ซูว็อน
ซูว็อน 수원 | |
---|---|
การถอดเสียงเกาหลี | |
• ฮันกึล | 수원시 |
• ฮันจา | 水原市 |
• อักษรโรมันปรับปรุง | Suwon-si |
• แมกคูน-ไรซ์ชาวเออร์ | Suwŏn-si |
ป้อมฮวาซ็องและทิวทัศน์เมืองซูว็อน | |
ประเทศ | เกาหลีใต้ |
ภูมิภาค | ซูโดกว็อน (เขตเมืองหลวงและปริมณฑล) |
การแบ่งเขตการปกครอง | 4 คู" (เขต), 42 "ทง" (แขวง) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 121.1 ตร.กม. (46.8 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2555) | |
• ทั้งหมด | 1,138,341 คน |
• ความหนาแน่น | 8,975.2 คน/ตร.กม. (23,246 คน/ตร.ไมล์) |
• ภาษาถิ่น | โซล |
ซูว็อน (ฮันกึล: 수원, ฮันจา: 水原, เสียงอ่าน: [suwʌn]) เป็นเมืองเอกของจังหวัดคย็องกี เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของเกาหลีใต้มีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน ซูว็อนตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโซล โดยห่างจากโซลประมาณ 30 กิโลเมตร
ซูว็อนเป็นเมืองที่ยังคงกลิ่นอายของวัฒนธรรมโบราณของเกาหลี โดยเริ่มจากการเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ จนในปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมและวัฒนธรรมที่สำคัญของเกาหลีใต้ในปัจจุบัน โดยซูว็อนเป็นเมืองเดียวในเกาหลีใต้ที่ยังคงมีกำแพงเมืองที่มีสภาพสมบูรณ์อยู่ โดยกำแพงเมืองนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่นักท่องเที่ยวอยากมาชมของจังหวัดคย็องกี เช่นเดียวกับการเป็นเมืองอุตสาหกรรม ซูว็อนเป็นที่ตั้งของโรงงานใหญ่ของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ซูว็อนมีทางด่วนสองสาย, เครือข่ายรถไฟของชาติและรถไฟไต้ดินของนครพิเศษโซล ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง การท่องเที่ยว และการขนส่ง
ซูว็อนถือเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งการศึกษา โดยมีมหาวิทยาลัยถึง 11 แห่ง จากสิ่งนี้พร้อมด้วยเครือข่ายการขนส่งมวลชนสามารถดึงดูดผู้อยู่อาศัยจากทั่วประเทศและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนประชากรถึง 1.85%[1]
ซูว็อนยังมีสโมสรฟุตบอลที่มีเชื่อเสียงอย่างซูว็อนซัมซุงบลูวิงส์ ซึ่งเป็นแชมป์เค-ลีก 4 สมัย[2] และเป็นแชมป์เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย
ประวัติ
[แก้]เมื่อครั้งชนเผ่าโบราณซูว็อนเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ โมซูกุก (ฮันกึล: 모수국) ระหว่างยุคราชอาณาจักรทั้งสาม พื้นที่เมืองซูว็อนและฮวาซ็องในปัจจุบันถูกเรียกว่า แมโฮลกุน (매홀군)
ใน พ.ศ. 1300 ในสมัยพระเจ้าคย็องด็อกแห่งชิลลาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซูซ็องกุน (수성군) ต่อมาใน พ.ศ. 1483 ในสมัยราชวงศ์โครยอได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น ซูชู (수주) และในที่สุดพระเจ้าแทจงแห่งราชวงศ์โชซ็อนได้เปลี่ยนชื่อเมืองนี้เป็น ซูว็อน ในปี พ.ศ. 1956[3]
ใน พ.ศ. 2135 ระหว่างสงครามการบุกครองเกาหลีของญี่ปุ่น ผู้บัญชาการอีควังได้พยายามปฏิบัติการให้กองกำลังของเขาเข้าสู่เมืองหลวง โซล (ในเวลานั้นเรียกว่าฮันซ็อง)[4] กองกำลังถูกถอนออกไป อย่างไรก็ตามภายหลังจากข่าวว่าเมืองหลวงถูกยึดถึงผู้บัญชาการ[4] กองทัพก็โตขึ้นไดยมีกำลัง 50,000 นายพร้อมทั้งมีกองกำลังอาสาสมัครอีกจำนวนหนึ่ง โดยอีควังและผู้บัญชาการที่ไม่ได้ประจำการอีกจำนวนหนึ่งได้พิจารณาเป้าหมายที่จะกอบกู้เมืองหลวงอีกครั้งหนึ่ง และได้รวบรวมกำลังไว้ทางตอนเหนือของซูว็อน[4][5]
การก่อสร้างป้อมฮวาซ็อง
