คฤหาสน์วิปลาส (เกมกระดาน)
Mansions of Madness | |
---|---|
ผู้จัดทำ | Fantasy Flight Games (เจ้าของลิขสิทธิ์) สยามบอร์ดเกมส์ และ มีนบุ๊กเกมส์ (ลิขสิทธิ์ในประเทศไทย) |
วันที่ออกจำหน่าย | 2011 |
อายุของเกม | 2011 – 2016 (รุ่นที่หนึ่ง) 2016 – ปัจจุบัน (รุ่นที่สอง) |
ประเภทของเกม | ร่วมมือกัน, ผจญภัย, สยองขวัญ, ลึกลับ |
ภาษา | อังกฤษ, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, โปแลนด์, โปรตุเกส, รัสเซีย, สเปน, เช็ก, เกาหลี, ไทย, ยูเครน |
จำนวนผู้เล่น | 2 – 5 คน (รุ่นที่หนึ่ง) 1 – 5 คน (รุ่นที่สอง) |
ระยะเวลาติดตั้ง | 10 นาที (โดยประมาณ) |
ระยะเวลาเล่น | 2 – 3 ชั่วโมง (โดยประมาณ) |
โอกาสสุ่ม | กลาง |
ทักษะที่จำเป็น | การแก้ไขปัญหา, การร่วมมือกัน |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์บอร์ดเกมอย่างเป็นทางการ สยามบอร์ดเกมส์ |
คฤหาสน์วิปลาส หรือ Mansions of Madness เป็นเกมกลยุทธ์บนโต๊ะที่ออกแบบโดย คอรีย์ โคนีซกา และเผยแพร่โดย Fantasy Flight Games ในปี 2011 โดยเป็นเกมที่มีพื้นฐานมาจากนวนิยายของ เอช. พี. เลิฟคราฟท์ ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสความสยอง และปริศนาในแบบเลิฟคราฟท์
ภายหลังจากรุ่นแรกได้ออกวางจำหน่ายมาเป็นเวลา 5 ปี พร้อมกับกล่องเสริม 2 กล่อง และเนื้อเรื่องเสริม 6 เรื่อง คฤหาสน์วิปลาส รุ่นแรก จึงปลดระวางและมีการออก คฤหาสน์วิปลาส รุ่นที่สอง มาทดแทน ในรุ่นที่สองนี้ออกแบบโดย นิกกี วาเลนส์ และใช้แอปพลิเคชันในการดำเนินเนื้อเรื่องของเกมแทนการใช้คน[1]
ในปี 2021 คฤหาสน์วิปลาส ฉบับภาษาไทยได้ออกจำหน่ายเป็นคร้ังแรก โดยมีสยามบอร์ดเกมส์ และ มีนบุ๊กเกมส์ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายในประเทศไทย
รุ่นที่หนึ่ง[แก้]
คฤหาสน์วิปลาส ในรุ่นแรกต้องมีผู้เล่นตั้งแต่ 2 – 5 คน โดยมีผู้เล่น 1 คน เป็นผู้ควบคุมเกม ซึ่งจะทำหน้าที่เล่าเนื้อเรื่องและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และควบคุมการเดิน และการโจมตีของสัตว์ประหลาด ส่วนผู้เล่นคนอื่นจะรับบทเป็นนักสืบที่เข้ามาในบ้านผีสิงเพื่อทำการแก้ปริศนาที่เกิดขึ้น ในตอนต้นของเกม ผู้เล่นจะเลือกเนื้อเรื่องและติดตั้งแผนที่ตามที่กำหนด ผู้ควบคุมจะทำความเข้าใจกับกฎต่าง ๆ และจัดวางแผนที่ และอุปสรรคตามที่กำหนด หลังจากติดตั้งเกมแล้ว ผู้เล่นจะเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้นที่กำหนดไว้ และหากมีตัวละครหลัก ผู้เล่นที่มีบทบาทเป็นตัวละครหลักจะได้เล่นก่อน หากไม่มี ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดจะได้เล่นก่อน จากนั้นผู้เล่นแต่ละคนจะทำการสำรวจคฤหาสน์ร้างนี้ โดยแต่ละคนสามารถเคลื่อนที่ไปได้สองช่องและดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง และผู้เล่นแต่ละคนจะมีค่าสุขภาพและสติที่ลดลงเมื่อตัวละครที่ควบคุมได้รับบาดเจ็บหรือหวาดกลัว แต่ละครั้งที่ผู้เล่นได้รับความเสียหาย ผู้ควบคุมเกมอาจเล่นการ์ดบาดแผลซึ่งก่อให้เกิดการลงโทษเพิ่มเติมได้ ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นอาจได้รับความเสียหายถึงขั้นขาหักและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วเหมือนเมื่อก่อน หรือผู้เล่นอาจมีอาการกลัวความมืดหลังจากเผชิญกับความสยองเหนือธรรมชาติ ในระหว่างตาของผู้เล่น ผู้ควบคุมอาจเล่นการ์ดมิธอสเพื่อพยายามทำให้ตัวละครบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจ ทำให้เสื่อมเสียหรือทำลายสิ่งของ หรือมิฉะนั้นก็ปล่อยคืน
