๙ ศาสตรา
บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ จัดลิงก์ภายใน และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
๙ ศาสตรา | |
---|---|
กำกับ | พงศา กรศรี ณัฐ ยศวัฒนานนท์ กันย์ พันธ์สุวรรณ |
บทภาพยนตร์ | ณัฐ ยศวัฒนานนท์ Bryan Edward Hill ดารกา วงศ์ศิริ |
เนื้อเรื่อง | ณัฐ ยศวัฒนานนท์ ศุภากร เหรียญสุวรรณ |
อำนวยการสร้าง | ศิโรตม์ เสตะพันธุ อภิเษก วงศ์วสุ ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ กฤษณ์ เกษมศานติ์ |
นักแสดงนำ | กนกฉัตร มรรยาทอ่อน สาวิตรี สุทธิชานนท์ ศิริชัย เจริญกิจธนกุล รัชพล แย้มแสง วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ นิมิตร ลักษมีพงศ์ |
กำกับภาพ | ณัฐ ยศวัฒนานนท์ สุวรรณดี จักราวุธ |
ตัดต่อ | ณัฐพล นาคเงิน |
ดนตรีประกอบ | Ryan Shore |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | เอ็ม พิคเจอร์ส |
วันฉาย | 11 มกราคม พ.ศ. 2561 |
ความยาว | 102 นาที |
ประเทศ | ไทย |
ภาษา | ไทย |
ทุนสร้าง | 230 ล้านบาท |
ทำเงิน | 52.60 ล้านบาท (กรุงเทพ, ปริมณฑล และเชียงใหม่)[1] 100 ล้านบาท (ทั่วประเทศ) |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
๙ ศาสตรา เป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน เนื้อหาว่าด้วยแฟนตาซีผสมผสานกับมวยไทย อำนวยการสร้างโดยบริษัท เอ็กซ์ฟอร์แมท ฟิล์มส์ และจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)[2] ซึ่งใช้เวลาในการสร้างถึง 4 ปีเต็ม และได้ออกฉายตรงกับสัปดาห์ วันเด็กแห่งชาติ เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 มีกำหนดฉายวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ทางเน็ตฟลิกซ์
เนื้อเรื่องย่อ
[แก้]๙ ศาสตรา เป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ชะตาลิขิตให้มากอบกู้อาณาจักรรามเทพนคร แผ่นดินปิตุภูมิของเขาให้รอดพ้นอำนาจทมิฬของยักษา ผู้ก่อความทุกข์เข็ญให้ประชาราษฎร์ เป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยทั้งโชคชะตาและวิชายุทธอย่างมีคุณธรรม[3] อ๊อด ชายหนุ่มแห่งโพ้นทะเล คือ ผู้ที่ถูกลิขิตมาให้รับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการกอบกู้อาณาจักร พร้อมกับพลพรรคเพื่อนพ้อง ที่มีทั้งอาวุธและยุทธวิธีตามวิถีตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยวหลาน”โจรสลัดอากาศชาวจีน เธอเป็นสาวงามนักแม่นปืนจากกองเรือเหาะทะยานเมฆ พร้อมด้วยลิงทโมน นามว่า วาตะ รวมถึง อสูรสีชาด ยักษ์สีแดงร่างใหญ่ใจดี ส่วนอ๊อดนั้นได้ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทย ที่เคยหายสาบสูญจากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน และได้ฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักมาโดยตลอด เพื่อเตรียมต่อสู้กับหมู่มวลอธรรม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (ตุลาคม 2020) |
