ข้ามไปเนื้อหา

ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์
IATA ICAO รหัสเรียก
TW TWA TWA
ก่อตั้ง16 กรกฎาคม ค.ศ. 1930 (1930-07-16)
(ในชื่อ ทรานส์คอนติเนนตัลแอนด์เวสเทิร์นแอร์)
เลิกดำเนินงาน1 ธันวาคม ค.ศ. 2001 (2001-12-01)
(เข้าซื้อกิจการโดยอเมริกันแอร์ไลน์)[1]
ท่าหลัก
เมืองสำคัญ
สะสมไมล์เอวิเอเตอร์ส
บริษัทลูก
บริษัทแม่
สำนักงานใหญ่สหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกา
บุคลากรหลัก
  • ดิ๊ก ร็อบบินส์ (ค.ศ. 1930–1934)
  • แจ็ก ฟรายและพอล ริชเตอร์ (ค.ศ. 1931–1947)
  • วอลเตอร์ เอ. แฮมิลตัน (ค.ศ. 1931–1946)
  • โฮเวิร์ด ฮิวจ์ (ค.ศ. 1939–1965)
  • ราล์ฟ เดมอน (ค.ศ. 1949–1956)
  • คาร์เตอร์ เบอร์เกสส์ (ค.ศ. 1956–1957)
  • ชาร์ลส์ โทมัส (ค.ศ. 1958–1960)
  • ชาร์ลส์ ทิลลิงแฮสต์ (ค.ศ. 1961–1976)
  • แอลอี สมาร์ท (ตั้งแต่ค.ศ. 1976)
  • ซีอี เมเยอร์ จูเนียร์ (ค.ศ. 1976–1985)
  • คาร์ล ไอคาห์น (ค.ศ. 1985–1993)
  • วิลเลียม อาร์. โฮเวิร์ด (ค.ศ. 1993–1994)
  • เจฟฟรีย์ เอช. อีริกสัน (ค.ศ. 1994–1997)
  • เจอรัลด์ แอล. กิตเนอร์ (ค.ศ. 1997–1999)
  • วิลเลียม คอมป์ตัน (ค.ศ. 1999–2001)
  • โดนัลด์ เจ. คาร์ตี้ (ค.ศ. 2001)
  • โรเบิร์ต ดับเบิลยู เบเกอร์ (ค.ศ. 2001)
เว็บไซต์www.twa.com (เก็บถาวร 2001-10-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน)

ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์ (อังกฤษ: Trans World Airlines) ย่อว่า ทีดับเบิลยูเอ (TWA) เป็นอดีตสายการบินหลักของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 1930 ดำเนินการจนถึงปี 2001 เมื่อถูกสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์เข้าซื้อกิจการ ก่อตั้งขึ้นในชื่อ ทรานส์คอนติเนนตัลแอนด์เวสเทิร์นแอร์ (อังกฤษ: Transcontinental & Western Air) เพื่อให้บริการเส้นทางจากนิวยอร์กซิตีไปยังลอสแองเจลิสผ่านเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เซนต์หลุยส์ แคนซัสซิตี และจุดจอดอื่น ๆ ด้วยเครื่องบินฟอร์ด ไตรมอเตอส์ สายการบินนี้เป็น 1 ใน "บิ๊ก 4" ของสหรัฐซึ่งก่อตั้งขึ้นในการประชุมสปอยลส์ เมื่อปี 1930 ร่วมกับสายการบินอเมริกัน, ยูไนเต็ด และ อีสเทิร์น[2]

ฮาวเวิร์ด ฮิวส์ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ของในปี 1939 และหลังสงครามโลกครั้งที่สองได้ขยายสายการบินไปให้บริการในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย ทำให้ทีดับเบิลยูเอกลายเป็นสายการบินแห่งชาติแห่งที่สองอย่างไม่เป็นทางการของสหรัฐอเมริกาต่อจากแพนอเมริกันเวิลด์แอร์เวส์[3][4] ฮิวส์วางมือจากการบริหารในทศวรรษที่ 1960 และผู้บริหารชุดใหม่ของทีดับเบิลยูเอได้เข้าซื้อกิจการฮิลตันอินเตอร์แนชนัลและเซ็นจูรี 21 ในความพยายามที่จะขยายธุรกิจของบริษัท

