ข้ามไปเนื้อหา

ข้อตกลงอาร์ทิมิส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อตกลงอาร์ทิมิส
ข้อตกลงอาร์ทิมิส: หลักการความร่วมมือในการสำรวจทางพลเรือนและการใช้ดวงจันทร์ ดาวอังคาร ดาวหาง และดาวเคราะห์น้อยเพื่อวัตถุประสงค์ทางสันติ
แผนที่ประเทศที่ลงนามในข้อตกลงอาร์ทิมิส
ประเทศที่เข้าร่วมในข้อตกลงอาร์ทิมิส (ธันวาคม พ.ศ. 2567)
  ชาติที่ลงนาม

ประเภทกฎหมายอวกาศ
วันลงนาม13 ตุลาคม พ.ศ. 2563
ภาคี52
ภาษาอังกฤษ
ข้อความทั้งหมด
Artemis Accords ที่ วิกิซอร์ซ

ข้อตกลงอาร์ทิมิส (อังกฤษ: Artemis Accords) เป็นชุดข้อตกลงพหุภาคีที่ไม่มีผลผูกพัน[1] ระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลอื่น ๆ ของโลกซึ่งขยายความเกี่ยวกับบรรทัดฐานที่คาดว่าจะปฏิบัติตามในอวกาศ[2] ข้อตกลงมีความเกี่ยวข้องกับโครงการอาร์ทิมิส ซึ่งเป็นความพยายามที่นำโดยสหรัฐอเมริกาในการส่งมนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์ภายใน พ.ศ. 2569 โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการขยายการสำรวจอวกาศไปยังดาวอังคารและดาวที่ไกลออกไป.[3]

ณ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ด้วยการเข้าร่วมของไทย และ ลีชเทินชไตน์ มีประเทศต่าง ๆ ทั้งสิ้น 52 ประเทศที่ลงนามในข้อตกลงนี้ โดยรวมถึง 26 ประเทศในทวีปยุโรป 9 ประเทศในทวีปเอเชีย 7 ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ 5 ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ 3 ประเทศในทวีปแอฟริกา และ 2 ประเทศในโอเชียเนีย

ข้อตกลงร่างโดยนาซาและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกำหนดกรอบความร่วมมือในการสำรวจทางพลเรือนและการใช้งานดวงจันทร์ ดาวอังคาร และวัตถุทางดาราศาสตร์อื่น ๆ อย่างสันติ[4] ข้อตกลงมีพื้นฐานชัดเจนในสนธิสัญญาอวกาศของสหประชาชาติใน พ.ศ. 2510 ซึ่งผู้ลงนามมีหน้าที่ต้องยึดถือ และอ้างอิงอนุสัญญาสำคัญ ๆ ที่สหประชาชาติเป็นตัวกลางในการจัดทำกฎหมายอวกาศส่วนใหญ่[5][6][7][8][note 1]

ข้อตกลงนี้ลงนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2563 โดยตัวแทนของหน่วยงานอวกาศแห่งชาติของ 8 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา อิตาลี ญี่ปุ่น ลักเซมเบิร์ก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา[5] ข้อตกลงอาร์ทิมิสยังคงเปิดให้ลงนามได้อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากนาซาคาดว่าจะมีประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมมากขึ้น[9] ผู้ลงนามเพิ่มเติมสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมโดยตรงในกิจกรรมของโครงการอาร์ทิมิส หรืออาจตกลงที่จะปฏิบัติตามหลักการในการสำรวจดวงจันทร์อย่างรับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลง[10]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ยกเว้นสนธิสัญญาดวงจันทร์ แม้ว่าออสเตรเลียจะให้สัตยาบันแล้วก็ตาม สนธิสัญญากับดวงจันทร์มีรัฐภาคีเพียง 17 รัฐเท่านั้น และไม่มีรัฐใดเลยที่มีส่วนร่วมในการส่งมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศด้วยตนเอง

อ้างอิง

[แก้]
  1. Foust, Jeff (2020-10-13). "Eight countries sign Artemis Accords". SpaceNews (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-02-27.
  2. "Artemis Accords". NASA (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-02-27.
  3. Dunbar, Brian (2019-07-23). "What is Artemis?". NASA. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 August 2019. สืบค้นเมื่อ 2021-05-01.
  4. "NASA: Artemis Accords". NASA. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 May 2020. สืบค้นเมื่อ 2021-05-01.
  5. 5.0 5.1 Potter, Sean (2020-10-13). "NASA, International Partners Advance Cooperation with Artemis Accords". NASA. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 February 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-05-01.
  6. "Fact Sheet: Artemis Accords - United for Peaceful Exploration of Deep Space". U.S. Embassy & Consulates in Brazil (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2020-10-20. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 March 2022. สืบค้นเมื่อ 2021-05-01.
  7. Newman, Christopher (2020-10-19). "Artemis Accords: why many countries are refusing to sign Moon exploration agreement". The Conversation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 June 2022. สืบค้นเมื่อ 2021-06-17.
  8. "The Artemis Accords and the Future of International Space Law". ASIL. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 June 2022. สืบค้นเมื่อ 2021-06-17.
  9. "NASA, International Partners Advance Cooperation with First Signings of Artemis Accords". NASA. Oct 13, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-15. Additional countries will join the Artemis Accords in the months and years ahead, as NASA continues to work with its international partners to establish a safe, peaceful, and prosperous future in space. Working with emerging space agencies, as well as existing partners and well-established space agencies, will add new energy and capabilities to ensure the entire world can benefit from the Artemis journey of exploration and discovery.
  10. Howell, Elizabeth (2022-08-25). "Artemis Accords: Why the international moon exploration framework matters". Space.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 November 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-11-06.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]