การเปิดตัว
[แก้]เอ็กฟอร์แมท ฟิล์มส์ ผนึกกำลังกับ เอ็ม พิคเจอร์ส จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์ ๙ ศาสตรา (เก้าศาสตรา ชื่อภาษาอังกฤษ THE LEGEND OF MUAYTHAI: 9 SATRA) ภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดยาวเรื่องแรกของ บริษัท เอ็กซ์ฟอร์แมท ฟิล์มส์ ที่นำเสนอในแนวแอคชั่น ผจญภัย แฟนตาซี ฉีกรูปแบบของแอนิเมชันสัญชาติไทยที่เคยมีมา[4] โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ โรงที่ 7 มีการเปิดตัวอย่างภาพยนตร์ พร้อมพูดคุยกับทีมโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับและทีมนักแสดงพากย์เสียง นำทีมโดย ณัฐ ยศวัฒนานนท์, อภิเษก วงศ์วสุ, ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์, สุวรรณดี จักราวุธ, กนกฉัตร มรรยาทอ่อน, น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์, สาวิตรี สุทธิชานนท์ ฯลฯ ซึ่ง ๙ ศาสตรา เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ยิ่งใหญ่ตระการตาและสนุกตื่นเต้นครบรสทุกอารมณ์ ซึ่งออกฉายเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 ในโรงภาพยนตร์
ตัวละคร
[แก้]อ๊อด เด็กหนุ่มชาวรามเทพนคร มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน พ่อแม่ที่แท้จริงของอ๊อดเป็นช่างตีฆ้อง ในหมู่บ้านฆ้องเหล็ก ซึ่งถูกพวกยักษ์ที่มารุกรานเมืองฆ่าตาย อ๊อดได้รับการเลี้ยงดูจากจมื่นพันธ์วรเดช ซึ่งเขาหลงคิดว่าชายผู้นี้คือพ่อแท้ ๆ มาโดยตลอด แต่ก็ยังสงสัยว่าทำไมพ่อถึงเย็นชากับเขานัก เพราะหลังจากทั้งคู่หลบหนีมาอยู่ที่หมู่บ้านนกแอ่น จมื่นพันธ์วรเดชก็คอยเคี่ยวเข็ญให้เขาร่ำเรียนวิชามวยไทยจากเฒ่าใบ้ และฝึกฝนสมาธิจากหลวงพ่อสิน จนมีวิถีชีวิตต่างจากเด็กทั่วไป กระทั่งวันหนึ่งอ๊อดได้รู้ความจริง เขาจึงตั้งใจพัฒนาตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจเพื่อรับหน้าที่แทนจมื่นพันธ์ ในการนำศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ไปมอบแก่องค์ชายรัชทายาท เพื่อกอบกู้รามเทพนครจากเหล่ายักษ์และอ็อดอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการใช้9ศาสตราในการหยุดยั้งเทหยักษาและอ็อดยังมียันต์พิเศษในตัวและมวยไทยที่รํ่าเรียนมาจาก เฒ่าใบ โดยอ๊อดเป็นคนเดียวที่ออกมาจากหมู่บ้านสิงห์ดำและอ๊อดเป็นผู้รับภารกิจนำศาสตราวุธไปให้ไชยราเมศแต่ถูกหลอกเพราถูกเทหยักษาที่แปลงกายเพื่อที่จะทำลายศาสตราวุธเล่นงาน และอ๊อดมีคุณสมบัติในการใช้ ศาสตราวุธปราบเทหยักษา โดยหลังจากที่อ๊อดปราบเทหยักษา อ๊อดกลายเป็นครูมวยอยู่ที่รามเมพนครชั่วคราวแต่อ๊อดคิดถึงอดีตอ๊อดจึงลากลับหมู่บ้านสิงห์ดำ