เนื่องจากกฎหมายการยกเลิกการควบคุมสายการบิน ค.ศ. 1978 ทำให้สายการบินหลายแห่งล้มละลาย เกิดสายการบินใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย และสายการบินบางแห่งถูกบริษัทอื่นซื้อกิจการทีดับเบิลยูเอเองก็ถูกแยกออกจากบริษัทโฮลดิ้งในปี 1984 ในปี 1988 คาร์ล ไอคาห์น นักลงทุนชาวอเมริกัน เข้ามาซื้อหุ้นของทีดับเบิลยูเอจำนวนมากจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และดำเนินการเทคโอเวอร์โดยใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการแบบใช้เงินกู้ยืม ทำให้ทีดับเบิลยูเอแปรสภาพจากบริษัทมหาชนจำกัดเป็นบริษัทเอกชน ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์เผชิญปัญหาหนี้สินจำนวนมาก จึงต้องขายเส้นทางบินไปลอนดอน และเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างธุรกิจถึงสองครั้งในปี 1992 และ 1995 เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งตามมาเมื่อทีดับเบิลยูเอ เที่ยวบินที่ 800 ประสบอุบัติเหตุตกในปี 1996 กลายเป็นอุบัติเหตุทางอากาศที่ร้ายแรงที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์เคยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองแคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี และวางแผนจะใช้ท่าอากาศยานนานาชาติแคนซัสซิตีเป็นฐานการบินหลักทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ในที่สุดก็ยกเลิกแผนการนี้ในช่วงทศวรรษ 1970[5] ต่อมา สายการบินทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์ได้ขยายฐานการบินหลักที่ใหญ่ที่สุดไปยังสนามบินนานาชาติเซนต์หลุยส์แลมเบิร์ต มีศูนย์กลางการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่สำคัญตั้งอยู่ที่ ทีดับเบิลยูเอ ไฟลท์ เซ็นเตอร์ ภายในท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี นครนิวยอร์ก อาคารหลังนี้เป็นผลงานการออกแบบของ อีโร ซารินเนน สถาปนิกชื่อดัง ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1962[6]

ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์ยื่นล้มละลายเป็นครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายในเดือนมกราคม 2001 และต่อมาถูกสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์เข้าซื้อกิจการ หลังเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกประสบปัญหาอย่างหนัก โดยบริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ได้เลิกจ้างอดีตพนักงานของทีดับเบิลยูเอจำนวนมาก ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์ยังคงดำเนินกิจการต่อในรูปแบบบริษัทจำกัดความรับผิด (LLC) ภายใต้การควบคุมของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2003[7] ในปี 2009 สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ได้ตัดสินใจปิดฐานปฏิบัติการที่เซนต์หลุยส์[8]

ตารางเวลาและแผนที่จุดหมายปลายทางภายในประเทศของทีดับเบิลในเดือนกันยายน ค.ศ. 1933

จุดหมายปลายทาง

[แก้]

ข้อตกลงการบินร่วม

[แก้]

ตลอดการดำเนินงานทีดับเบิลยูเอได้มีข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินต่างๆ ดังต่อไปนี้:

ฝูงบิน

[แก้]
โบอิง 717 ของทีดับเบิลยูเอ
โบอิง 757-200 ของทีดับเบิลยูเอ
แมคดอนเนลล์ดักลาส เอ็มดี-82 ของทีดับเบิลยูเอ

ฝูงบินสุดท้าย

[แก้]

ก่อนการเลิกดำเนินงาน ทีดับเบิลยูเอมีเครื่องบินประจำการในฝูงบินดังนี้:

ฝูงบินของทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์
คำสั่งซื้อ ประจำการ คำสั่งซื้อ ผู้โดยสาร หมายเหตุ
F C Y รวม
แอร์บัส เอ318-100 50 รอประกาศ คำสั่งซื้อโอนย้ายไปยังอเมริกันแอร์ไลน์ แต่ถูกยกเลิกในเวลาต่อมา[ต้องการอ้างอิง]
โบอิง 717-200 29 16 95 111 ทั้งหมดโอนย้ายไปยังอเมริกันแอร์ไลน์และถูกปลดประจำการในปี 2003
โบอิง 757-200 27 22 158 180 ทั้งหมดโอนย้ายไปยังอเมริกันแอร์ไลน์
ต่อมาขายให้แก่สายการบินอื่นเนื่องจากใช้เครื่องยนต์ต่างรุ่นกับของอเมริกันเดิม
ส่วนมากยังประจำการกับเดลตาแอร์ไลน์
โบอิง 767-300อีอาร์ 9 30 178 208
แมคดอนเนลล์ดักลาส เอ็มดี-82 39 12 132 144 ทั้งหมดโอนย้ายไปยังอเมริกันแอร์ไลน์และถูกปลดประจำการในปี 2019
แมคดอนเนลล์ดักลาส เอ็มดี-83 64
รวม 168 50

ฝูงบินในอดีต

[แก้]

ทีดับเบิลยูเอเคยให้บริการเครื่องบินดังต่อไปนี้:[14]

ฝูงบินของทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์ในอดีต
เครื่องบิน จำนวน เริ่มประจำการ ปลดประจำการ หมายเหตุ
โบอิง 307 สตราโตรไลเนอร์ 5 1940 1951
โบอิง 707-120 59 1960 1983
โบอิง 707-320 67 หนึ่งลำถูกระเบิดในเที่ยวบินที่ 841
โบอิง 720บี 4 1961 1962 เช่าจากโบอิง
โบอิง 727-100 35 1964 1993
โบอิง 727-200 61 1968 2000
โบอิง 747-100 25 1970 หนึ่งลำตกในเที่ยวบินที่ 800
โบอิง 747-200บี 7 1984 1998
โบอิง 747เอสพี 3 1979 1986
โบอิง 767-200 12 1982 2001
คอนโซซิเดเต็ด ฟลีตสเตอร์ 1 ไม่ทราบ ไม่ทราบ
คอนแวร์ 880 28 1960 1974
เคอร์ติส คิงเบิร์ด 1 1933 ไม่ทราบ
เคอร์ติส ซี-46 คอมมานโด 1 1942 1942 เช่าจากกองทัพอากาศสหรัฐ[15]
เคอร์ติส ที-32 ค็อนดอร์ 2 3 1929 1931
ดักลาส ดีซี-1 1 1933 1936
ดักลาส ดีซี-2 31 1934 1942
ดักลาส ดีซี-3 104 1937 1957
ดักลาส ซี-47 สกายเทรน
ดักลาส ซี-54 สกายมาสเตอร์ 14 1946 1961
แฟร์ไชล์ด ซี-82 แพ็กเก็ต 1 ไม่ทราบ ไม่ทราบ
ฟอกเกอร์ อูนิเวอร์ซัล 1 1930 1930
ฟอกเกอร์ เอฟ-10 8 1931 ไม่ทราบ
ฟอกเกอร์ เอฟ-14 2 ไม่ทราบ
ฟอกเกอร์ เอฟ-32 2 ไม่ทราบ
ฟอร์ด 5-เอที-ดีเอส ไตรมอเตอส์ 22 ไม่ทราบ 1936
ล็อกฮีด แอล-12 อิเล็กตราจูเนียร์ 1 1940 1945
ล็อกฮีด แอล-049 คอนสเตเลชัน 40 1945 1962 หนึ่งลำเสียหายขั้นจำหน่ายในเที่ยวบินที่ 6963
ล็อกฮีด แอล-749 คอนสเตเลชัน 12 1948 1968
ล็อกฮีด แอล-749เอ คอนสเตเลชัน 28 1950
ล็อกฮีด แอล-1049 ซูเปอร์คอนสเตเลชัน 10 1952 1964
ล็อกฮีด แอล-1049จี ซูเปอร์คอนสเตเลชัน 28 1955 1967
ล็อกฮีด แอล-1049เฮช ซูเปอร์คอนสเตเลชัน 9 1957 1961
ล็อกฮีด แอล-1649เอ สตาร์ไลเนอร์ 30 1957 1967
ล็อกฮีด แอล-1011 ไตรสตาร์ 41 1972 1997 หนึ่งลำเสียหายขั้นจำหน่ายในเที่ยวบินที่ 843
ล็อกฮีด แอล-1329 เจ็ตสตาร์ 3 ไม่ทราบ ไม่ทราบ อากาศยานธุรกิจ
ล็อกฮีด โอไรออน 4 1931 ไม่ทราบ
ล็อกฮีด เวกา 4 ไม่ทราบ ไม่ทราบ
มาร์ติน 2-0-2เอ 12 1950 1959
มาร์ติน 4-0-4 40 1950 1961 หนึ่งลำเสียหายขั้นจำหน่ายในเที่ยวบินที่ 400
แมคดอนเนลล์ดักลาส ดีซี-9-14 6 1966 1979
แมคดอนเนลล์ดักลาส ดีซี-9-15 14 1980
7 1986 1999 ฝูงบินของโอซาร์กแอร์ไลน์ในอดีต
แมคดอนเนลล์ดักลาส ดีซี-9-31 18 2001
แมคดอนเนลล์ดักลาส ดีซี-9-32 16
แมคดอนเนลล์ดักลาส ดีซี-9-34 3 1986 1999 ฝูงบินของโอซาร์กแอร์ไลน์ในอดีต
แมคดอนเนลล์ดักลาส ดีซี-9-41 3 1986 1999
แมคดอนเนลล์ดักลาส ดีซี-9-51 12 1993 ฝูงบินของอีสเทิร์นแอร์ไลน์ในอดีต
นอร์ทธรอป อัลฟา 14 1931 1935
ซิคอร์สกี เอส-61แอล 1 ไม่ทราบ ไม่ทราบ เฮลิคอปเตอร์
สเตอร์แมน ซี3บี 1 ไม่ทราบ ไม่ทราบ

