ก้าน แก้วสุพรรณ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
ก้าน แก้วสุพรรณ | |
---|---|
ชื่อเกิด | มงคล หอมระรื่น |
รู้จักในชื่อ | แดง[1] |
เกิด | 5 สิงหาคม พ.ศ. 2482 [2] |
ที่เกิด | อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี |
เสียชีวิต | 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556 (74 ปี) โรงพยาบาลวัดไร่ขิง เมตตาประชารักษ์ จังหวัดนครปฐม |
แนวเพลง | ลูกทุ่ง |
อาชีพ | นักร้อง |
ก้าน แก้วสุพรรณ (Kan Kaeosuphan)(5 สิงหาคม พ.ศ. 2482 - 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556) เป็นนักร้องผู้เปิดตำนานนักร้องจากแดนสุพรรณ เมืองที่ผลิตนักร้องลูกทุ่งระดับตำนานประดับวงการเพลงลูกทุ่งมากมาย ก้าน แก้วสุพรรณ มีผลงานเพลงดังมากมาย แต่ที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากให้กับเขาก็คือเพลง “น้ำตาลก้นแก้ว”
ประวัติ
[แก้]ก้าน แก้วสุพรรณ มีชื่อเล่นว่า แดง และมีชื่อจริงว่า มงคล หอมระรื่น เป็นบุตรของนายใหม่และนางสวง หอมระรื่น เป็นชาว อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ครอบครัวมีฐานะยากจนจึงถูกนำมาฝากเลี้ยงและต่อมาก็ได้เป็นบุตรบุญธรรมของพระครูสุนทรานุกิจ (หลวงพ่อวัดสามชุก) เพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนหลังจบการศึกษาชั้น ป.4 หลวงพ่อต้องการส่ง ก้าน แก้วสุพรรณ มาศึกษาต่อที่ กรุงเทพฯ โดยให้มาอยู่ที่วัดปรินายก ย่านสะพานผ่านฟ้า แต่การที่จะมาอยู่ที่นี่ได้เขาจะต้องบวชเป็นสามเณรเสียก่อนเพียงในวัย 10 ปี ก้าน แก้วสุพรรณ จึงได้บวชเป็นสามเณรและศึกษาพระธรรมจนจบนักธรรมตรีเมื่ออายุ 17 ปี จากนั้นก็ถูกส่งมาสอบนักธรรมโทที่ กรุงเทพฯ โดยมาอยู่ที่วัดปรินายก
หลังบวชอยู่ได้ไม่นาน ก้าน แก้วสุพรรณ ต้องการออกหางานทำ เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว จึงสึกออกมาและมาทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์บริษัท รสพ. ประจำอยู่ที่อู่ศรีนครแต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะทนกับการถูกรังแกของอันธพาลไม่ไหวจึงตัดสินใจกลับบ้านที่สุพรรณบุรี แต่หลังจากที่อยู่บ้านไม่นานเขาก็ตัดสินใจกลับเข้ากรุงเทพฯอีกครั้งโดยคราวนี้เข้ามาทำงานเป็นนักมวยตระเวนชกตามงานต่าง ๆ ในยุคนั้นใกล้ๆกับสังเวียนมวยที่เขาไปตระเวนขึ้นชกมักมีเวทีให้ประชันน้ำเสียงด้วยหลังชกมวยเสร็จ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพื่อนก็มักมาเที่ยวตามเวทีประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง และเขาก็มักถูกเพื่อน ๆ ผลักดันให้ขึ้นประกวดแบบจำใจเมื่อเพื่อน ๆ แอบมาลงชื่อสมัครไว้ก่อนแล้วเมื่อถูกโฆษกเรียกก็ต้องขึ้นไปแต่เขาก็สามารถคว้าชัยชนะและรางวัลมาครองได้หลายเวทีคและเมื่อเห็นว่าการร้องเพลงดีกว่าการชกมวยที่ไม่ต้องเหนื่อยและเจ็บตัว ก้าน แก้วสุพรรณ ก็จึงตระเวนประกวดร้องเพลงไปเรื่อย ๆ จนถูกกรรมการขอร้องไม่ให้เข้าประกวดเขาจึงถูกคนมองมาทาบทามให้ไปเป็นนักร้องบันทึกแผ่นแต่หลังจากที่ถูกพาไปพบกับ บังเละ วงศ์อาบู และ คำรณ สัมบุญญานนท์ ก็ถูกปฏิเสธกลับมา
เข้าสู่วงการ
