ชัย มุกตพันธุ์
ศาสตราจารย์ ชัย มุกตพันธุ์ (6 กรกฎาคม พ.ศ. 2460-25 พฤษภาคม พ.ศ. 2530) เป็นนักวิชาการชาวไทยซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งวิชาปฐพีกลศาสตร์แห่งประเทศไทย[1] ในอดีตเป็นเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน อธิบดีกรมอาชีวศึกษา คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงานสำคัญชิ้นหนึ่งคือ ร่วมเป็นผู้แทนของประเทศไทยในการก่อตั้ง บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ ส.ป.อ. (องค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ซึ่งปัจจุบันคือ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
ศาสตราจารย์ ดร.ชัย มุกตพันธุ์ หรือ ศาสตราจารย์ ชัย มุกตพันธุ์ ยังเคยเป็นอาจารย์ผู้สอน นิสิต และนักศึกษา วิศวกรรม ทั้งปริญญาตรี โท และเอก มากกว่า 40 รุ่น ทั้งชาวไทยและชาวเอเชีย อื่น ๆ นับเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญของชาวไทย ซึ่งประสิทธิประสาทวิชาการ แก่วิศวกร เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในปัจจุบัน
การศึกษา
[แก้]- 2481: วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 2489: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต คนแรก ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 2491: ธรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง
- 2493-2496: M. Eng. มหาวิทยาลัยเยล และ D.Sc. มหาวิทยาลัยมิชิแกน
- 2511: วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
การทำงาน
[แก้]ศ.ชัย มุกตพันธุ์ เริ่มรับราชการเป็นอาจารย์ตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2482 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในปี พ.ศ. 2502 และได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นรองศาสตราจารย์ ในปี พ.ศ. 2504 ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นในปี พ.ศ. 2518 ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ผลงาน
[แก้]- ด้านวิชาการ ผลงานตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ มีมากกว่า 70 เรื่อง ที่สำคัญ ได้แก่
- Steel Frames for Industrial Buildings ในหนังสือ Building in Atomic Age ของ M.I.T.
- Bangkok Subsoils ในหนังสือ Proceedings of a Conference on Architecture and Structure Engineering in Relation of the Construction of Large Buildings, Bangkok
- Engineering Properties of Bangkok Subsoil ในหนังสือ Prcoceeding of the South-east Asian Regional Conference on soil engineering. A.I.T.
- คุณสมบัติของดินบาดาลบริเวณกรุงเทพฯ ในหนังสือวิศวกรรมสาร ฉบับพิเศษ ครบรอบ 25 ปี พ.ศ. 2511 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
- ปฐพีกลศาสตร์และวิศวกรรมฐานราก พ.ศ. 2526
- การทรุดตัวของนครหลวง ในการสัมมนาเรื่อง ปัญหานครหลวง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ด้านการออกแบบทางด้านวิศวกรรม อาคารทางศาสนา
- การซ่อมแซมพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม
- ปรับปรุงพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
- ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างฐานรากมณฑปวัดหินหมากแป้ง จังหวัดหนองคาย
- ออกแบบซ่อมแซมฐานรากพระเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- ซ่อมแซมพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร
- ควบคุมการก่อสร้างพระอุโบสถวัดตรีทศเทพ
- ด้านการออกแบบทางด้านวิศวกรรม อาคารสถานศึกษาและโรงพยาบาล
- ตึกสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
- ตึกคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตึกทดลองวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตึกทดลองวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตึกออร์โทปิดิส์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
- ควบคุมการก่อสร้างตึก “วชิรญาณวงศ์” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- ควบคุมการก่อสร้างตึก “ภ.ป.ร.” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- หนังสือ
- ปฐพีกลศาสตร์และวิศวกรรมฐานราก เขียนร่วมกับ กาซูโต นากาซาวา : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2525 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[2]
- พ.ศ. 2519 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[3]
- พ.ศ. 2530 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายหน้า)[4]
- พ.ศ. 2508 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[5]
- พ.ศ. 2521 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3 (ภ.ป.ร.3)[6]
- พ.ศ. 2493 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
- พ.ศ. 2510 – เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 (เหรียญทอง)
เกียรติคุณที่ได้รับ
[แก้]- 2509: นายกสโมสรอาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 2510: วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 2516: สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- 2518: ผู้ตรวจการลูกเสือ สำนักงานคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ
- 2519: ศาสตราจารย์อุปการคุณ วิชาวิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 2519: ราชบัณฑิต ประเภทวิทยาศาสตร์ประยุกต์
- 2523: เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน ติดต่อกัน 4 วาระ
- 2529: D.Sc.(กิตติมศักดิ์) สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาแห่งวิชาปฐพีกลศาสตร์แห่งประเทศไทย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-06. สืบค้นเมื่อ 2019-01-03.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙๙ ตอนที่ ๑๘๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๘, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๔ ตอนที่ ๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๙, ๖ มกราคม ๒๕๒๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2011-05-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๔ ตอนที่ ๘๖ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๕ ฑฤษภาคม ๒๕๓๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๑๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗๘๔, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๐๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์[ลิงก์เสีย], เล่ม ๙๕ ตอนที่ ๑๐๗ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๕, ๒ ตุลาคม ๒๕๒๑
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- มณฑปแห่งวัดหินหมากเป้ง เก็บถาวร 2007-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2460
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2530
- ศาสตราจารย์
- นักวิชาการชาวไทย
- ราชบัณฑิต
- วิศวกรชาวไทย
- อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์
- นิสิตเก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
- บุคคลจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บุคคลจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.จ. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเหรียญจักรพรรดิมาลา