ข้ามไปเนื้อหา

หลิว เต๋อหัว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Andy Lau)
หลิว เต๋อหัว
(刘德华)
Andy Lau
หลิว เต๋อหัว ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฮ่องกง ปี 2005
สารนิเทศภูมิหลัง
ชื่อเกิดหลิว ฝูหรง (刘福荣)
ชื่ออื่นAndy Lau
เกิด (1961-09-27) 27 กันยายน ค.ศ. 1961 (63 ปี)
Tai Po, ฮ่องกงของบริเตน
คู่สมรสจู ลี่เชียน (สมรส 2008)
บุตร1 คน
อาชีพ
  • นักแสดง
  • นักร้อง
  • ผู้ผลิตภาพยนตร์
  • นักแต่งเพลง
  • นักธุรกิจ
ปีที่แสดง1981–ปัจจุบัน
ชื่อภาษาจีน
อักษรจีนตัวเต็ม
อักษรจีนตัวย่อ

หลิว เต๋อหัว (จีนตัวย่อ: 刘德华; จีนตัวเต็ม: 劉德華; พินอิน: Liú Déhuá ; จีนกวางตุ้ง: Lau Dak-waa : เหล่า ตั๊กหว่า; อังกฤษ: Andy Lau; เกิด 27 กันยายน ค.ศ. 1961) เป็นนักแสดง นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชาวฮ่องกง เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์มากที่สุดในฮ่องกงตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1980 โดยแสดงในภาพยนตร์มากกว่า 160 เรื่องในขณะที่ยังคงประสบความสำเร็จในอาชีพการร้องเพลงในเวลาเดียวกัน

เป็นนักแสดงผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นราชาแห่งภาพยนตร์จีน ดารายอดนิยมแห่งเอเชีย ต้นกำเนิดภาพยนตร์แนว Heroic Gangster สัญลักษณ์หนังแนว Badboy & Goodgirl นักแสดงทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลกแนวโศกนาฏกรรม ผู้ทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเกาะฮ่องกง ได้รับยกย่องเป็นนักแสดงหลัก ผู้พัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนให้มีความเป็นสากลสู่ตลาดโลก และเป็นนักร้อง C-pop ระดับราชาเพลงป็อป (King of Canto - pop) อีกทั้งในยุค 80's เป็นนักแสดงละครซีรีส์ค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) ก่อนผันตัวเองมาแสดงภาพยนตร์เต็มตัวในปี 1988 อีกด้วย

ประวัติ

[แก้]

หลิว เต๋อหัว หนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดของวงการภาพยนตร์ ตั้งแต่ยุคปลายทศวรรษที่ 80s จนถึงปัจจุบัน เป็นนักแสดงหลักของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง ผู้สร้างตำนานให้กับวงการภาพยนตร์จีนอย่างมากมายยาวนานกว่า 30 ปี ทรงอิทธิพลถึงขนาดกำหนดทิศทางการสร้างภาพยนตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกงมวลรวมเกินกว่ากึ่งหนึ่ง มีผลงานแสดงนำ มากกว่า 160 เรื่อง เป็นนักแสดงนำ ผู้มียอดรายได้ภาพยนตร์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ในรอบ 20 ปี (1985 - 2005) ของฮ่องกง สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในรอบ 10 ปี (2004 - 2014) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ยุคเริ่มแรกเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ เป็นนักแสดงผู้ทำผลกำไรภาพยนตร์ต่อเรื่องสูงที่สุดในบรรดานักแสดงทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วเอเชียจนได้รับยกย่องว่าเป็น ดารายอดนิยมแห่งเอเชีย (Box Office Star of Asia) เป็นนักแสดงทรงอิทธิพลแห่งโลกภาพยนตร์แนวโศกนาฏกรรม เป็นหนึ่งใน 7 นักแสดงเอเชียผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกภาพยนตร์ตลอดกาล และเขายังเป็นนักร้องที่โด่งดังในยุคต้นทศวรรษที่ 90s คว้ารางวัลเพลงมากกว่า 292 รางวัล เป็นนักร้องจากเอเชียที่ได้รับความนิยมติดอันดับ 1 ใน 25 บิลบอร์ดชาร์ท(Billboard) ของสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในสี่ นักร้องจตุรเทพ[ต้องการอ้างอิง] แห่งวงการเพลงจีนภาษากวางตุ้งในยุคทศวรรษที่ 90s เป็นหนึ่งใน 10 นักร้องชายเพลงจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ของเกาะฮ่องกง และยุคต้นทศวรรษที่ 80s เป็นหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งกลุ่ม ห้าพยัคฆ์แห่งละครซีรีส์ทีวีบี(TVB) หลิว เต๋อหัว ได้รับยกย่องจากวงการภาพยนตร์ทั่วโลกว่า เป็นนักแสดงหลัก(Main Actor) ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีน และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกกรรมการ รางวัลออสการ์ (The Academy of Motion Picture Arts and Sciences) แห่งสหรัฐอเมริกา[ต้องการอ้างอิง]

