ไอโฟน X
ตราสินค้า | แอปเปิล |
---|---|
สโลแกน | สวัสดีอนาคต (Say hello to the future) |
หมายเลขเครื่อง | A1865 (with Qualcomm modem) A1901 (with Intel modem) |
เครือข่ายที่รองรับ | GSM, CDMA2000, EV-DO, HSPA+, LTE, LTE Advanced |
เปิดตัวครั้งแรก | 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 |
ยกเลิกการผลิต | 12 กันยายน พ.ศ. 2561 |
รุ่นก่อนหน้า | iPhone 8 |
รุ่นถัดไป | iPhone XS และ iPhone XS Max |
รูปแบบ | แฟบเล็ต |
ขนาด | H: 143.6 mm (5.65 in) W: 70.9 mm (2.79 in) D: 7.7 mm (0.30 in) |
น้ำหนัก | 174 g (6.1 oz) |
ระบบปฏิบัติการ | แรกเริ่ม: iOS 11 ปัจจุบัน: iOS 13.6.0, released 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 |
ระบบบนชิป | แอปเปิล เอ11 ไบโอนิก |
ซีพียู | Hexa-core |
หน่วยความจำระบบ | 3 GB LPDDR4 RAM |
หน่วยความจำ | 64 หรือ 256 จิกะไบต์ |
หน่วยความจำภายนอก | ไม่มี |
จอแสดงผล | 5.8 in (150 mm) Super Retina HD: OLED, 2436×1125 px resolution (458 ppi) 625 cd/m² max. brightness (typical), with dual-ion exchange-strengthened glass |
กล้องหลัง | 12 MP with six-element lens, quad-LED "True Tone" flash with Slow Sync, autofocus, IR filter, Burst mode, f/1.8 aperture, 4K video recording at 24, 30, or 60 fps or 1080p at 30 or 60 fps, slow-motion video (1080p at 120 or 240 fps, timelapse with stabilization, panorama, facial recognition, digital image stabilization, optical image stabilization A telephoto lens with 2× optical zoom / 10× digital zoom Portrait Lighting (beta), f/2.4 aperture aperture, optical image stabilization |
กล้องหน้า | 7 MP, f/2.2 aperture, burst mode, exposure control, face detection, auto-HDR, auto image stabilization, Retina flash, 1080p HD video recording Portrait mode, Portrait Lighting (beta) and Animoji |
ระบบเสียง | ลำโพงสเตอริโอ |
การเชื่อมต่อ | All models: |
ความเข้ากันได้ของเครื่องช่วยฟัง | M3, T4 |
เว็บไซต์ | www |
ไอโฟน X (X อ่านว่า "เท็น")[1] เป็นสมาร์ตโฟนที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัทแอปเปิล เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 ณ หอประชุมสตีฟ จ็อบส์ ภายในแอปเปิลปาร์ค สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของบริษัทแอปเปิล และกำหนดวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 3 พฤศจิกายนปีเดียวกัน ในประเทศสหรัฐอเมริกา และอีก 56 ประเทศทั่วโลก [2] ส่วนประเทศไทยวางจำหน่ายในวันที่ 24 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน [3] โดยเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นฉลอง 10 ปี การเปิดตัวโทรศัพท์ไอโฟน
ไอโฟน X ได้รับการวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นสมาร์ตโฟนระดับสูงที่มีเทคโนโลยีอันล้ำสมัย โดยออกแบบหน้าจอให้มีขอบบาง ไม่มีปุ่มด้านหน้าของเครื่อง จอแสดงผลชนิดไดโอดเปล่งแสงสารอินทรีย์ หรือโอแอลอีดี ซึ่งใช้ชื่อทางการตลาดว่า "ซูเปอร์ เรตินา เอชดี ดิสเพลย์" ความส่องสว่างสูงสุด 625 แคนเดลาต่อตารางเมตร สำหรับกล้องหลังใช้ระบบคู่ ประกอบด้วยกล้องเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล f/1.8 ซึ่งประกอบด้วยชุดเลนส์หกชิ้น และกล้องเลนส์เทเล f/2.4 กล้องหลังทั้งคู่มีระบบปรับความเสถียรของภาพแบบออปติคอล หรือโอไอเอส พร้อมการพัฒนาตัวรับรู้บ่งชี้ความตื้นลึก และมีแฟลชแบบทรูโทน ส่วนกล้องหน้า "ทรูเดปธ์" มีความละเอียด 7 เมกะพิกเซล f/2.2 และมีเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ซึ่งใช้ร่วมกับแอนิโมจิ และเฟซไอดี อันเป็นฟังก์ชันปลดล็อกเครื่อง ซึ่งแทนที่ทัชไอดีในโทรศัพท์รุ่นก่อนหน้า[4][5][6][7]
เส้นเวลาของไอโฟนแต่ละรุ่น
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Waldroup, Samantha (12 September 2017). "iPhone X or iPhone 10? How To Pronounce The Name Of The New iPhone". Heavy.com. สืบค้นเมื่อ 12 September 2017.
- ↑ "อนาคตอยู่ที่นี่แล้ว พบกับ iPhone X". Apple. สืบค้นเมื่อ November 8, 2017.
- ↑ "iPhone X จะเริ่มวางจำหน่ายในเกาหลี ไทย ตุรกี และอีก 10 ประเทศ". Apple. สืบค้นเมื่อ November 8, 2017.
- ↑ Heater, Brian. "What to expect from the iPhone 8, iPhone 8 Plus and iPhoneX models". TechCrunch. สืบค้นเมื่อ September 12, 2017.
- ↑ Macworld Staff. "iPhone 8 and iPhone X rumors: iOS 11 leak spills name, chip, and other details". Macworld. สืบค้นเมื่อ September 12, 2017.
- ↑ "Apple iPhone 8 and 8 Plus have A11 Bionic chips, new cameras". GSMArena. สืบค้นเมื่อ September 13, 2017.
- ↑ "iPhone X - Technical Specifications". Apple. สืบค้นเมื่อ September 13, 2017.
- ↑ Apple Inc. (2004-2016). Press Release Library. Retrieved April 6, 2016.