[แก้]ในสมัยราชวงศ์โชซ็อน พระเจ้าซ็องโจ ได้ประสบความล้มเหลวในท้ายที่สุดในความพยายามที่จะให้ซูว็อนเป็นเมืองหลวงใน พ.ศ. 2339 ส่วนหนึ่งของโครงการย้ายเมืองหลวงคือป้อมฮวาซ็อง ป้อมปราการกำแพงที่ล้อมรอบทั้งทั้งเมือง โดยเหตุผลบางส่วนมีความตั้งใจที่จะให้เป็นป้อมปราการเพื่อปกป้องสุสานของพระบิดาพระองค์ เจ้าชายรัชทายาทซาโด[6]
การก่อสร้างกำแพงเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรก ๆ ของเกาหลีที่จ่ายค่าแรงให้กับแรงงาน (ปกติก่อนหน้านี้จะใช้วิธีเกณฑ์แรงงาน โดยกำแพงยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่ากำแพง(รวมทั้งป้อม)จะได้รับความเสียหายอย่างมากจากสงครามเกาหลี
เริ่มแรกการก่อสร้างป้อมฮวาซ็องได้ก่อสร้างโดยคำแนะนำของนักปราชญ์ช็อง ยัก-ย็อง ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าซ็องโจไม่นาน (พ.ศ. 2343) กระดาษขาวที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้างได้ถูกตีพิมพ์ เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้เพราะถูกนำมาใช้เป็นแบบในการก่อสร้างใหม่ในช่วงทศวรรษที่ 1970
ครั้งหนึ่งกำแพงของป้อมปราการเคยล้อมเมืองซูว็อนทั้งเมืองไว้ แต่เมืองซูว็อนในยุคปัจจุบันได้ขยายไปไกลกว่าตัวกำแพงป้อมมาก ในปัจจุบันกำแพงป้อมฮวาซ็องได้ถูกกำหนดให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก[6] และป้อมฮวาซ็องได้ถูกนำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์เมืองเสมอ
สงครามเกาหลี
[แก้]สงครามเกาหลีได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อเมืองซูว็อน โดยเมืองเปลี่ยนผู้ยึดครองระหว่างสงครามถึงสี่ครั้ง ภายหลังการปะทุของสงครามเพียงไม่นานหน่วยเครื่องบินขับไล่ที่ 49ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้ถูกส่งจากญี่ปุ่นไปยังเกาหลี โดยภารกิจแรกคือเคลื่อนย้ายพลเรือนจากซูว็อนและคิมโพ แต่หลังจากนั้นไม่นานกองทัพเกาหลีเหนือก็เคลื่อนมาถึงเมืองซูว็อน ก่อนหน้ายุทธการโอซันไม่นาน การสู้รบระหว่างกองกำลังของสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือก็ได้เริ่มขึ้นครั้งแรก ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2493 สิ่งป้องกันได้สร้างขึ้นบนถนนระหว่างซูว็อนและรอบ ๆ โอซัน (ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายใต้) ในวันต่อมากองกำลังของฝ่ายเหนือได้มุ่งหน้ามายังทางใต้ ตามมาด้วยการปะทะกันยาวนาน 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยทหารอเมริกาสูญเสียไป 142 นาย และทหารเกาหลีเหนือ 42 นาย ทำให้กองกำลังของสหรัฐจำต้องล่าถอยไป การปะทะกันครั้งนี้ทำให้กองกำลังของฝ่ายเหนือเคลื่อนพลลงไปยังโอซันช้ากว่ากำหนดการ 7 ชั่วโมง
ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2493 กองกำลังกรีก ได้ย้ายไปตั้งอยู่ที่ซูว็อนอยู่ติดกับกองพลทหารม้าที่ 1 ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 แกบบี้ กาเบรียสกี ยอดนักบินของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้มาประจำการอยู่ที่ฐานทัพอากาศ เค-13 เมืองซูว็อน โดยตอนสิ้นสุดของสงครามเมืองซูว็อนอยู่กับเกาหลีใต้
ประวัติยุคใหม่
[แก้]- ซูว็อนกลายเป็นเมืองเอกของจังหวัดคย็องกี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2510
- ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 เขตจังอันและเขตคว็อนซ็อนได้ตั้งขึ้น
- ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536, ส่วนหนึ่งของเขตจังอันและและเขตคว็อนซ็อน ถูกแบ่งและรวมกันตั้งเป็น เขตพัลดัล
- ในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 เขตย็องทงได้ถูกตั้งขึ้นเป็นเขตใหม่โดยแยกออกมาจากเขตพัลดัล
ภูมิศาสตร์
[แก้]ซูว็อนตั้งอยู่ทางตอนเหนือของที่ราบคย็องกี และอยู่ทางทิศใต้ของโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ โดยมีอาณาเขตติดต่อกับอึยวังทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ, ยงอินทางทิศตะวันออก, ฮวาซ็องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และมีอาณาเขตติดกับอันซันเล็กน้อยทางทิศตะวันตก
รอบ ๆ ซูว็อนมีเขาเพียงเล็กน้อย โดยเขาที่สูงสุดของเมืองคือ ควังคโยซันซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองติดกับยงอิน โดยมีความสูง 582 เมตร (1,909 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล[7]
คลองส่วนใหญ่ที่ไหลผ่านซูว็อนมีต้นกำเนิดมาจากภูเขาควังคโยหรือยอดเขาบริเวณรอบ ๆ เมือง คลองซูว็อน (ซูว็อนช็อน) เป็นคลองที่สำคัญที่สุดของเมือง (และมีคลองที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือคลองชุงโบ) โดยไหลผ่านเมืองไปยังทิศใต้และไหลลงสู่ทะเลเหลืองทางอ่าวอันซัน
ซูว็อนไม่มีทะเลสาบที่เกิดตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเมืองซูว็อนก็มีอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กหลายแห่ง เช่น ซอโฮ (서호) อยู่ใกล้กับ สถานีฮวาโซ, อ่างเก็บน้ำอิลว็อน (일원 저수지) อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยซ็องคยุนวัน, อ่างเก็บน้ำบัมแบ็ต (밤밭 저수지) ใกล้กับสถานีมหาวิทยาลัยซ็องคยุนวัน, อ่างเก็บน้ำอิลฮวัง (일왕 저수지) ใกล้กับสวนสาธารณะมันซ็อก, อ่างเก็บน้ำพาจัง (파장 저수지) อยู่ทางตอนเหนือของเมืองซูว็อนทางออกไปทางด่วยย็องดง, อ่างเก็บน้ำควังคโย (광교 저수지) อยู่บริเวณตีนเขาควังคโย, อ่างเก็บน้ำว็อนช็อนและซินแด (원천 저수지 & 신대 저수지) อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยอาจู (아주대학교), อ่างเก็บน้ำคึมโก๊ก (금곡 저수지), อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กบริเวณตีนเขาชิลโบ, และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่วังซง (왕송 저수지), ซึ่งบริเวณของอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองอึยวังแต่ตัวเขื่อนตั้งอยู่ซูว็อน
สันเขาที่มีขนาดสูงน้อยที่สุดของเมืองคือ ภูเขาชิลโบ โดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 239 เมตร[8] ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกโดยมีพรมแดนติดกับอันซัน เมืองซูว็อนตั้งอยู่ห่างจากอ่าวทะเลเหลือง 6 กิโลเมตร
สภาพอากาศ
[แก้]ข้อมูลภูมิอากาศของซูว็อน (2524–2553) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 2.1 (35.8) |
5.0 (41) |
10.6 (51.1) |
17.9 (64.2) |
23.0 (73.4) |
26.8 (80.2) |
28.8 (83.8) |
29.8 (85.6) |
25.9 (78.6) |
20.0 (68) |
12.0 (53.6) |
5.0 (41) |
17.2 (63) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | -2.9 (26.8) |
-0.3 (31.5) |
5.0 (41) |
11.6 (52.9) |
17.2 (63) |
21.7 (71.1) |
24.8 (76.6) |
25.6 (78.1) |
20.8 (69.4) |
14.0 (57.2) |
6.6 (43.9) |
0.0 (32) |
12.0 (53.6) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -7.4 (18.7) |
-5.0 (23) |
0.0 (32) |
5.9 (42.6) |
12.0 (53.6) |
17.4 (63.3) |
21.7 (71.1) |
22.1 (71.8) |
16.4 (61.5) |
8.8 (47.8) |
1.8 (35.2) |
-4.4 (24.1) |
7.5 (45.5) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 22.4 (0.882) |
24.2 (0.953) |