เขาคนนี้ เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน บิดามีอาชีพเป็นนักดับเพลิง บ้านของเขาเป็นบ้านไม้อยู่ในชุมชนแออัด(slums) ย่าน Diamond Hill เขาช่วยเหลือทางบ้านทำงานตั้งแต่เด็กๆ พออายุ 18 ปี เข้าเรียนโรงเรียนการแสดงค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) เริ่มมีผลงานซีรีส์ทางโทรทัศน์ในปี 1981 มีโอกาสร่วมแสดงกับพระเอกละครซีรีส์ยอดนิยมแห่งยุคอย่างโจว เหวินฟะ ในเรื่อง ยาจกซู ไอ้หนุ่มหมัดเมา (The Legend of Master So ,1982) แสดงนำบทพระเอกซีรีส์เรื่องแรก คือ มือปราบเจ้าอินทรี (The Emissary ,1982) มาพร้อมกับคาแรกเตอร์แนวขับขี่มอเตอร์ไซด์ มีผลงานละครซีรีส์ เรื่อง มังกรหยก ภาค 2 ตอน จอมยุทธอินทรี (The Return of the Condor Heroes ,1983) โด่งดังมากมายทั่วเอเชีย หลิว เต๋อหัวเป็นนักแสดงดาวรุ่งกลุ่ม 5 พยัคฆ์ทีวีบี ประกอบด้วย หวง เย่อหัว , เหมียว เฉียวเหว่ย , ทัง เจิ้นเย่ , หลิว เต๋อหัว , เหลียง เฉาเหว่ย กลุ่มนักแสดงถูกปลุกปั้นให้รับบทพระเอกหรือบทสำคัญของละครซีรีส์ค่ายทีวีบี เขามีผลงานละครซีรีส์หลายเรื่องเช่น ลิขิตฮ่องเต้ , ฮ่องเต้เจ้าสำราญ , ขุนศึกตระกูลหยาง , อุ้ยเสี่ยวป้อ (แสดงคู่กับเหลียง เฉาเหว่ย) เป็นต้น หลิว เต๋อหัวแสดงภาพยนตร์ในบทสมทบครั้งแรกด้วยการสนับสนุนจากโจว เหวินฟะ ในเรื่อง Boat People (1982) หรือ ใส่ความบ้าท้านรก ร่วมแสดงกับหลิน จื่อเสียง (George Lam) นักร้องชื่อดังแห่งยุค 80's ผลงานของผู้กำกับแอนด์ ฮุย เขาได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขาดาวรุ่งยอดเยี่ยม ได้แสดงนำบทพระเอกครั้งแรกในภาพยนตร์ของค่ายชอว์บราเดอร์สสตูดิโอ เรื่อง On the Wrong Track (1983) หรือ บังคับข้าให้บ้าระห่ำ ภาพยนตร์แจ้งเกิดในฐานะนักแสดงนำบทพระเอก คือ ภาพยนตร์เรื่อง The Unwritten Law (1985) หรือ นี่แหล่ะ ดวงใจแม่ ในช่วงนี้เองเขาได้แสดงความจำนงต่อค่ายโทรทัศน์ทีวีบีเจ้าสังกัดขอแสดงภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว แต่ทางค่ายทีวีบีปฏิเสธและไม่สนับสนุนพร้อมลงโทษไม่ป้อนงานแสดงละครเป็นเวลาถึง 2 ปี เขาเจึงหันมาร้องเพลงออกอัลบั้มจากการสนับสนุนของหลิน จื่อเสียง ออกอัลบั้มแรกในปี 1985 แต่ยังไม่โด่งดังทั้งถูกปรามาสว่า ไร้พรสวรรค์ทางดนตรี ภาพยนตร์ที่เป็นจุดเริ่มต้นแนวหนังที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเขา คือภาพยนตร์เรื่อง Sworn Brothers (1987) หรือ โหดห้ามอุทธรณ์ (หรืออีกชื่อ หลิว เต๋อหัว ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย) โดยเขาได้แสดงนำและสร้างภาพยนตร์ร่วมกับเดวิด ลาย(David Lai) ซึ่งต่อมาได้เป็นหุ้นส่วนสำคัญในบริษัทผลิตภาพยนตร์ของเขา และได้รับยกย่องว่าเป็นหนังแก็งสเตอร์แนวใหม่ของโลกภาพยนตร์ (New HardBoiled Style Gangster Movie) หรือที่ชาวไทยในยุคนั้นเรียกว่า หนังแก็งสเตอร์เลือดเดือด[ต้องการอ้างอิง]

ในปี 1988 หลิว เต๋อหัวตัดสินใจออกจากสังกัดค่ายโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) หันมาแสดงภาพยนตร์อย่างเดียว ประสบความสำเร็จสูงมากกับภาพยนตร์แนวดราม่ารันทด เรื่อง The Truth (1988) หรือ เพชรแท้ทุบไม่แตก (หนังภาคต่อของเรื่อง The Unwritten Law ,1985 หรือ นี่แหล่ะ ดวงใจแม่) ภาพยนตร์แนวโรแมนติคคอมาดี้ เรื่อง The Crazy Companies 1,2 (1988) หรือ รวยเถอะปุ๋ย ภาค 1 , บริษัทยุ่งแล้วรวย ภาค 2 ได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในหนังแนวแก๊งสเตอร์ เรื่อง As Tears Go By (1988) หรือ ทะลุกลางอก ผลงานกำกับเรื่องแรกของหว่อง กาไว จากการโปรดิวเซอร์และอำนวยการสร้างโดย เติ้ง กวงหยง (Alan Tang) อันเป็นจุดเริ่มต้นคาแรกเตอร์ตัวละครที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเขา เพียงแค่ชั่วปีเดียว หลิว เต๋อหัวแสดงภาพยนตร์มากถึง 10 เรื่อง ประสบความสำเร็จทางรายได้หลายต่อหลายเรื่องติดๆกันล้วนเป็นภาพยนตร์หลากหลายแนว จึงได้รับฉายาว่า อัศวินแห่งภาพยนตร์ (Knight of Movie) พร้อมกับตำแหน่ง พระเอกยอดนิยม(Box Office Star) ของวงการหนังจีนฮ่องกง ในปี 1989 หลิว เต๋อหัวทำสถิติมีผลงานภาพยนตร์มากถึง 16 เรื่องในปีเดียว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง มีผลงานโด่งดังทั่วเอเชียจากภาพยนตร์แนวจีนอินเตอร์เนื้อหารุนแรงติดเรท 18+ เรื่อง Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก แสดงคู่กับอลัน ทัม นักร้องชื่อดังแห่งทศวรรษ 80's ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไปทั่วเอเชีย ภาพยนตร์แนววีรบุรุษนักพนันเรื่อง God of Gamblers (1989) หรือ คนตัดคน แสดงคู่กับโจว เหวินฟะ ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย หลิว เต๋อหัวจึงเป็นพระเอกหนังที่ได้รับความนิยมระดับเอเชียและนานาชาติ เป็นต้นมา[ต้องการอ้างอิง]

อย่างไรก็ตาม หลิว เต๋อหัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและได้รับยกย่องจากวงการภาพยนตร์โลกว่า เป็นปฐมบท หรือต้นกำเนิดภาพยนตร์แนว แก๊งสเตอร์ ฮีโร่ หรือ Heroic Gangster สัญลักษณ์แห่งหนังแนวนี้ ได้แก่ A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ อันโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วเอเชียและทุกสารทิศ ซึ่งหลิว เต๋อหัว ถูกยกย่องว่า เป็นผู้สร้างคาแรกเตอร์ หรือบุคลิกตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวหนังแนว Heroic Gangster แต่เพียงผู้เดียว และเป็นเครื่องหมายการค้า(Trademark) ของเขาบนตลาดโลก ภาพลักษณ์ประจำตัวเขาประเทศไทยมักเรียกว่า "จิ๊กโก๋มาเฟีย" หรือ "นักเลงกระจอก" (หว๋าไจ๋ : Wah Zai : 華仔) ตายเกือบทุกเรื่อง โดยเขาเป็นผู้พัฒนาตัวละครแนวนี้จากบท "อาหว่า" จากภาพยนตร์เรื่อง As Tears Go By (1988) หรือ ทะลุกลางอก "อาเซี้ย" จากภาพยนตร์เรื่อง Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก "อาเต๋า" จากภาพยนตร์เรื่อง God of Gamblers (1989) หรือ คนตัดคน จนมาถึงบท "อาหว๋อ" ในภาพยนตร์เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาพยนตร์แนวนี้ของเขามีมากมาย เช่น The First Time Is the Last Time (1989) หรือ ถ้าใครย่ำคุณ ผมจะย่ำมัน Dragon in Jail (1990) หรือ จำไว้เมียข้าเจ็บไม่ได้ Hong Kong Godfather (1991) หรือ ทำเนียบเจ้าพ่อเหือด The Prince of Temple Street (1992) หรือ ชีวิตเธอ ชีวิตข้า ชีวิตเดียว เป็นต้น ภาพยนตร์แนวนี้ของเขาเนื้อหาเต็มไปด้วยความรุนแรง ตีรันฟันแทง กระทำผิดกฎหมาย ล่อแหลมทางเพศ มักได้เรท PG 18+ (NC-17 ในสหรัฐอเมริกา)จำกัดเรทคนดู แต่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลทั่วทั้งเอเชีย แพร่หลายในตลาดหนังยุโรปและสหรัฐอเมริกา จนทางการรัฐบาลประเทศต่างๆท้วงติงว่า หนังจะส่งผลต่อการสร้างค่านิยมที่ไม่ดี มีพฤติกรรมเลียนแบบหนังอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา ทางการฮ่องกงจึงสั่งห้ามสร้างและห้ามฉายภาพยนตร์แนวนี้อีก เป็นเหตุให้หลิว เต๋อหัว เปลี่ยนแนวหนังแก๊งสเตอร์ของเขา เป็นแนวแก๊งสเตอร์-อาชญากรรม(Crime) แทน เช่น A True Mob Story (1998) หรือ ให้รักนี้ตายไปกับเขา Century of the Dragon (1999) หรือ ทะลุเหลี่ยมมังกร เป็นต้น และเขาได้สร้างอัตลักษณ์เครื่องแต่งกายในภาพยนตร์ของตัวเองด้วย เสื้อยืดกล้ามสีขาวหรือดำ เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์หรือหนัง แว่นตาดำ สวมสร้อยคอล็อกเก็ต ฉากถีบยอดอก ใช้มีดเป็นอาวุธและสูบบุหรี่ ในภาพยนตร์แนวนี้ของเขาทุกเรื่อง[ต้องการอ้างอิง]

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ หรือ A Moment of Romance (1990) สัญลักษณ์แห่งหนังแนว Heroic Gangster ของหลิว เต๋อหัว หนังสุดคลาสสิคแห่งประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีนฮ่องกง (A major classic of Hong Kong cinema) เป็นภาพยนตร์ที่หลิว เต๋อหัว ได้สร้างคาแรกเตอร์ตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุดลงบนแผ่นฟิล์ม (The Character Portrays in The film) ในบทบาทของ "อาหว๋อ" หนังทุนต่ำ ดราม่าแอ็คชั่นรักโรแมนติก แสดงคู่กับ อู๋ เชี่ยนเหลียน นางเอกหน้าใหม่ของวงการ(แสดงหนังเป็นเรื่องแรก) ในบทบาทของ "โจโจ้ " เรื่องราวความรักของชายหนุ่มผู้มีโลกอันมืดมน(Underworld rag) กับ หญิงสาวผู้ถูกเลี้ยงดูอย่างคุณหนูผู้มีอันจะกิน(A rich heiress) ความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ "อาหว๋อ & โจโจ้ " กลายเป็นตำนานความรักที่สุดแสนโรแมนติกและรันทดใจที่สุดแห่งยุคนั้น ภาพยนตร์ได้สร้างปรากฏการณ์กระแสปากต่อปาก(Word of Mouth) เป็นเรื่องแรกของวงการหนังฮ่องกงและวงการภาพยนตร์เอเชีย จากหนังทุนต่ำ ฟอร์มเล็ก ธรรมดาเรื่องหนึ่งกลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายมหาศาลถล่มทลายเหนือกว่าหนังฟอร์มยักษ์ ทุนสูง หรือหนังระดับ Blockbuster ทั่วเอเชียในยุคนั้น ในเกาะฮ่องกงออกฉายเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1990 และยืนโรงฉายยาวนานถึง 6 สัปดาห์ (14 มิถุนายน 1990 ถึง 26 กรกฎาคม 1990) เกิดกระแสปากต่อปากไปทั่วเกาะฮ่องกง จากหนังธรรมดาเรื่องหนึ่งกลายเป็นหนังที่เปลี่ยนแนวทางการสร้างภาพยนตร์ในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง จากประเภทยิงปืน ระเบิดภูเขา เผากระท่อม หันมาใช้อาวุธประเภทมีด หน้าไม้ ศิลปะป้องกันตัวแทน มีการสร้างตามกระแสจำนวนมากเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง บุคลิกของหลิว เต๋อหัว ยังเป็นต้นแบบตัวละคร (Lau 's Characters) ในหนังจีนฮ่องกงและโลกภาพยนตร์ ทั้งยังเป็นไอดอลหรือขวัญใจที่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตวัยรุ่นทั่วเอเชียยาวนานถึงทุกวันนี้ และเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มสาวทั่วเอเชียใฝ่ฝันที่จะขี่มอเตอร์ไซด์ได้สง่างามเหมือนเขา แฟนๆภาพยนตร์จะเรียกหลิว เต๋อหัว ว่า "หว๋าไจ๋" (Wah Zai : 華仔 แปลว่า นักเลง) เป็นชื่อเล่นของเขา หลิว เต๋อหัวยังถูกยกย่องให้เป็น ไอคอนหรือสัญลักษณ์ภาพยนตร์แนว Badboy & Goodgirl ทั้งเป็นต้นแบบให้หนังจีนฮ่องกงและโลกภาพยนตร์มีเรื่องราวความรักโรแมนติกระหว่างคู่พระนางลงในเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ (หรือที่ประเทศไทยมักใช้คำสื่อสารให้เข้าใจว่า เรื่องราวความ "รักระหว่างรบ") ตัวละคร "อาหว๋อ" ยังนำมาเป็นต้นแบบเขียนเป็นหนังสือการ์ตูนจีนเรื่อง Teddy Boy (古惑仔) ซึ่งต่อมาได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 1996 ในชื่อเรื่อง Young and Dangerous หรือชื่อไทย กู๋หว่าไจ๋ บทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้รับความนิยมมากมาย มีทั้งหมด 4 บทเพลง ขับร้องโดย Wong Ka Kui นักร้องนำวง Beyond ทั้งหมด 3 บทเพลง และบทเพลงที่ 4 เพลงผู้หญิงร้อง 天若有情.青春无悔 ขับร้องโดย Shirley Yuen (袁鳳瑛) ได้รับความนิยมล้นหลาม มีการแปลงเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยในบทเพลง "อยู่ไปเพื่อใคร" ล่าสุดนำมาแปลงเป็นเพลงสากล ในบทเพลง "Tomorrow Will Come" (Trish Thuy Trang) และตัวละคร "อาหว๋อ" ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่งในผลงานแสดงนำของเขา ในเรื่อง Needing You (2000) หรือ ใช่เลย! รักเธอเต็มเอ๋อ

