboukh et al v. Whaleco Inc. et al". www.bloomberglaw.com. สืบค้นเมื่อ 2024-09-29.
- ↑ Tucker, Dorothy; Thompson, Carol (12 February 2024). "Temu facing a class-action lawsuit in Illinois over data privacy concerns - CBS Chicago". CBS News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 16, 2024. สืบค้นเมื่อ February 14, 2024.
- ↑ https://news.bloomberglaw.com/privacy-and-data-security/whaleco-hit-with-lawsuit-over-data-collected-through-temu-app
- ↑ Lee, Joyce (7 March 2024). "South Korea probes data protection by e-commerce platforms like AliExpress, Temu". Reuters.
- ↑ Lenora, Josie (2024-06-25). "Arkansas Attorney General sues Temu, pharmacy benefit managers". KUAR (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 16, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-06-25.
- ↑ Hadero, Haleluya (June 22, 2023). "Congressional report says there's an extremely high risk Temu's supply chains have forced labor". Associated Press. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 23, 2023. สืบค้นเมื่อ June 23, 2023.
- ↑ Cox, Chelsey (2023-06-22). "Retailers Shein and Temu violate U.S. tariff law and evade human rights reviews on imports, House report says". CNBC (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 23, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-06-24.
- ↑ "Temu: Risk popular website sells forced labour goods". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2023-06-22. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 25, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-06-25.
- ↑ 61.0 61.1 Swanson, Ana; Fu, Claire (2023-06-22). "Congress Spotlights 'Serious' Forced Labor Concerns With Chinese Shopping Sites". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 30, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-07-03.
- ↑ 62.0 62.1 Revell, Eric (12 February 2024). "Temu's Super Bowl ads spark backlash over China-based firm's forced labor allegations". Fox Business. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 14, 2024. สืบค้นเมื่อ February 14, 2024.
- ↑ "Iowa AG joins demand for Temu disclose policies on slave-made products, consumer safety". KGAN (ภาษาอังกฤษ). 2024-08-16. สืบค้นเมื่อ 2024-08-18.
- ↑ Cheek, Kevin (August 19, 2024). "Virginia AG Miyares demands answers from Temu over alleged ties to Chinese Communist Party". WAVY. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-09-27. สืบค้นเมื่อ August 20, 2024.
- ↑ Kaufman, Nicholas (April 14, 2023). "Shein, Temu, and Chinese e-Commerce: Data Risks, Sourcing Violations, and Trade Loopholes" (PDF). United States–China Economic and Security Review Commission. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ October 8, 2023. สืบค้นเมื่อ November 9, 2023.
- ↑ Steele, Chandra. "What Is Temu? Read Before You 'Shop Like a Billionaire'". PCMag (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ 67.0 67.1 Stone, Madeline. "Chinese online retailer Pinduoduo has a 'hyperaggressive' culture with hours surpassing a '996' schedule, analysts write". Business Insider (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 31, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-11-09.
- ↑ "Ex-workers at Temu owner PDD suffer surveillance and financial ruin over non-competes". Financial Times. March 11, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-03-11. สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
- ↑ Lu, Shen; Huang, Raffaele (April 1, 2024). "Ex-Workers at Temu Parent Say Noncompete Penalties Crush Their Finances". The Wall Street Journal (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-01. สืบค้นเมื่อ 2024-04-02.