47.9 (1.886) |
61.3 (2.413) |
97.8 (3.85) |
129.2 (5.087) |
351.1 (13.823) |
299.8 (11.803) |
153.9 (6.059) |
53.1 (2.091) |
49.7 (1.957) |
21.8 (0.858) |
1,312.3 (51.665) |
ความชื้นร้อยละ | 65.1 | 64.3 | 64.2 | 62.5 | 67.6 | 72.3 | 80.1 | 78.3 | 74.5 | 71.0 | 68.6 | 66.4 | 69.6 |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 mm) | 7.3 | 6.2 | 7.6 | 7.8 | 8.7 | 9.4 | 15.4 | 14.1 | 8.7 | 6.2 | 8.7 | 8.1 | 108.2 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 166.0 | 171.6 | 198.0 | 215.2 | 221.3 | 188.3 | 136.7 | 166.0 | 182.0 | 200.2 | 158.0 | 159.7 | 2,162.8 |
แหล่งที่มา: สำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลี[9] |
เขตการปกครอง
[แก้]ซูว็อนแบ่งออกเป็น 4 คู (เขต):[1]
โรมัน | ฮันกึล | ฮันจา | ประชากร (2551) | พื้นที่ (ม²) |
---|---|---|---|---|
1. เขตคว็อนซ็อน | 권선구 | 勸善區 | 315,512 | 47,355,349.2 |
2. เขตจังอัน | 장안구 | 長安區 | 290,732 | 33,119,867.5 |
3. เขตพัลดัล | 팔달구 | 八達區 | 224,194 | 13,077,959.4 |
4. เขตย็องทง | 영통구 | 靈通區 | 256,466 | 27,500,143.7 |
เขตที่ตั้งขึ้นใหม่ที่สุดของเมืองคือ เขตย็องทงซึ่งแยกออกมาจากเขตพัลดัล เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546[10] โดยเขตทั้งหมดมีการเขตการปกครองย่อยแยกออกเป็น 42 ทง
ประชากร
[แก้]ประชากรในซูว็อนเป็นชาย 50.2% [1] มีเพียงเขตพัลดัล เขตเดียวที่ประชากรหญิงเยอะกว่าประชากรชาย มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในซูว็อน 1.85% เขตที่มีชาวต่างชาติมากที่สุดคือเขตพัลดัล ข้อมูลเพิ่มเติมของประชากรในซูว็อนในแต่ละเขตดูได้จากตารางข้างล่างนี้[1]
ประชากรทั้งหมด | ชาย (เกาหลี) | หญิง (เกาหลี) | เกาหลี (ทั้งหมด) | ชาย (ต่างชาติ) | หญิง (ต่างชาติ) | ต่างชาติ (ทั้งหมด) | |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ซูว็อน (ทั้งหมด) | 1,086,904 | 535,906 | 531,211 | 1,067,117 | 9,914 | 9,873 | 19,787 |
เขตคว็อนซ็อน | 315,512 | 156,783 | 154,004 | 310,789 | 2,314 | 2,411 | 4,725 |
เขตจังอัน | 290,732 | 143,737 | 143,351 | 287,088 | 1,742 | 1,902 | 3,644 |
เขตพัลดัล | 224,194 | 107,929 | 108,926 | 216,855 | 3,652 | 3,687 | 7,339 |
เขตย็องทง | 256,466 | 127,457 | 124,930 | 252,387 | 2,206 | 1,873 | 4,079 |
โดยภาพรวมประชากรในซูว็อนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น แต่ประชากรที่เป็นชาวเกาหลีมีแนวโน้มลดลง เช่น ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ 2550 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ประชากรชาวเกาหลีของเมืองลดลง 585 คน[1] แต่ประชากรชาวต่างชาติกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าประชากรชาวต่างชาติกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ 2550 มีชาวต่างชาติลงทะเบียนเข้าอยู่อาศัยในซูว็อนเพิ่มขึ้น 13%[11] มีเพียงเขตคว็อนซ็อนเท่านั้นที่มีประชากรเพิ่มขึ้น ส่วนเขตจังอันและเขตย็องทง มีประชากรลดน้อยลง[11]
การศึกษา
[แก้]เมืองซูว็อนมีมหาวิทยาลัยทั้งหมด 11 แห่ง และมีวิทยาลัย 2 แห่ง ประกอบไปด้วย มหาวิทยาลัยซ็องกยุนกวันวิทยาเขตวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ, มหาวิทยาลัยคย็องกี, มหาวิทยาลัยอาจู, มหาวิทยาลัยคย็องฮี, วิทยาลัยสาธารณสุขทงนัม, มหาวิทยาลัยดิจิทัลกุกเจ, โรงเรียนสอนศาสนาเทววิทยาฮัปดงและวิทยาลัยสตรีซูว็อน.[12] มหาวิทยาลัยซูว็อน แท้จริงแล้วไม่ได้ตั้งอยู่ที่ซูว็อนแต่ตั้งอยู่ที่เมืองฮวาซ็อง ส่วนมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลวิทยาเขตเกษตรศาสตร์ ตั้งอยู่ที่เมืองซูว็อนจนกระทั่งปี พ.ศ. 2548 จึงย้ายไปอยู่เขตควานัค, โซล