เสี่ยวหลาน โจรสลัดสาวสวยชาวหมิง ผู้ทำหน้าที่ดูแลเรือเหาะทะยานเมฆแทนบิดา คอยปล้นสะดมกองเรือยักษ์ และช่วยเหลือทาสมนุษย์ที่ถูกจับ ภายนอกนั้นเสี่ยวหลานดูห้าวหาญเด็ดเดี่ยว เชี่ยวชาญการใช้อาวุธระยะไกลซึ่งฝึกฝนมาจากเฒ่าฉ่อย แต่ภายในนั้นกลับซ่อนความอ่อนไหวดั่งศิลปินไว้ เดิมนั้นเสี่ยวหลานเติบโตมาด้วยความรักที่จะเป็นนักดนตรี แต่เหตุการณ์แปรเปลี่ยน เมื่อ เทหยักษารู้ว่าฟงเอ๋อพี่ชายของนางนั้นเกิดใต้ฤกษ์คำทำนายว่าจะเป็นผู้กอบกู้รามเทพนครได้ จึงสั่งสมุนยักษ์มาชิงตัวไป การต่อสู้ในครั้งนั้นทำให้เสี่ยวหลานสูญเสียบิดาและมารดา เด็กสาวธรรมดาจึงต้องลุกขึ้นมาจับอาวุธ และต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้นำกองทัพโเพื่อช่วยพี่ชายที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน โดยเสี่ยวหลานหน้าตาเหมือนนางพิมมารดาของอ็อด
วาตะ หรือ องค์ชายวณราวาตะที่ 3 รัชทายาทแห่งราชวงศ์พายะ วานรน้อยรัชทายาทแห่งอาณาจักรมณีโคต อาณาจักรของลิงที่ถูกกองทัพยักษ์บุกเข้าโจมตี จากเคยใช้ชีวิตสุขสบายในฐานะเจ้าชาย วาตะจึงต้องระหกระเหินออกไปใช้ชีวิตเร่ร่อนข้างถนนอย่างยากลำบาก ลักเล็กขโมยน้อยเพื่อความอยู่รอด และด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไวทำให้วาตะไม่เคยโดนจับได้ ซ้ำยังไม่มีใครรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเขา จนเมื่อวาตะเดินทางมาถึงเมืองนาคาวรรณ และได้พบกับอสูรสีชาด ผู้ที่เห็นกับตาว่าวาตะสามารถใช้เกราะแขนกลอาวุธแห่งอาณาจักรวานรที่จะเปล่งพลังสูงสุดเมื่ออยู่กับผู้สืบเชื้อสายเท่านั้น จากนั้นทั้งคู่จึงได้ร่วมเดินทางไปยังรามเทพนครด้วยกัน โดยวาตะต้องการล้างแค้นพวกยักษ์ที่ทำลายเผ่าพันธุ์ของเขา
อสูรสีชาด/พระมหาอุปราช มารตา ยักษ์สีแดงผู้มีความผิดแผกจากเผ่าพันธุ์ ไม่เพียงเแต่นิสัยที่สุขุม รอบคอบ ชอบใช้ความคิดมากกว่ากำลัง หรือถนัดอ่านหนังสือมากกว่าสู้รบ และการศึกสงคราม แต่อสูรสีชาดยังหลงรักมนุษย์ จึงถูกขับไล่ออกจากผองยักษ์ แต่ยักษ์นอกคอกตนนี้ก็พยายามกลับไปยังรามเทพนครเพื่อช่วยคนรักที่ถูกคุมขังไว้ ระหว่างทางอสูรสีชาดได้เจอกับวาตะและอ๊อด และด้วยความรอบรู้ของเขา ทำให้อสูรสีชาด กลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ แท้จริงแล้วคือน้องชายของเทหยักษา ที่แค้นพี่ชายเพราะว่า เทหยักษาฆ่าเมียของเขาจนทำให้ต้องหนีออกจากผองยักษ์โดยเขานั้นเป็นคนดีแต่สีวรกายของเขานั้นต่างจากเทหยักษาผู้เป็นพี่ชาย... (เนื้อหาเบื้องหลัง : แต่ถึงกระนั้น มารตาก็ไม่สามารถที่จะเกลียดทารคาได้ลง เพราะอย่างไรซะ ทารคาก็เป็นพี่ชายที่ดีและอ่อนโยนกับเขามาตลอด... ไม่ว่าจะแค้นมากเท่าไหร่ แต่ก็เกลียดไม่ลง... แต่ผู้ที่มารตาเกลียดจริงๆคือตัวตนของเทหะยักษาที่ครอบงำจิตใจที่แท้จริงของทารคาผู้เป็นพี่ของตนต่างหาก...)