หลังจากผู้เล่นจบรอบ ผู้ควบคุมเกมจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง และรวบรวมจุดคุกคามเท่ากับจำนวนผู้ตรวจสอบในแต่ละรอบ จุดคุกคามเป็นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการใช้การ์ดความสามารถส่วนใหญ่ของผู้ควบคุมเกม
ผู้ควบคุมเกมจะรู้เป้าหมายตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งจะถูกปิดบังไว้ไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นรู้ จนกระทั่งใกล้จบเกมจึงจะเปิดเผย
ส่วนเสริม[แก้]
ในคฤหาสน์วิปลาส รุ่นแรก มีส่วนเสริมออกมาทั้งหมด 2 ตัว ได้แก่ Forbidden Alchemy ออกมาเมื่อปี 2011[2] และ Call of the Wild ออกมาเมื่อปี 2013[3] ทั้งสองส่วนเสริมออกแบบโดย คอรีย์ โคนีซกา
เนื้อเรื่อง[แก้]
- "Season of the Witch" (2011)
- "The Silver Tablet" (2011)
- "Til Death Do Us Part" (2011)
- "Return of the Reanimator" (2011) (ส่วนเสริม Forbidden Alchemy)
- "Yellow Matter" (2011) (ส่วนเสริม Forbidden Alchemy)
- "Lost in Time and Space" (2011) (ส่วนเสริม Forbidden Alchemy)
- "House of Fears" (2012)
- "The Yellow Sign" (2012)
- "The Laboratory" (2013)
- "A Cry for Help" (2013) (ส่วนเสริม Call of the Wild)
- "The Stars Aligned" (2013) (ส่วนเสริม Call of the Wild)
- "The Mind's Veil" (2013) (ส่วนเสริม Call of the Wild)
- "'The Dunwich Horror" (2013) (ส่วนเสริม Call of the Wild)
- "A Matter of Trust" (2013) (ส่วนเสริม Call of the Wild)
รุ่นที่สอง[แก้]
คฤหาสน์วิปลาส รุ่นที่สอง ได้ออกวางจำหน่ายเมื่อ 4 กันยายน 2016[4] ซึ่งนอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยแล้ว รูปแบบการเล่นยังคงคล้ายเดิมเพียงแต่จะเปลี่ยนผู้ควบคุมเกมจากคนมาเป็นแอปพลิเคชันแทน ซึ่งสามารถเปิดได้จากสตีมบนเครื่องแมคและพีซี ไอโอเอส และแอนดรอยด์[5] ซึ่งตัวแอพจะทำการควบคุมเกม สร้างแผนที่ ปล่อยสัตว์ประหลาด และสร้างปริศนาขึ้นมาแบบสุ่ม เพื่อสร้างความหลากหลายของตัวเกม และระดับความยากไปตามสถานการณ์ ซึ่งด้วยการที่แอพเป็นตัวควบคุมเกม ทำให้ในรุ่นนี้สามารถที่จะเล่นคนเดียวได้
และในรุ่นนี้ได้อนุญาตให้ผู้ที่มีตัวเกมรุ่นแรก สามารถนำตัวละคร แผ่นแผนที่ ตัวสัตว์ประหลาด มาร่วมเล่นได้เพื่อเพิ่มสถานการณ์ให้หลากหลายยิ่งขึ้น[6] และหลังจากนั้นไม่นานตัวเกมก็ได้ออกคอลเลกชัน Recurring Nightmares และ Suppressed Memories สำหรับผู้ที่ไม่มีตัวเกมในรุ่นแรก
ตัวเกมมาพร้อมกับเนื้อเรื่อง 4 เรื่องที่มีความยาวและความยากแตกต่างกันออกไป และมีเนื้อเรื่อง DLC ที่ผู้เล่นสามารถซื้อเพื่อมาเล่นได้ และผู้เล่นคนใดที่มีเกมรุ่นแรก หรือมีคอลเลกชัน Recurring Nightmares และ Suppressed Memories จะสามารถเล่นเนื้อเรื่องเพิ่มเติมได้
ฟิกเกอร์ แอนด์ไทล์ คอลเลกชันส์[แก้]
ใน คฤหาสน์วิปลาส รุ่นที่สอง มาพร้อมกับชุดแปลงที่ช่วยให้ผู้ที่มีเกมรุ่นแรก และส่วนเสริมอย่างใดอย่างหนึ่งจากสองส่วนนี้สามารถใช้ตัวละคร สัตว์ประหลาด และชิ้นส่วนในขณะที่เล่นเนื้อเรื่องในรุ่นที่สองได้[6] ซึ่งผู้ใหม่ที่ไม่มีตัวเกมรุ่นแรก ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่มีสำหรับเพื่อต้องการเพิ่มอรรถรสในการเล่น และเพิ่มความหลากหลายให้กับเกม แผนที่มากขึ้น และสัตว์ประหลาดมีหลากหลาย และมีตัวเลือกในการกระทำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการผลิตเกมรุ่นแรกและส่วนเสริมได้หยุดลง Fantasy Flight Games จึงตัดสินใจบรรจุส่วนประกอบเกมเก่าเป็นคอลเลกชันฟิกเกอร์และไทล์ใหม่สองชุด และวางจำหน่ายพร้อมกัน สิ่งเหล่านี้ไม่ถือเป็นส่วนเสริมที่แท้จริง แต่เป็นการบรรจุส่วนประกอบรุ่นเก่าที่เลิกผลิตใหม่ ซึ่งอนุญาตให้ผู้เล่นใหม่เพิ่มลงในเกมรุ่นที่สองได้
คอลเลกชันฟิกเกอร์และไทล์ ออกมาเพียง 2 ชุดเท่านั้นคือ Recurring Nightmares Figure and Tile Collection ซึ่งประกอบด้วยตัวละคร สัตว์ประหลาด การ์ด และแผนที่จากคฤหาสน์วิปลาส รุ่นแรก และ Suppressed Memories Figure and Tile Collection ซึ่งประกอบด้วยตัวละคร สัตว์ประหลาด การ์ด และแผนที่จากส่วนเสริม Forbidden Alchemy และ Call of the Wild
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/0b/Map_mansion_of_madness.jpg/220px-Map_mansion_of_madness.jpg)
ส่วนเสริม[แก้]
- ไขประตูสู่วิวรณ์ (Beyond the Threshold)
- ถนนลี้ลับแห่งอาร์คัม (Streets of Arkham)
- วิหารลับแห่งสนธยา (Sanctum of Twilight)
- Horrific Journeys
- Path of the Serpent
เนื้อเรื่อง[แก้]
เนื้อเรื่อง | ชื่อเนื้อเรื่องในภาษาไทย | ความยาก | เวลาการเล่น (นาที) | อุปกรณ์ที่ต้องใช้ |
---|---|---|---|---|
"Cycle of Eternity" | "วัฏจักรนิรันดร์" | 2/5 | 60 – 90 | ตัวเกมพื้นฐาน |
"Escape from Innsmouth" | "การหลบหนีจากเมืองอินน์สมัธ" | 4/5 | 90 – 150 | ตัวเกมพื้นฐาน |
"Shattered Bonds" | "พันธะสัญญาที่แตกสลาย" | 5/5 | 120–180 | ตัวเกมพื้นฐาน |
"Rising Tide" | "ทะเลคลั่ง" | 3/5 | 240 – 360 | ตัวเกมพื้นฐาน |
"Dearly Departed"[7] | 5/5 | 120 – 150 | คฤหาสน์วิปลาส รุ่นแรก หรือ คอลเลกชันฟิกเกอร์และไทล์ Recurring Nightmares | |
"Cult of Sentinel Hill"[8] | 3/5 | 120 – 150 | ส่วนเสริม Call of the Wild หรือ คอลเลกชันฟิกเกอร์และไทล์ Suppressed Memories | |
"What Lies Within"[9] | 4/5 | 120 – 150 | ตัวเกมพื้นฐาน + DLC (ซื้อ) | |
"Gates of Silverwood Manor"[10] | "ประตูคฤหาสน์ซิลเวอร์วูด" | 4/5 | 120 – 180 | ส่วนเสริม ไขประตูสู่วิวรณ์ |
"Vengeful Impulses" | "แรงพยาบาท" | 2/5 | 90 – 120 | ส่วนเสริม ไขประตูสู่วิวรณ์ |
"Dark Reflections"[11] | 3/5 | 180 – 240 | ตัวเกมพื้นฐาน + DLC (ซื้อ) | |
"Astral Alchemy"[12] | "เล่นแร่แปรดวงดาว" | 4/5 | 90 – 120 | ส่วนเสริม ถนนลี้ลับแห่งอาร์คัม |