ซูว็อนมีวิทยาลัยชุมชน 2 แห่ง[13] โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 37 แห่ง, โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 33 แห่ง, โรงเรียนประถามศึกษา 81 แห่งและโรงเรียนอนุบาล 107 แห่ง[12]
อุตสาหกรรม
[แก้]ซัมซุงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดการจ้างงานมากที่สุดในเมือง ความจริงแล้วซัมซุงมีโรงงานหลักอยุ่ที่โซล แต่ในช่วงเริ่มต้นของสงครามเกาหลี สิ่งของหลายอย่างของซัมซุงได้รับความเสียหาย ผู้ก่อตั้ง อี บย็อง-ช็อล (이병철) ได้ฝืนทำธุรกิจอีกครั้งในปี พ.ศ. 2494 ส่วนซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ได้ก่อตั้งที่เมืองซูว็อนในปี พ.ศ. 2512 และปัจจุบันได้เป็นสำนักงานใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรมกลางใจเมือง ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็ประกอบด้วยเอสเค, ซัมซุงอิเล็กทริกส์, ซัมซุงแอลอีดี, ซัมซุงเอสดีไอและอื่นๆอีกมากมาย
วัฒนธรรม
[แก้]ป้อมฮวาซ็องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2399 ในอดีตป้อมฮวาซ็องเคยล้อมเมืองทั้งเมืองไว้ แต่เมืองซูว็อนในปัจจุบันได้ขยายขอบเมืองออกไปไกลกว่าขอบกำแพงป้อมมาก ป้อมฮวาซ็องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก พระราชวังแฮกุงอยู่ภายในป้อมฮวาซ็อง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง หลังจากการขยายทางรถไฟสายบุนดังเสร็จ เพียงไม่กี่สถานีจากซูว็อนไปถึงสถานีซิลกัล เมืองยงอิน ซึ่งเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเช่น หมู่บ้านโบราณเกาหลี และ เอเวอร์แลนด์
สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
[แก้]ทางเดินรอบ ๆ กำแพงของป้อมฮวาซ็องเป็นที่นิยมของคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวและการเดินพักผ่อนหย่อนใจและเที่ยวชม สวนสาธารณะมันซ็อกทางตอนเหนือของเมืองมีเส้นทางวิ่ง 1.2 กิโลเมตรรอบ ๆ ทะเลสาบ ส่วนสิ่งสันทนาการอื่น ๆ ของสวนสาธารณะประกอบด้วย สนามเทนนิส (ในร่มและกลางแจ้ง), สนามฟุตบอลและสนามสเก็ตบอร์ด และยังมีสวนสาธารณะอื่น ๆ อีกมากมายรอบเมืองรวมทั้งสกีรีสอร์ทและสถานที่ปีนเขา โดยทั้งหมดนี้อยู่ห่างจากซูว็อนไม่ไกลและเดินทางสะดวก
สถานที่ท่องเที่ยว
[แก้]ป้อมฮวาซ็อง โดยมีโปรแกรมท่องเที่ยวป้อมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกหลากหลายเส้นทาง[14]
กีฬา
[แก้]ซูว็อนมีสนามกีฬาหลากหลายประเภทเช่นสนามกีฬาการยิงธนู, สนามแบตมินตัน, ลานโบว์ลิ่ง, สระว่ายน้ำในร่ม, สนามเทนนิสและสนามฟุตบอล[15]
สนามกีฬาซูว็อนยิมเนเซียมเคยเป็นสถานที่จัดกีฬาแฮนด์บอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 1988 โดยสนามกีฬาแห่งนี้มีความจุ 5,145 ที่นั่ง
ซูวอนเวิลด์คัพสเตเดียมเคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 ปัจจุบันเป็นสนามทีมเหย้าของทีมซูวอนซัมซุงบลูวิงส์ ทีมจากเคลีก, ทีมจากเคลีกแชลแลนจ์ ทีมซูว็อนเอฟซีใช้สนามซูว็อนสปอร์ตคอมเพล็กซ์ เป็นสนามเหย้า
ซูว็อนยังเป็นมีทีมเบสบอลอย่างทีมฮุนไดยูนิคอร์น (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นทีมเน็คเซ็นฮีโร ตั้งอยู่ที่โซล) ซึ่งเคยใช้สนามซูว็อนสปอร์ตคอมเพล็กซ์ เป็นสนามเหย้า[16]
สิ่งบันเทิง
