วงศ์ปาดโลกเก่า
วงศ์ปาดโลกเก่า | |
---|---|
ปาดเขียวตีนดำ (Rhacophorus nigropalmatus) เป็นปาดที่พบได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย[1] | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Amphibia |
อันดับ: | Anura |
วงศ์: | Rhacophoridae Hoffman, 1932 |
วงศ์ย่อย | |
วงศ์ปาดโลกเก่า[2] [3] (อังกฤษ: Shrub frog, Flying frog, Tree frog, Old World flying frog[2]) เป็นวงศ์ของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจำพวกกบวงศ์หนึ่ง ใช้ชื่อว่า Rhacophoridae
จัดเป็นปาดวงศ์หนึ่ง มีลักษณะทั่วไป คือ มีกระดูกสันหลังหน้ากระดูกก้นกบ 8 ปล้อง กระดูกสันหลังมีเซนทรัมเป็นแบบอย่างของโพรซีลัสหรือเป็นแบบอย่างของไดพลาสิโอซีลัส กระดูกหัวไหล่เป็นแบบอย่างของเฟอร์มิสเทอร์นัล กระดูกแอสทรากาลัสและกระดูกแคลคาเนียมเชื่อมรวมกันเฉพาะส่วนต้นและส่วนปลาย มีชิ้นกระดูกอ่อนแทรกระหว่างกระดูกนิ้วสองชิ้นสุดท้าย กระดูกนิ้วชิ้นสุดท้ายเรียวยาวหรือเป็นรูปตัวอักษร T ในภาษาอังกฤษ ส่วนปลายของนิ้วขยายออกเป็นตุ่มคล้ายคลึงกับปาดในวงศ์ปาดโลกใหม่ (Hylidae) แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีบางชนิดในวงศ์นี้ที่ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดิน และไม่ได้มีตุ่มที่ปลายนิ้ว ลูกอ๊อดมีโครงสร้างของมีจะงอยปากและมีตุ่มฟัน ช่องเปิดของห้องเหงือกมีช่องเดียวอยู่ทางด้านข้างลำตัวและทางซ้ายของลำตัว
มีความยาวลำตัวประมาณ 2-12 เซนติเมตร ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนต้นไม้ หลายชนิดสามารถร่อนไปมาระหว่างต้นไม้หรือจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำได้ โดยการพยุงตัวให้ลอยอยู่ในอากาศได้จากแผ่นหนังระหว่างนิ้วตีนขนาดใหญ่มากร่วมกับการทำลำตัวให้แบนราบเพื่อให้พื้นที่ต้านอากาศมากขึ้น เช่น ปาดเขียวตีนดำ (Rhacophorus nigropalmatus)
เมื่อผสมพันธุ์ ตัวผู้จะกอดรัดตัวเมียในตำแหน่งหน้าอก แต่ชีววิทยาการสืบพันธุ์แตกต่างหากหลายกันมาก บางชนิดวางไข่ในน้ำ และลูกอ๊อดอาศัยอยู่ในน้ำ แต่ในบางสกุลสร้างก้อนฟองขึ้นมาซึ่งอาจติดอยู่กับน้ำหรือติดไว้กับกิ่งไม้เหนือแหล่งน้ำแล้ววางไข่ไว้ในก้อนฟอง บางสกุลมีการรวมตัวกันหลายตัวแล้วสร้างก้อนฟองขึ้นมาเพียงก้อนเดียว แล้ววางไข่รวมกัน พื้นผิวของก้อนฟองด้านนอกเมื่อถูกอากาศจะแห้งและแข็ง ซึ่งช่วยป้องกันการระเหยของน้ำออกจากภายใน ไข่ที่อยู่ด้านในจะได้รับความชุ่มชื้นตลอดเวลา ลูกอ๊อดที่อยู่ใต้ก้อนฟองจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างตามกาลเวลา หรือทิ้งตัวลงสู่แหล่งน้ำและอาศัยอยู่ในน้ำ ในขณะที่บางชนิดวางไข่ในโพรงของไม้ไผ่และลูกอ๊อดที่อยู่ในนั้นกินไข่ที่ตัวเมียไม่ได้ปฏิสนธิปล่อยมาให้ หลายชนิดวางไข่บนต้นไม้ เอมบริโอเจริญเติบโตและลูกอ๊อดเปลี่ยนรูปร่างเป็นของตัวเต็มวัยภายในไข่
จำแนกออกได้เป็น 3 วงศ์ย่อย มีทั้งสิ้น 21 สกุล และประมาณ 476 ชนิด พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่แอฟริกา, เกาะมาดากัสการ์, ตอนใต้ของอินเดียไปจนถึงหมู่เกาะฟิลิปปินส์, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เกาะฟอร์โมซา และหมู่เกาะญี่ปุ่น[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ศิริพร ทองอารีย์, ธัญญา จั่นอาจ, ยอดชาย ช่วยเงิน และอังสนา มองทรัพย์. ไม่ระบุปีที่พิมพ์. สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในป่า ฮาลา-บาลา.กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช.
- ↑ 2.0 2.1 Emerson, S.B., Travis, J., & Koehl, M.A.R. (1990). "Functional complexes and additivity in performance: A test case with 'flying' frogs." Evolution, 44(8), 2153-2157.
- ↑ 3.0 3.1 วีรยุทธ์ เลาหะจินดา. วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2552. 458 หน้า. หน้า 347-348. ISBN 978-616-556-016-0