ในวงการภาพยนตร์ หลิว เต๋อหัว เป็นหนึ่งใน ราชาภาพยนตร์ เคยได้รับรางวัลเกียรติยศม้าทองคำ (Taiwan Golden Horse Award) ยกย่องว่าเป็น ราชาแห่งภาพยนตร์จีน (King of Chinese Movie) เขาได้รับรางวัลนักแสดงยอดนิยมสูงสุด (No.1 Boxoffice Actor award) ของวงการหนังจีนฮ่องกงและวงการภาพยนตร์เอเชียในรอบ 20 ปี สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งเกาะฮ่องกงได้จัดเก็บสถิติรายได้ภาพยนตร์ในช่วงรุ่งเรือง ตั้งแต่ปี 1985 - 1997 ก่อนประเทศอังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ หลิว เต๋อหัวเป็นนักแสดงที่มียอดรายได้ภาพยนตร์(Box Office) สูงกว่า 1,200 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) จากภาพยนตร์ที่เขาแสดงนำ(Leader Actor)ในภาพยนตร์ทุนจีนฮ่องกง จำนวน 73 เรื่อง สูงสุดเป็นอันดับ 1 แห่งยุคนั้น ต่อมาในปี 2005 มีการประมวลยอดรายได้ภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1985 - 2005 (รอบ 20 ปี) ก่อนที่เกาะฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่โดยสมบูรณ์(หนึ่งประเทศ สองระบบ) หลิว เต๋อหัวเป็นนักแสดงที่มียอดรายได้ภาพยนตร์(Box Office) สูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 1,733,275,816 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) จากภาพยนตร์ที่เขาแสดงนำ(Leader Actor) ในภาพยนตร์ทุนจีนฮ่องกง จำนวน 108 เรื่อง อันดับ 2 ได้แก่ โจว ซิงฉือ (Stephen Chow) ราชาตลกคอมมาดี้ จำนวน 1,317,452,311 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) อันดับ 3 คือ เฉินหลง (Jackie Chan) ราชานักบู้ชื่อก้องโลก จำนวน 894,090,962 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) และในปี 2007 กลุ่มบริษัท Nielsen Company (ACNielsen) แห่งสหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์และจัดเก็บข้อมูลการตลาดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลก หลิว เต๋อหัวเป็นนักแสดงที่ทำผลกำไรภาพยนตร์ต่อเรื่องสูงที่สุดในบรรดานักแสดงทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วเอเชีย หนังของเขาส่วนใหญ่เป็นหนังทุนต่ำ(Low Budget Films) แต่ทำรายได้มากกว่าทุนสร้างหลายเท่าตัว และเนื้อหาของภาพยนตร์มีความรุนแรงติดเรท R หรือเรท 18+ แต่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล ขายลิขสิทธิ์ไปได้ทั่วโลก จึงได้รับรางวัล ดารายอดนิยมแห่งเอเชีย หรือ Box Office Star of Asia Award[ต้องการอ้างอิง]

หลิว เต๋อหัว เขายังทรงอิทธิพลถึงขนาดกำหนดทิศทางการสร้างภาพยนตร์เกินกว่ากึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกงมวลรวม โดยเขานำแสดงภาพยนตร์หลากหลายแนวและได้รับความนิยมในตลาดภาพยนตร์อย่างสูงในวงกว้างระดับนานาชาติทุกแนว จนเป็นต้นแบบให้เหล่าผู้สร้างภาพยนตร์สร้างตามกระแสตามมา นอกจากภาพยนตร์แนว Heroic Gangster หรือที่ประเทศไทยนิยมเรียกว่าหนังแนว "นักรักนักเลง"แล้ว เขายังประสบความสำเร็จในหนังแนวโรแมนติก-คอมอดี้ นับตั้งแต่ The Crazy Companies (1988) หรือชื่อไทย รวยเถอะปุ๋ย หรือบริษัทยุ่งแล้วรวย ตามมาด้วย Dances with Dragon (1991) หรือ มังกรขันจอหว่อ จนเข้ายุคปี 2000 อย่างเรื่อง Needing You (2000) หรือ ใช่เลย! รักเธอเต็มเอ๋อ Love on a Diet (2001) หรือ คู่ตุ้ยนุ้ยพิศดารมหัศจรรย์ , หนังแนวแอ็คชั่น - ดราม่า นับตั้งแต่ Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก Casino Tycoon (1992) หรือ ฟ้านี้ใหญ่ได้คนเดียว The Adventurers (1995) หรือ แค้นทั้งโลกเพราะเธอคนเดียว จนมาถึง The Conman (1998) หรือ เจาะเหลี่ยมคน , หนังแนวอาชญากรรม นับตั้งแต่ LeeRock (1991) หรือ ตำรวจตัดตำรวจ จนมาถึง Infernal Affairs (2002) หรือ สองคนสองคม ภาพยนตร์ในผลงานสร้างและแสดงนำของเขาในเรื่อง Saviour of the Soul (1991) หรือ ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ ที่ได้สร้างปรากฏการณ์หลายๆอย่างและเป็นต้นแบบภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนขึ้นสู่จอภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่อง Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ ที่ได้กลายเป็นต้นแบบหนังแข่งรถมอเตอร์ไซด์ให้แก่โลกภาพยนตร์ นอกจากนี้เขายังได้แสดงภาพยนตร์ทุนจีนไต้หวัน ใช้ภาษาจีนกลางหลายเรื่อง เช่น A Home Too Far (1990) หรือ ท้าย่ำ Drunken Master 3 (1994) หรือ ไอ้หนุ่มหมัดเมา ภาค 3 A Taste of Killing and Romance (1994) หรือ ชาตินี้ชาติหน้าหัวใจข้าเป็นของเธอ The Three Swordsmen (1994) หรือ เทพยุทธเสื้อทอง แกร่งแค่ไหนหัวใจก็จะผ่า เป็นต้น เขายังอำนวยการสร้างและเป็นดารารับเชิญให้หนังทุนจีนไต้หวันเรื่อง Our Times ,2015 หรือชื่อไทย กาลครั้งหนึ่ง..ความรัก ที่เขาใช้ทุนสร้างเพียง 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) แต่ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 84 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) อีกด้วย[ต้องการอ้างอิง]

หลิว เต๋อหัว ยังได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งใน นักแสดงทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก เป็นผู้นำ[ต้องการอ้างอิง]ภาพยนตร์แนวโศกนาฏกรรม (Tragedy Movie) ที่บทพระเอก นางเอก บทสมทบสำคัญต้องพบเหตุโศกเศร้าสะเทือนใจ และมีสไตล์หนังเป็นของตัวเอง คือ Mixed Drama / Action / Romance หรือ หนังดราม่า แอคชั่น โรมานซ์ ผสมผสาน(mixed) อยู่ในเรื่องเดียวกัน เขายังได้สร้างอัตลักษณ์ฉากตายของตัวเองด้วยท่าตายชักกระตุก (Andy Lau dies in style) และฉากปืนจ่อหัวบังคับตัวละครในภาพยนตร์กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ในโลกภาพยนตร์มีหลิว เต๋อหัว คนเดียวเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับภาพยนตร์แนวโศกนาฏกรรม (Tragedy Movie) เช่น Casino Raider 1 (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ Casino Raider 2 (1991) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก Saviour of the Soul (1991) หรือ ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ The Moon Warriors (1993) หรือ คนบินเทวดา ที่กลายเป็นต้นแบบภาพยนตร์ที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นคู่หูตัวเอก Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ เป็นต้น ปัจจุบัน หลิว เต๋อหัว มีผลงานการแสดงมากกว่า 160 เรื่อง ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลมาโดยตลอด เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จนวงการหนังฮอลลีวูดเปรียบเปรยว่า หลิว เต๋อหัว คือ ทอม ครูซ (Tom Cruise) แห่งเอเชีย เป็นหนึ่งใน 7 นักแสดงเอเชียยอดนิยมและยิ่งใหญ่ตลอดกาล(The Most Popular Actors of All Time & Greatest Actors of All Time) ร่วมกับ บรูซ ลี, เฉินหลง , โจว เหวินฟะ, โจว ซิงฉือ, หลี่ เหลียนเจี๋ย และ เจิ้น จื่อตัน และเขาได้รับยกย่องว่า เป็นนักแสดงที่ขี่มอเตอร์ไซด์โด่งดังที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง] และเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ให้โลกภาพยนตร์นำมอเตอร์ไซด์มาเป็นส่วนสำคัญหรือแกนสำคัญของเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ และคาแรกเตอร์หรือตัวละครของเขาที่มีอัตลักษณ์ อันมีลักษณะเฉพาะขัดแย้งทางศิลธรรมหรือที่นิยมเรียกว่า แบดบอย (Badboy) ได้รับความนิยมไปทั่วโลก[ต้องการอ้างอิง]

ในปี 1991 หลิว เต๋อหัวเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์ของตัวเองในนาม Team Work Motion Pictures ผลงานผลิต โปรดิวเซอร์ อำนวยการสร้างเรื่องแรก ได้แก่ Saviour of the Soul (1991) หรือ Lanar Romance หรือชื่อไทย ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ (เราเลยไม่ยอมตาย) ที่กลายมาเป็นต้นแบบและได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องแรกของโลก เขายังได้ผลิตและพัฒนาภาพยนตร์ต้นแบบแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมสไตล์จีนฮ่องกง อย่างเรื่อง The Sting (1992) หรือ ลูบคมขบวนโหด ภาพยนตร์ต้นแบบหนังรักดราม่าสไตล์จีนฮ่องกง อย่างเรื่อง Days of Tomorrow (1993) หรือ ครั้งนี้ครั้งโน้น ใจกระโจนไปหา ภาพยนตร์ต้นแบบหนังโรแมนติกคอมอดี้สไตล์จีนฮ่องกง อย่างเรื่อง Thanks for Your Love (1996) หรือ ถนนนี้ หยุดหัวใจรักข้าไม่ได้ และมักมีกวน จือหลิน มาเป็นนางเอกภาพยนตร์ต้นแบบของเขาเสมอ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำ-แสดงหนังดัดแปลงจากวีดีโอเกม อย่างเรื่อง บันล็อก ผู้ชายทะลุเวลา (Future Cops ,1993) หนังตลกสัปดลเรท 18+ อย่างเรื่อง สองใหญ่แย่งใหญ่ (The Sting 2 : Perfect Exchange ,1993) หนังแนวเต้นรำ อย่างเรื่อง Dance of a Dream (2001) หรือ แผนตุ๋นชุลมุนรัก เป็นต้น เขายังคิดค้นตัวละครของตัวเองอีกครั้งในรูปแบบมิติตัวละครที่มีแรงขับภายในใจออกสู่การกระทำ ในภาพยนตร์ต้นแบบเรื่อง What a Wonderful World (1996) หรือชื่อไทย ยึดหัวใจโลกอย่าห้าม ต่อมาเขาเปลื่ยนชื่อบริษัทเป็น Focus Group มีบริษัทลูกในเครือหลายบริษัท เช่น โฟกัส ฟิล์ม (อำนวยการสร้าง - จำหน่าย) , Infinitus เอนเตอร์เทนเมนท์ (ผลิตภาพยนตร์) , โฟกัส มิวสิค , โฟกัส เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นต้น หลิว เต๋อหัว ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะโปรดิวเซอร์ , อำนวยการสร้าง , ควบคุมการผลิต , อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์จีนที่โด่งดังระดับโลกหลายเรื่อง เช่น Infernal Affairs 1,2,3 หรือชื่อไทย 2 คน 2 คน ทั้งสามภาค , House of Flying Daggers (2004) หรือ จอมใจบ้านมีดบิน ที่เขานำโศกนาฏกรรมความรัก ฉากต่อสู้ในป่าไผ่และฉากยิงธนูสามดอกจากเรื่อง The Moon Warriors (1993) หรือ คนบินเทวดา มาใช้ในเรื่องนี้ ผลงานเรื่องอื่นๆเช่น Cold War 1,2 หรือ 2 คม ล่าถล่มเมือง ทั้งสองภาค เป็นต้น ผลงานสร้างเรื่อง Fulltime Killer (2001) หรือ กระสุนนี้เพื่อฆ่า หัวใจข้าเพื่อเธอ ได้พัฒนาต่อเป็นเกมส์ออนไลน์ในชื่อเดียวกัน ในปี 2006 เขาได้รับรางวัล Asian Filmmaker of the year ในฐานะคนทำหนังยอดเยี่ยมแห่งปี จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ทั้งยกย่องว่าเขาคือ หนึ่งในต้นแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศเกาหลีใต้และเอเชีย นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ภายใต้อำนวยการสร้างของเขาหลายคน เช่น เจิ้ง จี่หล่ำ (Lam Chi-chung) นักแสดงสมทบในเรื่อง นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ (Shaolin Soccer ,2001) บทชายร่างอ้วนพริ้วไหวดั่งสายน้ำ และคนเล็กหมัดเทวดา (Kung Fu Hustle ,2004) ในบทคู่หูโจวซิงฉือ ให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง I'll Call You (2006) ใกล้นัก..รักเลย , หนิง เฮา (Ning Hao) ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Crazy Stone (2006) ปฏิบัติการปล้น ก้นคะมำ จนกลายเป็นภาพยนตร์ซีรีส์รวมชุดมีภาคต่อตามมา คือ Crazy Racer (2009) และ Crazy Alien (2019) ที่ภาคล่าสุดทำเงินในจีนแผ่นดินใหญ่สูงถึง 328 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เขายังผลักดันสนับสนุนนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ให้มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์หลายคน เช่น หวัง เป่าเฉียง (Wang Baoqiang) ที่แจ้งเกิดจากบทสมทบในภาพยนตร์ที่แสดงร่วมกับเขา เรื่อง จอมคนหัวใจไม่ลวงรัก (A world without thieves ,2004) ต่อมามีผลงานโดดเด่นในภาพยนตร์จีนชุดเรื่อง แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์ (Lost in Thailand ,2012) และภาพยนตร์จีนชุด แก็งม่วนป่วนเยาวราช (Detective Chinatown ,2016) , เติ้ง เชา (Deng Chao) ที่แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์จากเรื่อง ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ ในบทนักสืบคนเผือก เป่ย ตงไหล และได้เป็นพระเอกต่อในภาพยนตร์ของโจว ซิงฉือ หลายเรื่องเช่น เงือกสาวปังปัง (The Mermaid ,2016) เป็นต้น