[แก้]ซูว็อนมีโรงภาพยนตร์ระบบมัลติเพล็กซ์ 3 โรง ประกอบด้วย เมกาบอกซ์ และ ซีจีวี โรงภาพยนตร์ตั้งอยู่ที่ สถานีรถไฟซูว็อน ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง เช่นเดียวกับโรงภาพยนตร์ 'คิเน๊กซ์ 5 ซึ่งอยู่ในเขตย็องทง และยังมีโรงภาพยนตร์อื่น ๆ ในเมืองแต่ฉายภาพยนตร์ต่างประเทศน้อยกว่าเช่น เซเนมาทาวน์, โรงภาพยนตร์แทฮัน, โรงภาพยนตร์พิคคาเดลลี, โรงภาพยนตร์จุงอัง, โรงภาพยนตร์โรแยล, โรงภาพยนตร์ดาโน และ ดาโนฮอลล์อาร์ต[17]
ว็อนช็อนในเขตย็องทงมีสวนสนุก อยู่ 2 แห่งคือ ว็อนช็อนกรีนแลนด์และว็อนช็อนเลคแลนด์[18]
สิ่งน่าสนใจอื่น ๆ
[แก้]สภาคณะกรรมการเมืองซูว็อนได้ประกาศความภาคภูมิใจของเมืองเรื่องห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งทางเมืองได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ห้องน้ำสาธารณะในเมืองสะอาดและพัฒนาให้ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ และปัจจุบันก็ได้มีบริการรถทัวร์ห้องน้ำสาธารณะของเมืองไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว[19]
การคมนาคม
[แก้]ซูว็อนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งประจำภูมิภาค และสถานีรถไฟซูว็อนเป็นจุดพักที่สำคัญของทางรถไฟสายคย็องบูซึ่งวิ่งระหว่างโซลกับปูซาน ทั้งยังมีบริการรถโดยสารไปยังสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเคทีเอกซ์ที่ควังมย็อง ซูว็อนเชื่อมต่อกับโซลและเมืองใกล้เคียงอื่น ๆ ด้วยรถโดยสารแบบด่วนด้วยจุดขาออกตลอดทั้งเมือง ซูว็อนมีสถานีขนส่งสองแห่งเป็นสถานีรถระหว่างเมืองและรถด่วนที่เชื่อมต่อไปได้ทั่วทั้งประเทศเกาหลีใต้ คือ สถานีขนส่งซูว็อน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ 'โฮเทล รามาดา' และสถานีขนส่งซูว็อนตะวันตก ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยซ็องกยูนกวัน รถไฟเคทีเอกซ์มีจุดพักที่จำกัดเพียงไม่กี่สถานีในการวิ่งระหว่างโซลและปูซาน
เมืองซูว็อนมีหลายสถานีที่รถไฟใต้ดินโซล สาย 1ผ่าน ซึ่งวิ่งจากทางเหนือของเมืองทะลุไปยังทางใต้ของเมือง ประกอบไปด้วยสถานีมหาวิทยาลัยซ็องกยุนกวัน, ฮวาซอ, ซูว็อน และ เซรยู ส่วนรถไฟสายบุนดัง วิ่งผ่านซูว็อนจากตะวันออกไปตังตะวันตกซึ่งหมดระยะที่สถานีรถไฟซูว็อนและรถไฟสายซูอิน เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟซูว็อนและสถานีรถไฟอินช็อน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง สายซูรยอซึ่งเคยเชื่อมระหว่างซูว็อนกับยอจูตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 ก็ได้หยุดดำเนินการไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515
ทางพิเศษย็องดง (หมายเลข 50) ทอดผ่านซูว็อนและมีทางออก 2 แห่งคือทางออกซูว็อนเหนือและทางออกซูว็อนตะวันออก และยังมีทางพิเศษคย็องบู (หมายเลข 1) วิ่งพาดผ่านเมือง ซึ่งทางออกของทางพิเศษตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขตซิกกัลของยงอินวึ่งเป็นเขตที่ติดกับซูว็อน
ในปี พ.ศ. 2556 เมืองซูว็อนได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน EcoMobility World Festival ที่แขวงแฮงกุง, เขตพัลดัล เป็นเวลากว่า 1 เดือน ถนนถูกปิดเพื่อให้เป็นสถานที่ทดลองเขตปลอดรถยนต์ แทนที่จะใช้รถยนต์ ชาวเมืองจะใช้ยานพาหนะที่ไม่ได้เดินเครื่องด้วยเครื่องยนต์ซึ่งจัดเตรียมโดยคณะผู้จัดงาน[20] การทดสอบไช่ว่าจะไม่มีการต่อต้าน แต่อย่างไรก็ตามก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ ภายหลังจากเทศกาลทางเมืองซูว็อนได้เริ่มดำเนินการหารือเพื่อที่จะให้เป็นแนวปฏิบัติที่ทดลองกันใช้เป็นการถาวร[21]
สื่อมวลชน
[แก้]มีหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับที่มีฐานอยู่ที่ซูว็อนได้แก่ คย็องกีเดลี (경기일보) และ คย็องอินเดลี (경인일보) ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 ซึ่งในอดีตได้ตั้งอยู่ที่เขตจังอัน และปัจจุบันสำนักงานได้ตั้งอยู่ที่เขตพัลดัล และทั้งสองฉบับพิมพ์เฉพาะภาษาเกาหลี
การทหาร
[แก้]กองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีมีฐานทัพตั้งอยู่ที่แขวงจังจี, เขตคว็อนซ็อน, เมืองซูว็อน ซึ่งเคยเป็นฐานทัพอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในช่วงระหว่างสงครามเกาหลี
ศาสนา
[แก้]เช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ ปี พ.ศ. 2549 จากข้อมูลที่รวบรวมโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ ประมาณ 25.3 % ของประชากรไม่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ ศาสนาคริสต์ประมาณ 20% และศาสนาพุทธประมาณ 52% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โบสถ์ไดโอซิสออฟซูว็อนของคาทอลิกได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2506 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6
อาหาร
[แก้]อาหารของซูว็อนที่มีชื่อเสียงคือ ซูว็อนคัลบิ หนึ่งในหลากหลายประเภทของเนื้อย่างที่เป็นที่นิยมทั่วทั้งเกาหลี เมืองซูว็อนก็มีอาหารเกาหลีที่มีความหลากหลายเช่นเดียวกับที่มีจำหน่ายทั่วทั้งคาบสมุทรเกาหลีทั้งยังมีร้านอาหารต่างชาติหลากหลายประเภทอีกด้วย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 เทศกาลคัลบิได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก
พืชและสัตว์
[แก้]สัตว์ป่าของซูว็อนมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับส่วนใหญ่ของทั้งจังหวัดคย็องกี โดยกบต้นไม้ซูว็อนเป็นสายพันธ์ที่มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งในสองสายพันธ์กบต้นไม้ที่อาศัยอยู่ในคาบสมุทรเกาหลีและอาศัยอยู่ในเฉพาะจังหวัดคย็องกี
บุคคลที่มีชื่อเสียงจากเมืองซูว็อน
[แก้]บุคคลที่มีชื่อเสียงจากเมืองซูว็อนประกอบด้วย:
- พัก จี-ซ็อง ซึ่งเติบโตที่เมืองซูว็อน, ในปี พ.ศ. 2548 เมืองได้เปลี่ยนชื่อถนนโดยเป็นชื่อของเขา[22]
- นักแสดง คิม ซองกยู จาก Kingdom, The outlaw, 악인전, 반의반
- ลีดเดอร์ของวงชายนี อี จิน-กี หรืออนยู
- บาทหลวง บิลลี คิม, อดีตประธาน สหพันธ์แบ๊บติสต์โลก และปัจจุบันเป็นประธานของบริษัทกระจายเสียงตะวันออกไกล
- ลีดเดอร์ของวงทูเอเอ็ม โช กว็อน
- นักเชลโล ชัง ฮัน-นา
- นักแสดง ฮย็อน ย็อง
- นักแสดง ฮา จี-ว็อน
- คอลัมนิสต์ ซัม โอ
- นักกีฬาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม คิม ด็อง-ฮย็อน
- นักร้องวงเอพิงก์ ยุน โบ-มี
- นักร้องวงเอนไฮเพน คิมซอนอู
เมืองพี่น้อง
[แก้]- อะซะฮิกะวะ, ญี่ปุ่น (2532)
- จี่หนาน, จีน (2536)
- ทาว์นวิลล์, ออสเตรเลีย (2540)
- บันดุง, อินโดนีเซีย (2540)
- ยาโลวา, ตุรกี (2542)
- คลูช-นาโปกา, โรมาเนีย (2542)
- โตลูกา, เม็กซิโก (2542)
- แฟ็ส, โมร็อกโก (2546)
- จังหวัดหายเซือง, เวียดนาม (2547)
- จังหวัดเสียมราฐ, กัมพูชา (2547)
- นิจนีนอฟโกรอด, รัสเซีย (2548)
- กูรีชีบา, บราซิล (2549)[23]
- โพฮัง, สาธารณรัฐเกาหลี (2552)
- อำเภอแทอัน, สาธารณรัฐเกาหลี (2552)
- ไฟรบูร์กอิมไบรส์เกา, เยอรมนี (2558)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "수원시통계". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-30. สืบค้นเมื่อ 2021-08-15.