เทหยักษา (หรือบ้างอาจจะเขียนว่า เทหะยักษา) เป็นเทพแห่งยักษ์ เดิมชื่อทารคา เป็นราชบุตรของอนันตยักษาผู้ปกครองนครคีรีกัณฑ์ แต่ถูกกาฬสูตรซึ่งเป็นยักษ์ต่างเมือง จาก นรกัณฑ์ลอบโจมตีโดยใช้เชลยมนุษย์เป็นไส้ศึก บิดาของทารคาถูกฆ่าตาย เขาจำต้องหลบหนีออกจากเมืองพร้อมน้องชาย และเติบโตมาท่ามกลางภัยอันตราย ทั้งจากสัตว์ร้ายและมนุษย์ที่คอยตามล่าเพราะชิงชังบิดาของเขา เวลาผ่านไป บนเส้นทางแห่งการเข่นฆ่าเพื่อเอาตัวรอด ทักษะการต่อสู้ของทารคาพัฒนาถึงขั้นสูง ขณะเดียวกันความพยาบาทที่ฝังลึกในใจ ก็ทำให้ทารคากลายเป็นยักษ์ที่โหดเหี้ยม ดุร้าย ยากหาใครมาต่อกร ซึ่งยิ่งทำให้ทารคาหรือเทหยักษาหลงใหลในอำนาจ ปรารถนาจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง โดยมีแม่หมอการ์ณีชา ยักษีชราเป็นผู้รับใช้
พรานทมิฬ หนึ่งในเผ่าพันธุ์ทมิฬที่ยังคงหลงเหลือ มีพลังในการควบคุมสัตว์และมีพรสวรรค์ในการไล่ล่า จนวันหนึ่งเขาเห็นมารดาตายไปต่อหน้าต่อตา ความเจ็บปวดทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ รู้ตัวอีกครั้ง เขาก็กลายเป็นเครื่องมือล่าสัตว์ให้กับพวกนายพราน และถูกซื้อขายราวสิ่งของสู่มือโจรสลัดอากาศ เขาทำงานรับใช้ถวายหัวให้เจ้านายโจรสลัดมาเนิ่นนานกระทั่งได้ล่วงรู้ความจริงว่าเจ้านายเขานั้น คือ คนที่ฆ่าแม่ของเขาอย่างเลือดเย็น ด้วยแรงแค้นทำให้เขาสังหารเหล่าโจรสลัดตายสิ้นทั้งกองเรือ เหล่ายักษ์ได้เห็นความสามารถนี้ จึงนำตัวเขามาถวายแด่เทหยักษา จากนักล่าจึงกลายเป็นนักฆ่าที่เก่งกาจที่สุดที่กองทัพยักษ์เคยมีมา และได้ฉายาว่าพรานทมิฬ โดยภายหลังเขาได้กลับตัวเป็นคดี
จมื่นพันธ์วรเดช อดีตหัวหน้ามหาดเล็กรักษาพระองค์ ผู้จงรักภักดีต่ออาณาจักรรามเทพ กล้าหาญ มีความเป็นผู้นำสูง เมื่อรามเทพนครถูกพวกยักษ์ยึดครอง จมื่นพันธ์พยายามรวบรวมกองกำลังใต้ดิน ก่อตั้งกลุ่มกบฏเพื่อบุกไปช่วงชิงศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์เพราะเชื่อว่าจะมาสามารถกอบกู้เมืองได้ ในระหว่างปฏิบัติภารกิจสุดเสี่ยงอันตราย จมื่นพันธ์พยายามปกป้องลูกชายนามว่าแสงด้วยชีวิต ความเสียสละนี้เองได้ปลุกพลังศักดิ์สิทธิ์ของศาสตาวุธให้ตื่นขึ้น พลานุภาพของมันทำให้จมื่นพันธ์และแสงฝ่าวงล้อมพวกยักษ์ออกมาได้ แต่กระนั้น