"Gangs of Arkham" | "แก๊งแห่งอาร์คัม" | 3/5 | 180 – 240 | ส่วนเสริม ถนนลี้ลับแห่งอาร์คัม |
"Ill-Fated Exhibit" | "นิทรรศการต้องสาป" | 5/5 | 120 – 180 | ส่วนเสริม ถนนลี้ลับแห่งอาร์คัม |
"The Twilight Diadem"[13] | 4/5 | 180 – 240 | ส่วนเสริม วิหารลับแห่งสนธยา | |
"Behind Closed Doors" | 3/5 | 120–150 | ส่วนเสริม วิหารลับแห่งสนธยา | |
"Altered Fates"[14] | "บิดเบือนโชคชะตา" | 3/5 | 90–120 | ตัวเกมพื้นฐาน + DLC (ซื้อ) |
"Murder on the Stargazer Majestic"[15] | 3/5 | 90–150 | ส่วนเสริม Horrific Journeys | |
"10:50 to Arkham" | 4/5 | 90–120 | ส่วนเสริม Horrific Journeys | |
"Hidden Depths" | 5/5 | 120–180 | ส่วนเสริม Horrific Journeys | |
"The Jungle Awakens"[16] | 3/5 | 90-120 | ส่วนเสริม Path of the Serpent | |
"Into the Dark" | 4/5 | 150-180 | ส่วนเสริม Path of the Serpent | |
"Lost Temple of Yig" | 5/5 | 90-120 | ส่วนเสริม Path of the Serpent |
แหล่งอ้างอิง[แก้]
- ↑ Zimmerman, Aaron; Anderson, Nate; Mendelsohn, Tom (8 December 2017). "Ars Technica's ultimate board game buyer's guide". Ars Technica. สืบค้นเมื่อ 12 November 2021.
- ↑ "Mansions of Madness: Forbidden Alchemy". BoardGameGeek. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-30. สืบค้นเมื่อ 2017-07-23.
- ↑ Mansions of Madness: Call of the Wild expansion เก็บถาวร 2013-11-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ BoardGameGeek เก็บถาวร 2017-02-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน retrieved 12 February 2017
- ↑ Fantasy Flight Games เก็บถาวร 2017-02-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, retrieved 12 February 2017
- ↑ 6.0 6.1 "Learn About the Mansions of Madness Second Edition Conversion Kit". www.fantasyflightgames.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-03. สืบค้นเมื่อ 2017-07-23.
- ↑ "Dearly Departed". Fantasy Flight Games. 26 August 2016.
- ↑ "Cult of Sentinel Hill". Fantasy Flight Games. 8 September 2016.
- ↑ "What Lies Within". Fantasy Flight Games. 21 December 2016.
- ↑ "Step Beyond the Threshold". Fantasy Flight Games. 12 January 2017.
- ↑ "Dark Reflections". Fantasy Flight Games. 4 August 2017.
- ↑ "Take to the Streets". Fantasy Flight Games. 9 November 2017.
- ↑ "Enter the Sanctum". Fantasy Flight Games. 19 April 2018.
- ↑ "Altered Fates". Fantasy Flight Games. 30 August 2018.
- ↑ "Horrific Journeys". Fantasy Flight Games. 2 July 2018.
- ↑ "Path of the Serpent". Fantasy Flight Games. 24 June 2019.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- Mansions of Madness archived from the original at Fantasy Flight Games
- Mansions of Madness at BoardGameGeek
- Mansions of Madness, 2nd Edition at BoardGameGeek