- ↑ "K-Leaguei". K-League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-30. สืบค้นเมื่อ 2008-02-10.
- ↑ "Welcome to Suwon city". Suwon City Council. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-12. สืบค้นเมื่อ 2007-11-27.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Turnbull, Stephen. 2002, pp. 116-123.
- ↑ "Suwon". Encyclopædia Britannica. สืบค้นเมื่อ 2007-09-01.
- ↑ 6.0 6.1 "Hwaseong Fortress - UNESCO World Heritage Centre". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 2007-12-05.
- ↑ "한국의 산하 - 광교산 (Hangugui Sanha - Gwanggyosan)". Korean mountaineering association website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-06. สืบค้นเมื่อ 2007-08-07.
- ↑ "사사동의 칠부산 (Sasa-dongui Chilbusan)". Banwol Newspaper website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-13. สืบค้นเมื่อ 2007-08-07.
- ↑ "평년값자료(1981–2010) 수원(119)". Korea Meteorological Administration. สืบค้นเมื่อ 2011-05-09.
- ↑ "영통구 연혁 (Yeongtong-gu Yeonhyeok)". Suwon City website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-10. สืบค้นเมื่อ 2006-01-10.
- ↑ 11.0 11.1 "수원시 통계 (Suwon-si Tonggye)". Suwon City website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-19. สืบค้นเมื่อ 2007-08-07.
- ↑ 12.0 12.1 "수원시청에 오신 것을 환영합니다 (Suwonsicheonge Osin Hwanyeonghamnida)". Suwon City Council. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-27. สืบค้นเมื่อ 2007-12-07.
- ↑ "Welcome to Suwon City - General State". Suwon City Council. สืบค้นเมื่อ 2007-12-08.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Suwon city_Travel and Tourism_Offical Enlgish Website". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-11. สืบค้นเมื่อ 2014-11-27.
- ↑ "Welcome to Suwon City - Sports Facilities". Suwon City Council. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-06-24. สืบค้นเมื่อ 2007-12-05.
- ↑ "Welcome to Suwon City - Suwon Professional Team Introduction". Suwon City Council. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-06-24. สืบค้นเมื่อ 2007-12-05.
- ↑ "Welcome to Suwon City - Movie Theaters". Suwon City Council. สืบค้นเมื่อ 2007-12-06.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Welcome to Suwon City - Amusement Facilities". Suwon City Council. สืบค้นเมื่อ 2007-12-06.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Beautiful Restrooms". Suwon City Council website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-08-22. สืบค้นเมื่อ 2007-08-07.
- ↑ Strother, Jason (30 September 2013). "Locals applaud car-free month in Korean city". Deutsche Welle. สืบค้นเมื่อ 13 December 2013.
- ↑ "Report presents legacy of car-free neighborhood". EcoMobility world Festival 2013. ICLEI. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-13. สืบค้นเมื่อ 13 December 2013.
- ↑ Yu Sin-jae (유신재) (2005-06-12). "수원시 '박지성길' 만든다 <Suwon-si 'pakjiseonggil' mandeunda / Suwon City constructs 'Park Ji-Sung Road'>". Hankyoreh (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-10. สืบค้นเมื่อ 2007-08-08.
- ↑ "Sister cities". Suwon City. สืบค้นเมื่อ 2014-01-27.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- City government website (in Korean)
- ซูว็อน ที่เว็บไซต์ Curlie
- Suwon : Official Seoul City Tourism
- Suwon Samsung Bluewings official site
- Official site of Hwaseong fortress (archived 2013)