หลิว เต๋อหัว เริ่มประสบความสำเร็จด้านงานเพลงอัลบั้มที่หก 可不可以-誰說不可以 ในปี 1990 หลังจากที่เขาพยายามเป็นนักร้องออกอัลบั้มแรกตั้งแต่ปี 1985 คว้ารางวัล Jade Solid Gold Music Awards นักร้องชายยอดนิยม(Most Popular Hong Kong Male Artist) ประจำปี 1990 มาครองได้สำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นนักร้องแถวหน้า(pop star) ของวงการเพลงป็อปฮ่องกงเป็นต้นมา ในปี 1991 เขามีบริษัทเพลงในนาม New Melody Records (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โฟกัส มิวสิค) ไว้ดูแลงานเพลงของเขาเอง ในปี 1992 หลิว เต๋อหัว , จาง เสฺวโหย่ว , หลี่หมิง , กัว ฟู่เฉิง เป็นนักร้อง C- pop ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับราชาเพลงป็อป (King of Canto - pop) จึงถูกยกย่องให้เป็น นักร้องจตุรเทพ แห่งวงการเพลงจีนภาษากวางตุ้ง ของเกาะฮ่องกง(The Four Heavenly Kings of Cantopop) หรือวงการเพลงโลก เรียกขานในนาม สี่ราชาแห่งวงการเพลงป็อปฮ่องกง (Four Kings of Hong Kong pop-music industry) ในปี 1995 หลิว เต๋อหัว ทำสถิติเป็นนักร้องเอเชียได้รับความนิยมสูงสุด 1 ใน 25 อันดับบิลบอร์ดชาร์ท(Billboard) ของสหรัฐอเมริกา ในปี 1997 หลิว เต๋อหัว ได้ร่วมงานดนตรีกับนักเป่าแซ็กโซโฟนชื่อดังของโลก เคนนี่ จี (Kenny G) ในปี 1999 หลิว เต๋อหัว เป็นนักร้องร่วมเวทีคอนเสิร์ตราชาเพลงป๊อปโลก ไมเคิล แจ๊กสัน (Michael Joseph Jackson) ในทัวร์คอนเสิร์ต MJ & Friends ในปี 2000 หนังสือกินเนสบุ๊คเรคคอร์ด รายงานสถิติว่า หลิว เต๋อหัวเป็นนักร้องที่คว้ารางวัลผลงานเพลงภาษาจีนมากถึง 292 รางวัล มากที่สุดในโลก หลิว เต๋อหัว ยังคว้ารางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งเกาะฮ่องกง(Most Popular Hong Kong Male Artist) ถึง 7 สมัย รางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค(Asia Pacific Most Popular Male Artist) ถึง 15 สมัย เป็นหนึ่งใน 10 นักร้องชายเพลงจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบสามทศวรรษ(ทศวรรษ ที่ 70s 80s และ 90s) ของเกาะฮ่องกง (Top 10 Greatest Cantopop Singers) ร่วมกับ แซม ฮุย (Samuel Hui) , หลอ เหวิน (Roman Tam) , อลัน ทัม (Alan Tam) , เลสลี่ จาง (Leslie Cheung) , จาง เสฺวโหย่ว (Jacky Cheung) , หลี่หมิง (Leon Lai) , กัว ฟู่เฉิง (Aaron Kwok) , เฉิน อี้ซวิ่น (Eason Chan) และ หว่อง กาคุย (Wong Ka Kui) นักร้องนำวง Beyond ปัจจุบัน ฐานะนักร้องของหลิว เต๋อหัว ยังได้รับความนิยมอย่างสูงขับร้องทั้งเพลงจีนภาษากวางตุ้ง (canto-pop) และเพลงภาษาจีนกลาง (mando-pop) มีบริษัทเพลงของตัวเองอย่าง โฟกัส มิวสิค , โฟกัส เอนเตอร์เทนเมนท์ (ออแกไนซ์ จัดงานแสดง แสง สี เสียง) เป็นผู้ดูแลงานเพลงของเขา บทเพลง 起走過的日子 (Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji) ภาษาจีนกวางตุ้ง เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Casino Raider 2 (1991) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก เป็นบทเพลงอมตะที่เขาร้องเป็นเพลงประจำตัวของเขา แล้วเขาก็นำเอาทำนองเพลงนี้มาใส่เนื้อร้องภาษาจีนกลาง หรือแมนดาริน ในบทเพลง 来生缘 (Lai Sheng Yuan - ไหล เซิงหยวน) นำมาร้องเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Saviour of the Soul (1991) หรือ ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ (เราเลยไม่ยอมตาย) ต่อมาดัดแปลงเป็นเพลงสากลในบทเพลง "Caravan Of Life" (Tokyo Square) บทเพลง 谢谢你的爱 (Thank You for Your Love) ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเทียบเท่าเพลงสากล อัลบัม Forget Love Potion ( 忘情水 , 1994) ทำสถิติยอดขายไปทั่วโลก ฐานะนักร้องของหลิว เต๋อหัว เริ่มเป็นที่รู้จักของชาวตะวันตกจากการนำเพลง "I Hate Myself for Loving You" (我恨我痴心) ของนักร้องเพลงสากล Joan Jett มาร้องในรูปแบบของเพลงจีน เขายังได้รับรางวัลจากเอ็มทีวี แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำปี 1994 ได้แก่รางวัล MTV Lifetime Achievement Award รับมอบในปี 1995 และรางวัลประจำปี 1995 ได้แก่รางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย MTV Asian All-Outstandionging Artist Award รับมอบในปี 1996 อีกด้วย

