ซีนโคมะเล่
ซีนโคมะเล่ (พม่า: ဆင်ခိုးမလေး; ออกเสียง: [sʰɪɴ gó mɑ lé]; แปลว่า สาวน้อยที่ถูกช้างพาไป; ชื่อเกิด มะมยีน; พ.ศ. 2395–2473)[1] เป็นนักนาฏศิลป์หลวงในราชสำนักพม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในช่วงปลายสมัยโก้นบอง[2]
เธอเป็นที่โปรดปรานของพระนางศุภยาลัตอย่างมาก จนในสมัยนั้นมีพระราชโองการว่าไม่ควรมีนักนาฏศิลป์ในราชสำนักคนอื่นนอกจากซีนโคมะเล่[3] นักนาฏศิลป์ในราชสำนักร่วมสมัยเพียงคนเดียวของเธอคือยี่นดอมะเล่ซึ่งเคยแสดงละครในราชสำนักก่อนหน้าเธอ ทั้งสองคนนี้กล่าวกันว่าเป็นมารดาของศิลปะการละครยุคต้นของมัณฑะเลย์[4]
ประวัติ
[แก้]ชีวิตช่วงต้น
[แก้]มะมยีนเป็นบุตรคนโตจากพี่น้องห้าคน[note 1] เกิดเมื่อ พ.ศ. 2395 ที่เมืองตอง-ดวี่นจี้ เธอเริ่มสนใจนาฏศิลป์แบบดั้งเดิม และด้วยความสามารถเธอจึงกลายเป็นนักนาฏศิลป์[note 2] ที่มีชื่อเสียงในบริเวณเมืองตอง-ดวี่นจี้ ตอนอายุได้ 12 ปี เมื่ออายุได้ 19 ปี เธอได้สมรสกับผู้ดูแลนาข้าวหลวง (แลดอโอะ, လယ်တော်အုပ်) แห่งตอง-ดวี่นจี้ และให้กำเนิดบุตรชายสองคน ได้แก่ ยา-บว่า (ညာဘွား) และ เทะท่า (သက်ထား)
อาชีพนักนาฏศิลป์ของราชวงศ์
[แก้]เมื่อเธอมาถึงมัณฑะเลย์เพื่อศึกษาต่อวิชานาฏศิลป์ราชสำนัก เจ้าชายแห่งยะนองผู้ทรงอำนาจและโหดเหี้ยมได้นำเธอไปเป็นภรรยาคนหนึ่ง[4] เจ้าชายแห่งยะนองได้ยกย่องเธอให้สูงขึ้น แม้ว่าเขาจะมีภรรยาที่ถูกกฎหมายหกคน แต่ซีนโคมะเล่เป็นเหรัญญิกของบ้าน ลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก[5] มากกว่าหกปีหลังการสมรส เจ้าชายแห่งยะนองได้รับความพิโรธจากพระนางศุภยาลัต เนื่องจากเขาเข้าไปพัวพันคดีของพระเจ้าสีป่อกับได้ง์คีนคีนและฆ่าตัวตายในเรือนจำ เมื่อสามีของเธอเสียชีวิต ซีนโคมะเล่เรียนนาฏศิลป์โยดะยา (ไทย) ภายใต้การฝึกสอนของอูโบเมียะเป็นเวลาสามปีโดยได้รับพระราชานุญาตจากพระนางศุภยาลัต ในที่สุดเธอก็กลายเป็นนักนาฏศิลป์คณะละครราชสำนักอินทราวุธแทนที่ยี่นดอมะเล่
หลายปีต่อมา เธอได้สมรสกับแลดอโอะอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สามีของเธอเสียชีวิตในเวลาไม่นานหลังการสมรสของพวกเขา หลังจากการสละราชสมบัติของพระเจ้าสีป่อใน พ.ศ. 2428 นักนาฏศิลป์ราชสำนักหลายคนได้ย้ายมาที่ย่างกุ้งรวมถึงซีนโคมะเล่[6] ที่ย่างกุ้งเธอได้สมรสกับมองบะ ผู้อาวุโสของเขตจิมยะไนง์ และให้กำเนิดบุตร งะทเวทิน เนื่องจากเธอไม่มีลูกสาว เธอจึงรับหลานสาวเป็นลูกบุญธรรมชื่อ มะปุ
ชีวิตในภายหลัง
[แก้]ใน พ.ศ. 2453 ซีนโคมะเล่เดินทางไปรัตนคีรีเพื่อแสดงละครราชสำนักในพิธีของพระราชธิดาทั้งสี่ของพระเจ้าสีป่อ เธอได้รับค่าตอบแทนเป็นเหรียญทอง 0.15 วิส เมื่อเธอมาถึงบ้านเกิดของเธอที่เมืองตอง-ดวี่นจี้ คณะนาฏศิลป์ดั้งเดิมก่อตั้งขึ้นพร้อมกับครอบครัวของเธอแต่ถูกยุบไปหลังจากนั้นไม่นาน ตั้งแต่นั้นมา ซีนโคมะเล่ก็กลายมาเป็นแม่ค้าขายไม้จันทน์เพื่อหาเลี้ยงชีพที่มี่นละ
ซีนโคมะเล่ใช้ชีวิตด้วยความยากจนหาบเร่ค้าขายและเสียชีวิตใน พ.ศ. 2473 อายุ 78 ปี
ศัพทมูลวิทยา
[แก้]ชื่อศิลปินของเธอ ซีนโคมะเล่ มีความหมายว่า "สาวน้อยที่ถูกช้างอุ้มไป" ว่ากันว่าเจ้าชายแห่งยะนองอุ้มเธอไปบนช้างเพื่อสมรสกับเจ้าชาย ตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่เธอแสดงนาฏศิลป์ เธอและผู้ชมจะใช้ชื่อ ซีนโคมะเล่ เสมอ[7]
หมายเหตุ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ဆင်ခိုးမလေး?". www.lostfootsteps.org (ภาษาพม่า).
- ↑ Maṅʻ (Moṅʻ), Khaṅʻ (1987). စာတမ်းငယ် စာပေစာတမ်းများ (ภาษาพม่า). စာပေဗိမာန်.
- ↑ မြန်မာ့စွယ်စုံကျမ်း (ภาษาพม่า). မြန်မာနိုင်ငံ ဘာသာပြန်စာပေအသင်း. 1954.
- ↑ 4.0 4.1 "ပဒေသရာဇ်ခြေတော်တင် ပါရမီရှင်အမျိုးသမီးတဦး". BBC News (ภาษาพม่า).
- ↑ ညင်း, စောမုံ (1976). ဗမာအမျိုးသမီး (ภาษาพม่า). ပိတောက်လှိုင်းစာပေ.
- ↑ ငွေတာရီမဂ္ဂဇင်း (ภาษาพม่า).
- ↑ Arts of Asia (ภาษาอังกฤษ). Arts of Asia Publications. 2007.