พรานทมิฬที่ดักรออยู่ตรงทางออกก็จู่โจมเข้ามาคร่าชีวิตแสงลงต่อหน้า จมื่นพันธ์กอบกู้ศาสตราวุธได้สำเร็จแต่ก็เสียลูกชายของตนไป ความเจ็บปวดนี้เป็นดังบาดแผลในจิตใจ ทำให้จมื่นพันธ์ไม่สามารถมอบความอบอุ่นให้แก่อ๊อดได้ แม้จะรักอ๊อดไม่ต่างจากลูกชาย แต่เขาก็แสดงออกอย่างแข็งกระด้างเพื่อหวังให้อ๊อดแข็งแกร่ง และหวังว่าอ๊อดจะไม่ตายเหมือนลูกชายของตน โดยจมื่นนั้นเพื่อนร่วมรบของนายมั่นพ่อของอ็อดมาก่อน
เฒ่าใบ้ สุดยอดครูมวยแห่งหมู่บ้านสิงห์ดำ ไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด มีลูกศิษย์เคารพรักมากมาย ใช้ความสามารถทางมวยไทเอาชนะพวกยักษ์ได้หลายครั้งทั้งที่กำลังน้อยกว่า และด้วยนิสัยบ้าระห่ำ รักศักดิ์ศรี ยอมหักไม่ยอมงอ ทำให้พ่อครูไม่ยอมอพยพหนีพวกยักษ์ลงใต้ เหล่าลูกศิษย์เห็นว่าขืนปล่อยให้พ่อครูสู้จนตัวตาย วิชามวยไทคงต้องสูญไป จึงวางแผนจับพ่อครูไปกักขังไว้ ก่อนยืนหยัดต่อสู้กับพวกยักษ์จนลมหายใจสุดท้าย เมื่อพ่อครูได้เห็นร่างไร้วิญญาณของศิษย์รัก ความรู้สึกผิดก็ถาโถม หากตนยอมฟังและถอยทัพตามคำแนะนำ คงไม่มีใครตาย พ่อครูเจ็บปวดแสนสาหัส จนหลวงพ่อสินผ่านมาเจอและชวนไปอยู่หมู่บ้านนกแอ่นด้วยกัน พ่อครูไม่ยอมพูดกับใครจนถูกเรียกว่าเฒ่าใบ้ โดยที่เฒ่าใบ้ตั้งใจเก็บโซ่ตรวนที่เท้าเอาไว้ เพื่อเตือนใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่สอนมวยไทเพื่อให้ใครไปตายอีกแล้ว
องค์ชายรัชทายาทแห่งกรุงรามเทพ (ไชยราเมศ) รัชทายาทองค์สุดท้ายแห่งรามเทพนคร ถูกจองจำอยู่ในคุกของเชื้อพระวงศ์ตั้งแต่แรกเกิด จนเมื่อโหรชราได้ทำนายเกี่ยวกับบุรุษหนุ่มผู้สามารถกอบกู้แผ่นดินรามเทพได้ ข้าหลวงผู้จงรักภักดีจึงเกรงว่าองค์ชายจะมีภัย จึงได้ลักลอบพาตัวองค์ชายซึ่งยังเป็นทารกมาที่คุกใต้ดิน เพื่ออยู่รวมปะปนกับทาสคนอื่น ๆ แม้จะเติบโตไม่ต่างจากทาสชั้นเลวทั่วไป แต่บารมีแห่งสายเลือดกษัตริย์ ก็ทำให้ในบางครั้งไชยราเมศสามารถหยุดการจู่โจมของพวกยักษ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ภายในคุกใต้ดินนั้น ไชยราเมศได้รู้จักกับฟงเอ๋อ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าฐานะแท้จริงของไชยราเมศคือใคร
การ์ณีชา ยักษีชราผู้สามารถมองเห็นอนาคตได้ เคยทำงานรับใช้กาฬสูตร แต่เมื่อคำทำนายของการ์ณีชาไม่เป็นที่ถูกใจ คล้ายดูถูกบารมีอันยิ่งใหญ่ กาฬสูตรจึงขับไล่การ์ณีชาออกจากเมือง แม่หมอชราจึงหนีมาสวามิภักดิ์กับเทหะยักษะ คอยทำพิธีต่าง ๆ เพื่อต่อดวงชะตา และเตือนเทหะยักษาเกี่ยวกับการปรากฏของศาสตราวุธ
โหรชรา โหรหลวงผู้หยั่งรู้ดินฟ้า ถูกจับขังในคุกใต้ดิน ได้ประกาศก้องก่อนตาย ว่าด้วยบุรุษหนุ่มผู้เกิดใต้ฤกษ์คำทำนาย และศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ ว่าเมื่อทั้งสองหลอมรวมกันจะสามารถกอบกู้รามเทพนครได้
หลวงเรือง อดีตหัวหน้ามหาดเล็กรักษาพระองค์ ฉลาดแกมโกง ไม่เก่งเรื่องการรบ แต่เอาตัวรอดได้ด้วยการประจบสอพลอ ไม่พอใจจมื่นพันธ์เนื่องจากอิจฉาที่อีกฝ่ายเก่งกว่า มีคนเชื่อฟังมากกว่า จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นใหญ่
เฒ่าฉ่อย ชายชราชาวรามเทพนคร ที่เสี่ยวหลานนับถือประหนึ่งลุงแท้ ๆ เพราะครั้งที่เฒ่าฉ่อยอพยพหนีพวกยักษ์ออกมาจากเมือง ได้เคยช่วยชีวิตเสี่ยวหลานตอนเด็ก ๆ เอาไว้ บิดาของเสี่ยวหลานจึงรับมาอยู่ในกองเรือ และเนื่องจากเฒ่าฉ่อยเป็นผู้มีอาคมติดตัว จึงได้เป็นที่ปรึกษาคนสนิท เมื่อพวกยักษ์บุกมาจับตัวฟงเอ๋อและฆ่าบิดาของเสี่ยวหลาน เฒ่าฉ่อยก็รับปากจะดูแลเสี่ยวหลานให้ดี เฒ่าฉ่อยคอยสอนเสี่ยวหลานให้ใช้อาวุธ เพื่อกลับไปช่วยฟงเอ๋อ
ฟงเอ๋อ ลูกชายคนโตของสลัดอากาศผู้โด่งดัง พี่ชายของเสี่ยวหลาน ต้องรับผิดชอบดูแลกองเรือต่อจากบิดา แต่ทว่ากลับถูกพวกยักษ์จับตัวไปเนื่องจากเกิดใต้ฤกษ์คำทำนาย ภายในคุกใต้ดิน ฟงเอ๋อได้รู้จักไชยราเมศ และใช้วิชาการต่อสู้ที่ร่ำเรียนมาแต่เด็ก คอยช่วยเหลือองค์ชายอยู่บ่อยครั้ง
ศาสตราวุธ
[แก้]9 ศาสตรา เกิดขึ้นจากอุกกาบาตดาวหางสีเขียวมรกต ที่ตกลงมาครั้งกองทัพอสูรแผ่อำนาจปกครองมนุษย์ ผู้นำแห่งศรัทธาได้ใช้หนึ่งใน 9 ส่วนดาวหางจัดการกับเหล่าอสูร และรวบรวมส่วนที่เหลือที่กระจัดกระจาย โดยใช้ความชำนาญของช่างตีเหล็กยอดฝีมือ 9 คน และนักบวช 99 รูปร่ายมนต์ทำพิธีตลอด 9 คืน 9 วัน เพื่อหลอมรวมเทหะวัตถุทั้ง 9 ให้กลายเป็นหนึ่ง โดยผสานกับศาสตร์แห่งการต่อสู้นั่นคือมวยไทย มือ เท้า เข่า ศอกทั้งสองข้าง ประสานดวงจิตแรงกล้า เพื่อให้เกิดศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ ที่มีพลังปกป้องบ้านเมืองต่อไป
สถานที่