หลิว เต๋อหัว เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ทั้งในฐานะนักแสดง , นักร้อง , เจ้าของบริษัทบันเทิง จึงได้รับยกย่องจากสมาพันธ์อุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเกาะฮ่องกง(วงการภาพยนตร์ , วงการเพลง , วงการละครซีรีส์) ให้เป็นหนึ่งในสี่ "ผู้ทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเกาะฮ่องกง" ยุคเกาะฮ่องกงกลับคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่(1997 - 2005) ร่วมกับ หวังจิง ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง เจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์ , เชอร์ รัน รัน ชอว์ เจ้าของค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) - ชอว์บราเดอร์สตูดิโอ และเจ้าของกลุ่มบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ Emperor Entertainment Group (EEG) เขาได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ประมาณว่า "จะพัฒนาภาพยนตร์จีน จะแสดงแต่ภาพยนตร์จีน จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างภาพยนตร์จีน ให้ยิ่งใหญ่ตลอดไป" ซึ่งในปี 1996 ขณะไปรับรางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย MTV Asian All - Outstandionging Artist Award จากเอ็มทีวี แห่งสหรัฐอเมริกา เขาให้สัมภาษณ์แก่สื่อตะวันตกประมาณว่า "เขาไม่มีความสนใจร่วมงานแสดงภาพยนตร์ในฮอลลีวูด เขามีความตั้งใจจะแสดงภาพยนตร์และสร้างภาพยนตร์เอเชียและจีนมากกว่า เพราะมีแต่คนเอเชียหรือคนจีนเท่านั้นที่จะสร้างภาพยนตร์แล้วยังคงอัตลักษณ์และมีสไตล์หนังเอเชียหรือจีนดั้งเดิม เป็นที่ชื่นชอบแก่แฟนหนังทั่วโลกมากกว่าสร้างจากฮอลลีวูด"[ต้องการอ้างอิง]

ในปี 2004 - 2014 เป็นยุคเริ่มแรกเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ในจีนแผ่นดินใหญ่ หลิว เต๋อหัวมีผลงานแสดงนำและร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์สัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่หลายเรื่อง เช่น จอมคนหัวใจไม่ลวงรัก (A world without thieves ,2004) , จอมใจบ้านมีดบิน (House of Flying Daggers ,2004) เขายังเป็นผู้นำในการแสดงและสร้างภาพยนตร์จีนบล็อกบัสเตอร์เพื่ออกฉายทั่วโลก เช่น มหาบุรุษกู้แผ่นดิน (A Battle Of Wits ,2006) สามก๊กขุนศึกเลือดมังกร (Three Kingdoms: Resurrection of the Dragon ,2008) ปิดเมืองล่าโจร (Firestorm ,2013) เป็นต้น เขายังเป็นผู้ปลุกกระแสภาพยนตร์แอ็คชั่น-กำลังภายใน-แฟนตาซี ให้ได้รับความนิยมในจีนแผ่นใหญ่และทั่วโลกอีกครั้ง ในเรื่อง ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ (Detective Dee, and the Mystery of the Phantom Flame ,2010) ทั้งพลักดันให้ผู้กำกับคนดังฉีเคอะ กลับมายิ่งใหญ่ในโลกภาพยนตร์อีกรอบ และเขาก็เป็นนักแสดงนำ(Leader Actor) ผู้มียอดรายได้ภาพยนตร์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง (No.1 Boxoffice Actor) ในจีนแผ่นดินใหญ่ในรอบ 10 ปี (2004 - 2014) ภาพยนตร์ประเภทขายนักแสดงนำ(Film Star) มีภาพยนตร์เข้าฉายในช่วงนี้นับเฉพาะสถานะนักแสดงนำ 15 เรื่อง มียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เขายังร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ทุนสร้างจีนแผ่นดินใหญ่แต่ใช้ภาษาอังกฤษเรื่องแรกของโลกเพื่อสร้างความเป็นสากล อย่างเรื่อง เดอะ เกรท วอลล์ (The Great Wall ,2016) ปัจจุบัน สถานะนักแสดงนำ(Leader Actor) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล มีภาพยนตร์ออกฉายอย่างต่อเนื่อง นับจากปี 2015 เป็นต้นมา หลิว เต๋อหัวมียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ(USD) มีภาพยนตร์ทำเงินมหาศาลหลายเรื่อง เช่น The White Storm 2 - Drug Lords (2019) ผลงานสร้างและนำแสดงของเขาทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ทำรายได้มากกว่า 190 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ภาพยนตร์เรื่อง Shock Wave 2 (2020) ทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ทำรายได้มากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) หนังทุนต่ำอย่างเรื่อง Endgame (2021) ทำรายได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ซึ่งได้สร้างสถิติรายได้มากกว่าทุนสร้างหลายเท่าตัวมาโดยตลอด จนเป็นที่คาดการณ์ว่า แม้จะเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ในจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ หลิว เต๋อหัวยังคงสถานะนักแสดงนำเป็นอันดับหนึ่งต่อไป[ต้องการอ้างอิง]

ในประเทศไทย หลิว เต๋อหัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากภาพยนตร์ เรื่อง A Moment of Romance (1990)[ต้องการอ้างอิง] หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ออกฉายในปี พ.ศ. 2533 ถึงสองรอบ รอบแรกฉายวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2533 ทำรายได้กว่า 18 ล้านบาท มีกระแสเรียกร้องให้นำกลับมาฉายใหม่ รอบ 2 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ทำเงินกว่า 5 ล้านบาท รวมรายได้ตลอดการฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 23 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2533 ของประเทศไทย (ไม่นับรวมหนังกลางแปลงที่ออกฉายต่อเนื่องยาวนานหลายปี) และในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ได้นำกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง ต่อมามีภาพยนตร์เรื่อง Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ ออกฉายปี พ.ศ. 2538 ทำเงินไปกว่า 40 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดของเขาในไทยเป็นสถิติถึงทุกวันนี้ ภาพยนตร์เรื่องที่ 100 ของเขา เรื่อง A Fighter's Blue (2000) หรือ หัวใจข้า หัวใจนาง หัวใจหลอมเพชร ถ่ายทำในประเทศไทย ในวันที่ 17 มกราคม 2560 หลิว เต๋อหัว ได้เกิดอุบัติเหตุตกม้าได้รับบาดเจ็บที่กระดูกเชิงกราน ระหว่างถ่ายทำโฆษณาที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันรักษาตัวหายดีเป็นปกติ กลับมาทำงานบันเทิงในปลายปี 2561 เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ได้นำภาพยนตร์เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งฉลองครบรอบ 30 ปี

ชีวิตส่วนตัวและครอบครัว

[แก้]

หลิว เต๋อหัว เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธในช่วงปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) [1] เป็นลูกศิษย์ของวัดภูเขาหลิงอัน ในเกาะไต้หวัน[2]

