ซีเอ็นเอ (เครือข่ายโทรทัศน์)
 | |
| รูปแบบ | ช่องข่าว |
|---|---|
| ประเทศ | สิงคโปร์ |
| พื้นที่แพร่ภาพ | ทั่วโลก |
| สำนักงานใหญ่ | วัน-นอร์ต ประเทศสิงคโปร์ |
| แบบรายการ | |
| ภาษา | ภาษาอังกฤษ |
| ระบบภาพ | 1080i 16:9 HDTV |
| ความเป็นเจ้าของ | |
| เจ้าของ | มีเดียคอร์ |
| ประวัติ | |
| เริ่มออกอากาศ | 1 มีนาคม 1999 |
| ชื่อเดิม | แชนแนลนิวส์เอเชีย (Channel NewsAsia) (1999–2019) |
| ลิงก์ | |
| เว็บแคส | |
| เว็บไซต์ | |
| ออกอากาศ | |
| ภาคพื้นดิน | |
| โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล | UHF CH 33 570MHz DVB-T2 ช่อง 6 (HD) |
| สื่อสตรีมมิง | |
| มีว็อตช์ | ทาง มีว็อตช์ หรือแอปมือถือ (เฉพาะในสิงคโปร์) |
| ยูทูบ | ทาง ยูทูบ |
ซีเอ็นเอ (อังกฤษ: CNA; เขียนในรูป cna; อักษรย่อจากชื่อเดิม แชนแนลนิวส์เอเชีย; Channel NewsAsia) เป็นช่องโทรทัศน์ข่าวระหว่างประเทศสัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งมีมีเดียคอร์ บริษัทเครือด้านสื่อของรัฐ เป็นเจ้าของ ซีเอ็นเอออกอากาศโดยไม่มีค่าเข้าชมในประเทศ และต่างประเทศแบบมีค่าสมัครรับชมใน 29 ประเทศและดินแดนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก[1][2] นอกจากนี้ยังถ่ายทอดสดทางแพลตฟอร์ม มีวอตช์ ของมีเดียคอร์ ในประเทศสิงคโปร์ และทางแพลตฟอร์มแฟสต์อื่น ๆ และทางยูทูบ ทั่วโลก
ซีเอ็นเอวางตัวเป็นทางเลือกสำหรับสื่อนานาชาติแบบตะวันตกที่นำเสนอข่าวจาก "มุมมองแบบเอเชียมุมหนึ่ง"[3][4] ซีเอ็นเอออกอากาศและผลิตสื่อใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่ผลิตข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันในภาษาราชการของสิงคโปร์ภาษาอื่น ๆ คือภาษาจีนกลาง, ภาษามาเลย์ และภาษาทมิฬ ซึ่งออกอากาศทางช่องทางท้องถิ่นของมีเดียคอร์ในภาษานั้น ๆ ในอดีต ช่อง 5 ของซีเอ็นเอ เคยออกอากาศซิมูลคาสต์ (simulcast) จากช่องซีเอ็นเอในระหว่างวัน แต่ยกเลิกไปในวันที่ 1 พฤษภาคม 2019 ซึ่งใช้บล็อกอ็อกโตแทน[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "About Channel NewsAsia". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 June 2018. สืบค้นเมื่อ 4 June 2018.
- ↑ "Channel NewsAsia". Lyngsat. 30 January 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 March 2018. สืบค้นเมื่อ 1 February 2018.
- ↑ "About CNA". CNA.
- ↑ Bromley, Michael; Romano, Angela (12 October 2012). Journalism and Democracy in Asia. Routledge. p. 18. ISBN 978-1-134-25414-9. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2019. สืบค้นเมื่อ 15 May 2018.
- ↑ "Mediacorp integrates English-language channels Channel 5 and okto". Channel NewsAsia. 20 February 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2019. สืบค้นเมื่อ 20 February 2019.