[แก้]รามเทพนคร หลังมนุษย์ได้ชัยชนะเหนือสงครามกับอสูรกายที่กินเวลายาวนานหลายชั่วอายุคน ผู้นำแห่งศรัทธาได้รวบรวมผู้คนที่กระจัดกระจายให้มาอยู่รวมกันเป็นปึกแผ่น สถาปนารามเทพนครขึ้นมา โดยมีศาตราวุธเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
บ้านฆ้องเหล็ก หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ชายแดนของรามเทพนคร ลักษณะเป็นแอ่งกระทะ มีเทือกเขาล้อมรอบ กลางหมู่บ้านเป็นที่ตั้งของประตูกล เชื่อมทางลับสู่ท้องพระคลังหลวง ซึ่งเป็นที่เก็บศาสตราวุธ เป็นที่อยู่เดิมของนายมั่นและนางพิม บิดามารดาที่แท้จริงของอ๊อด
หมู่บ้านนกแอ่น หมู่บ้านชาวประมงซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของรามเทพนคร ดูภายนอกเหมือนเป็นเกาะร้าง ด้านบนปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ ไม่มีชายหาด รอบ ๆ เป็นผาหินสูงชัน เข้าออกด้วยการสัญจรทางเรือ ซึ่งต้องลอดผ่านถ้ำเวลาน้ำลดเท่านั้น ทำให้ปลอดภัยจากการรุกรานของเหล่ายักษ์เป็นเวลาหลายปี
นาคาวรรณ เมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่ริมทะเล ขายสินค้าต่าง ๆ รวมถึงการค้าทาส รอบเมืองมีรูปสลักพญานาค โดยส่วนหัวนั้นเป็นท่าเทียบเรือเหาะที่ใช้ขนถ่ายสินค้า บ้านเรือนจำนวนมากยังไม่ถูกทำลาย ทั้งมนุษย์และอสูรกายต่างอยู่รวมกันได้ในเมืองนี้
มณีโคด อาณาจักรของเหล่าวานร อยู่ทางทิศเหนือของกรุงรามเทพ ปกครองโดยท้าววานรา วาโย ผู้สืบเชื้อสายแห่งพระพาย รัชทายาทคือองค์ชายวานรา วาตะ
กรุงคีรีกัณฑ์ นครของเหล่ายักษ์ ตั้งอยู่บนดินแดนที่ราบสูงภูเขาไฟ มีนิคมเชลยมนุษย์เป็นหน้าด่านป้องกัน ทำให้ยากแก่การโจมตี อนันตยักษาราชาผู้ไร้เทียมทานเป็นผู้ปกครอง โดยมีบุตรชายองค์โตนามว่าทารคา หรือเทหะยักษาเป็นองค์รัชทายาท
อ้างอิง
[แก้]- ↑ [1] รายได้หนังประจำสัปดาห์ที่ 15-21 ก.พ. 2561
- ↑ [2] เก็บถาวร 2017-11-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เว็บไซต์ catdumb “9 ศาสตรา” แอนิเมชันคนไทยเรื่องใหม่ แค่ Teaser ก็เล่นเอาขนลุก ดูแล้วไม่แพ้สตูดิโอนอก!!
- ↑ [3] เว็บไซต์ 9 satra movie เรื่องย่อ ๙ ศาสตรา
- ↑ [4] เก็บถาวร 2017-11-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เว็บไซต์ thai post “9 ศาสตรา” แอนิเมชันคนไทยประกาศศักดา