อ้างอิง

[แก้]
  1. Acquisition article from ABC News retrieved 10-30-15
  2. "The Rise of Airlines". Century of Flight. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 November 2018. สืบค้นเมื่อ 25 April 2014.
  3. Rigas Doganis (2006). The Airline Business. Psychology Press. ISBN 9780415346153. สืบค้นเมื่อ 2013-08-18.
  4. Barry Meier, "Ailing T.W.A. Still a Symbol, and So Perhaps a Target, Abroad", New York Times, August 25, 1996.
  5. Hendricks, Mike (8 March 2014). "The why of KCI: A broken plan that many travelers still love". Kansas City Star. สืบค้นเมื่อ 25 April 2014.
  6. "JFK's Most Famous Terminal May Soon Be Transformed Into a Flashy Hotel". The Atlantic Cities. 20 September 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 April 2014. สืบค้นเมื่อ 25 April 2014.
  7. "TWA Timeline". TWA Museum. 4 January 2018. สืบค้นเมื่อ August 12, 2020.
  8. Grant, Elaine (October 2005). "TWA – Death Of A Legend". St. Louis Magazine. สืบค้นเมื่อ 25 April 2014.
  9. "TWA and Air Europa sign code sharing agreement". TWA. November 16, 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2001. สืบค้นเมื่อ 17 January 2022.
  10. "TWA and America West announce code share agreement". TWA. November 15, 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2001. สืบค้นเมื่อ 17 January 2022.
  11. "TWA signs marketing alliance with Kuwait Airways". TWA. December 15, 1998. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 11, 1999.
  12. "Book a flight to Tangier or Marrakech with TWA". TWA. June 1, 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 15, 1999.
  13. "TWA Celebrates Launch of Code-Share Service with Royal Jordanian Airline". TWA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 1999.
  14. "TWA fleet". aerobernie.bplaced.net. สืบค้นเมื่อ February 20, 2021.
  15. "C-46". สืบค้นเมื่อ April 23, 2021.