ในปี 2008 หลิว เต๋อหัว แต่งงานกับ แครอล ชู Carol Chu หรือ จู หลี่เชียน (朱麗倩) ภรรยาสาวนอกวงการ  หลังจากคบหากันเป็นเวลากว่า 24 ปี  ทั้งคู่เป็นครอบครัวมังสวิรัติและนับถือศาสนาพุทธ  หลิวเต๋อหัวและภรรยาจดทะเบียนสมรสที่สหรัฐอเมริกา ในปี 2551 แครอล ชู ได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก ชื่อ ฮันนา (หลิว เซียง ฮุ้ย) ในปีมังกรทอง พ.ศ. 2555 เป็นปีที่มีความเป็นสิริมงคลที่สุดของชาวจีน เด็กที่เกิดปีมังกรจะนำความโชคดีมาสู่ครอบครัว อีกทั้งเด็กจะมีความกล้าหาญและสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด เพราะมังกรเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิจีนโบราณ

หลิว เต๋อหัว ไม่เปิดเผยข้อมูลของภรรยาและลูกให้สื่อมวลชนรับรู้  เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว โดยสื่อมวลชนเพิ่งได้ทราบความจริงว่า หลิว เต๋อหัว มีภรรยาแล้ว เมื่อเขาและแครอลเดินทางไปร่วมพิธีศพบิดาของแครอล ชู แล้วกลับมาเจอกองทัพนักข่าวที่สนามบินฮ่องกง ในวันที่ 25 สิงหาคม 2552

หลิว เต๋อหัว ได้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือสังคมและเพื่อนมนุษย์ ในชื่อ กองทุน "Andy Lau Charity Foundation" โดยเขาก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1994 เป็นต้นมา

ผลงานภาพยนตร์ เพลงและรางวัล

[แก้]

ผลงานภาพยนตร์  : Boat People (1982) หรือ ใส่ความบ้าท้านรก และอีกมากกว่า 160 เรื่อง , หลิว เต๋อหัวได้รับการสนับสนุนหลักและนำต้นแบบตัวละครหรือคาแรกเตอร์มาจากอดีตนักแสดงพระเอกหนังรักไต้หวันและผู้อำนวยการสร้างชื่อดังนามว่า เติ้ง กวงหยง (Alan Tang Kwong-Wing) และอดีตนักแสดงค่ายชอว์บราเดอร์สสตูดิโอ เฉิน หุ้ยเหมียน (Michael Chan Wai-man) มาเป็นตัวละครหรือคาแรกเตอร์ในรูปแบบของตัวเอง , ต้นแบบการแสดงเขา คือ ว่าน จื่อเหลียง , นักแสดงที่เขาชื่นชอบ คือ เยิ่น ต๊ะหัว

ผลงานที่ได้รับการยกย่อง : เป็นผู้บัญญัติหนังแก็งสเตอร์แนวใหม่ของโลกภาพยนตร์ (New HardBoiled Style Gangster Movie) , เป็นผู้ดัดแปลงหนังสือการ์ตูนขึ้นสู่จอภาพยนตร์ประสบความสำเร็จเป็นคนแรกของโลกภาพยนตร์ , เป็นผู้สร้างคาแรกเตอร์หรือตัวละครที่มีอัตลักษณ์ อันมีลักษณะเฉพาะขัดแย้งทางศิลธรรมหรือที่นิยมเรียกว่า แบดบอยด์(Badboy) ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

รางวัลทางการแสดง : รางวัลเกียรติยศม้าทองคำ(Taiwan Golden Horse Award) ยกย่องว่าเป็น ราชาแห่งภาพยนตร์จีน (King of Chinese Movie) : รางวัลตุ๊กตาทอง ฮ่องกงฟิล์ม อวอร์ด(Hong Kong Film Awards) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) 2 ครั้ง จากเรื่อง แหกกฎโหดมหาประลัย (Running Out of Time ,1999) , คนมหากาฬ ใหญ่ทะลุโลก (Running On Karma ,2003) และสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม(Best Supporting Actor) 2 ครั้ง จากเรื่อง เกมคน เหนือคม (Protégé ,2007) , แค่เธอยิ้ม หัวใจก็อิ่มรัก (A Simple Life ,2011)  : รางวัลม้าทองคำ ไต้หวัน โกลเด้นฮอซ อวอร์ด(Taiwan Golden Horse Award) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) 2 ครั้ง จากเรื่อง สองคนสองคม ภาค 3 (Infernal Affairs ,2003) , แค่เธอยิ้ม หัวใจก็อิ่มรัก (A Simple Life ,2011) : รางวัลไชน่า วอทชฺ(China Watch) จีนแผ่นดินใหญ่ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) จากเรื่อง หัวใจพ่อ...น่ากราบ (Lost and Love ,2015) , รางวัลนักแสดงยอดนิยมสูงสุด (No.1 Boxoffice Actor award) , รางวัล ดารายอดนิยมแห่งเชีย "Nielsen Box Office Star of Asia" Award

ผลงานเพลง : อัลบัมแรก Just Know I Only Love You (只知道此刻愛你) 1985 แต่มาโด่งดังในอัลบั้มที่หก Cannot - Who Said No? (可不可以-誰說不可以) ในปี 1990 , อัลบั้ม Thank You For Your Love (謝謝你的愛) 1992 ได้รับความนิยมในวงกว้าง เทียบเท่าเพลงสากล , อัลบัม Forget Love Potion (忘情水) 1994 ทำสถิติยอดขายไปทั่วโลก ฯลฯ มากกว่า 50 อัลบั้ม

รางวัลทางผลงานเพลง : รางวัลจากเอ็มทีวี แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำปี 1994 ได้แก่ MTV Lifetime Achievement Award และรางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย MTV Asian All-Outstandionging Artist Award นักร้องเอเชียยอดนิยมสูงสุด 1 ใน 25 บิลบอร์ดชาร์ท(Billboard) ของสหรัฐอเมริกา ประจำปี 1995  : รางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งเกาะฮ่องกง (Most Popular Hong Kong Male Artist) 7 สมัย ในปี ค.ศ. 1990, 1991, 1992, 1994, 1999 เป็นต้น : รางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Most Popular Male Artist) 15 สมัย ในปี ค.ศ. 1993, 1995, 1996, 2000 - 2006 เป็นต้น


อ้างอิง

[แก้]
  1. "Buddhist blockbuster". Global Times. 20 January 2011. สืบค้นเมื่อ 21 May 2012.
  2. "组图:娱乐圈明星信佛知多少". QQ News. 27 February 2007. สืบค้นเมื่อ 21 May 2012.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

หลิวเต๋อหัว อัพเดทในติ๊กต๊อกจีน Douyin https://www.douyin.com/user/MS4wLjABAAAAU7ibxriLF-GSBF5QKa1Op9hxcMAPVmzmXwXqqvMfrhs