ข้ามไปเนื้อหา

ตำนานพระทอง-นางนาค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตามตำนานพระทองจะเกาะสไบนางนาคในการอภิเษกสมรส
การแต่งงานตามตำนานพระทองนางนาค

พระทอง (พระเจ้าเกาฑิณยะวรมันเทวะ) และ นางนาค (พระราชินีโสมา) เป็นเรื่องแต่งขึ้นของชาวกัมพูชา เพื่อผูกโยงถึงพระเจ้าชัยวรมัน การอภิเษกสมรสของพระทองและนางนาคถือเป็นจุดกำเนิดของประเทศกัมพูชา ทำให้เกิดอาณาจักรเขมรโบราณก่อนยุคเมืองพระนครหรืออาณาจักรฟูนันขึ้น

ในปัจจุบันประเพณีการแต่งงานของเขมรส่วนใหญ่สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงการแต่งงานของพระทองและยุคกลาง

แผนที่แสดงการอ้างสิทธิ์อาณาเขตของอาณาจักรเขมรสุวรรณภูมิที่เชื่อว่าเคยเป็นดินแดนอาณาจักรฟูนัน อ้างสิทธิ์ในสมัยสังคมราษฎรนิยมของพระนโรดม สีหนุ

ชาวกัมพูชาอ้างว่ามีบันทึกของเอกสารนักสำรวจชาวจีนสองคนได้แก่ คัง ไต และ จู หยิง ในศตวรรษที่ 1 รัฐฟูนันก่อตั้งขึ้นโดยพราหมณ์ชาวอินเดียนามว่า กามพู สวยัมภูวะ หรือ เกาฑินยะ ได้เดินทางมายังชายฝั่งของดินแดนเขมรสุวรรณภูมิ เกาฑินยะได้รับคำสั่งในความฝันให้เอาธนูวิเศษจากวิหารเพื่อเอาชนะเจ้าหญิงนาคนามว่า โสมา (ตามเอกสารจีน: หลิวเย่), ธิดาของราชาพญานาค เกาฑินยะได้เสกเวทมนตร์คาถายิงธนูวิเศษมาที่เรือธิดาพญานาค ทำให้นางตกพระทัยกลัว แล้วยินยอมอภิเษกด้วย ส่วนพญานาคผู้บิดาได้ทรงดื่มน้ำทะเลจนเหือดแห้งเพื่อสร้างอาณาจักรให้ราชบุตรเขยและธิดา

เมื่อเจ้าหญิงโสมาได้อภิเษกสมรสกับเกาฑินยะ (เอกสารจีน: ฮุนเตียน) ถือกำเนิดเชื้อสายปฐมวงศ์ของราชวงศ์วรมัน

ส่วนเกาฑินยะได้ทรงขึ้นเป็นพระเจ้าเกาฑินยะวรมันเทวะ (พระมหากษัตริย์กัมพูชาพระองค์แรกแห่งอาณาจักรฟูนัน) ต่อมาพระองค์ได้สร้างเมืองหลวงและเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น กัมโพชะ หรือ กัมพูชา[1][2]

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงนิทานไม่สามารถอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ การแต่งกายในอดีตล้วนต้องได้รับอิทธิพลการแต่งกายจากอินเดียเป็นหลัก แต่ปัจจุบันนั้นชาวกัมพูชาพยายามแต่งกายเพื่อผูกโยงกับนิทานเรื่องดังกล่าว

ราชานุสาวรีย์ตำนานพระทองนางนาค

[แก้]
ราชานุสาวรีย์ตำนานพระทองนางนาค
រូបសំណាកព្រះថោងនាងនាគ
ที่ตั้งวงเวียนพระทองนางนาค, สีหนุวิลล์, ประเทศกัมพูชา
วัสดุทองแดง (60 ตัน)
ความสูง
  • รูปปั้น: 21 เมตร (69 ฟุต)
  • ฐาน: 6.34 เมตร (20.8 ฟุต)
สร้างเสร็จค.ศ. 2022[3]

ราชานุสาวรีย์ตำนานพระทองนางนาค ตั้งอยู่ที่วงเวียนหมู่บ้านโกกี (ตะเคียน) ตำบลเบิตตาง อำเภอไปรนุบ จังหวัดพระสีหนุ ถือเป็น สัญลักษณ์แห่งการถือกำเนิดประวัติศาสตร์และอารยธรรมเขมร อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นจากทองแดง ออกแบบโดยชาวกัมพูชา โดยทำการหล่อโลหะขึ้นรูป มีความสูง 21 เมตร น้ำหนัก 40 ตัน หันหน้าออกไปทางทะเล อนุสาวรีย์ก่อสร้างสำเร็จและเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2565 โดยดำริของนายกรัฐมนตรีสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน[4]

พระทองนางนาค มีที่มาจากตำนานโบราณของกัมพูชา เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของอารยธรรมเขมร อนุสาวรีย์เป็นรูปพระทอง ถือชายสไบของนางนาค เพื่อดำน้ำตามไปยังเมืองบาดาล ไปพบบิดาและมารดาของนาง ซึ่งเป็นพญานาค โดยถือเป็นสัญลักษณ์ของการถือกำเนิดแผ่นดิน อารยธรรม วัฒนธรรม และจารีตประเพณีของกัมพูชา

วัฒนธรรมสมัยนิยม

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Chad, Raymond (1 เมษายน 2005). "Regional Geographic Influence on Two Khmer Polities". Salve Regina University, Faculty and Staff: Articles and Papers: 137. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2015.
  2. Sanyal, Sanjeev (10 สิงหาคม 2016). The Ocean of Churn: How the Indian Ocean Shaped Human History (ภาษาอังกฤษ). Penguin UK. pp. 82–84. ISBN 978-93-86057-61-7.
  3. "Cambodia's largest copper statue, "Preah Thong Neang Neak" inaugurated". Khmer Times. 16 เมษายน 2022.
  4. "กัมพูชาเปิดตัวรูปปั้นผู้ก่อตั้ง 'อาณาจักรฟูนันโบราณ'". เดลินิวส์. 17 เมษายน 2022.