[แก้]ก้าน แก้วสุพรรณ ได้ทราบข่าวว่าครู ป. ชื่นประโยชน์ เปิดโรงเรียนสอนดนตรีและขับร้องเพลง เขาจึงไปลองสมัครดู งานนี้ผู้ที่มาสมัครต้องมีการเทสต์เสียงด้วยถ้าคนไหนเสียงเข้าขั้นก็จะถูกเรียกตัวมาในภายหลัง ก้าน แก้วสุพรรณ ไม่ผิดหวังเขาถูกเรียกตัวและเมื่อมาเป็นนักเรียนร้องเพลงเขาก็สร้างความประทับใจให้กับครูด้วยการอาสาช่วยงานสารพัดทั้งเก็บกวาดปัดถูจนครู ป. เห็นใจ รับเป็นศิษย์เอกและบุตรบุญธรรมตอนมีงานแสดงก็มักถูกเรียกตัวไปร่วมในวงด้วยเมื่ออยู่ที่นี่ ก้าน แก้วสุพรรณ หัดสีไวโอลินและแซ็กโซโฟน แต่ครูเห็นว่าเขาน่าจะเอาดีได้ทางกลอง จึงให้ฝึกกลอง แต่ครูก็สอนโน้ตดนตรีและการขับร้องเพลงให้ในที่สุดก็แต่งเพลงให้เพลงหนึ่งชื่อ “ คนชาวนา “ พร้อมกับพาไปบันทึกเสียงและเปลี่ยนชื่อเป็น ก้าน แก้วสุพรรณ จากนั้นก็ได้บันทึกเสียงอีก 2 เพลง แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่แฟนเพลง
ก้าน แก้วสุพรรณ เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงมากขึ้นจากเพลง “ หลงกรุง ” ซึ่งแต่งโดย ต่อชัย ภู่ชมภู แต่เสียชีวิตก่อนที่จะแต่งเสร็จ ครู ป. จึงนำมาแต่งต่อ เขาจึงได้เข้ามาเป็นนักร้องแนวหน้าของวงการเพลงร่วมกับ สุรพล สมบัติเจริญ , ผ่องศรี วรนุช ก่อนที่จะตอกย้ำความดังด้วยเพลง แก่งคอย ขณะที่ ก้าน แก้วสุพรรณ กำลังดัง ครู ป.ได้หยุดวง ก้าน แก้วสุพรรณ และเพื่อนในวงได้ขอเข้ามาทำวงต่อและเปลี่ยนชื่อวงเป็นวงเป็นชื่อว่าวงดนตรี “ ประกายดาว “ โดยได้รวบรวมเอานักร้องดังในยุคนั้นมาอยู่ในวงมากมายทั้ง สุรพล สมบัติเจริญ , ผ่องศรี วรนุช , ทูล ทองใจ , และคำรณ สัมบุณนานนท์ วงของเขาจึงมีงานเข้ามาไม่ขาดสายและรับไม่ไหวเขาจึงส่งเสริมให้ สุรพล สมบัติเจริญ แยกไปตั้งวงเพื่อแบ่งงานไปบ้างต่อมาวง “ ประกายดาว “ เปลี่ยนชื่อมาเป็นวง “ ก้าน แก้วสุพรรณ “ และเมื่อความนิยมลดลงก้าน แก้วสุพรรณ หันมาจับกิจการด้านร้านอาหาร จัดสรรที่ดินและปลูกบ้านจัดสรรแต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จจึงเลิกราไปนอกจากนั้นเขาก็ยังปลุกปั้นนักร้องลูกทุ่งประดับวงการด้วยกันหลายคน
ผลงานเพลงดัง
[แก้]- รอยไถแปร
- น้ำตาลก้นแก้ว
- ดาวจรัสแสง
- แก่งคอย
- แอบมอง
- เพราะขอบรั้วกั้น
- หนุ่มเมืองนนท์
- สวรรค์ชาวนา
- โสนน้อยเรือนงาม
- หลงกรุง
- บ้านน้องอยู่ไหน
- บางพลัด
- บางซ่อน
- บ้านแพน
- แม่ชบาไพร
- สาส์นสีโศก
- สองมือข้ามี
- กระท่อมดวงใจ
- อกหักเพราะรักคุณ
- ลาแล้วแก้วตา
- สวรรค์ชาวนา
- แก่งหลวง
- สาวบ้านสร้าง
และผลงานเพลงในแนวเพลงลูกทุ่งอีกมากมาย
ผลงานการแสดงภาพยนตร์
[แก้]- มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. (2545)
ชีวิตบั้นปลาย
[แก้]ในช่วงกลาง จนถึงช่วงปลายของชีวิต นักร้องชั้นบรมครู ก้าน แก้วสุพรรณ ยังคงมีความสุขกับการพบปะแฟนเพลงทั้งงานการกุศลและงานรับเชิญ รวมถึงมุ่งมั่นส่งเสริมการอุปสมบท จนได้ขนานนาม ว่าเป็น พ่อครูแห่งโหราศาสตร์แห่งการทำขวัญนาค
ถึงแก่อนิจกรรม
[แก้]ก้าน แก้วสุพรรณ เสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ ด้วยอายุ 74 ปี เมื่อเวลา 06.50 น. วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ที่โรงพยาบาลวัดไร่ขิง เมตตาประชารักษ์ จังหวัดนครปฐม
โดยตั้งสวดพระอภิธรรม และพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) ณ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยมีครอบครัวผู้ใกล้ชิด และเหล่าลูกศิษย์ รวมไปถึงมิตรรักแฟนเพลง ต่างเดินทางมาจากทั้งสารทิศ เพื่อทำความเคารพ และไว้อาลัยอย่างมืดฟ้ามัวดิน