ไวรัสโรคระบาด เอช 1 เอ็น 1/09
Influenza A virus | |
---|---|
ภาพของไวรัสไข้หวัดใหญ่เอช 1 เอ็น 1 จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่ห้องปฏิบัติการไข้หวัดใหญ่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 80–120 นาโนเมตร[1] | |
การจำแนกชนิดไวรัส | |
ไม่ได้จัดลำดับ: | ไวรัส |
Realm: | Riboviria |
อาณาจักร: | Orthornavirae |
ไฟลัม: | Negarnaviricota Negarnaviricota |
ชั้น: | Insthoviricetes |
อันดับ: | Articulavirales |
วงศ์: | Orthomyxoviridae |
สกุล: | Alphainfluenzavirus |
สปีชีส์: | Influenza A virus |
เซโรไทป์ | |
Pandemic H1N1/09 virus |
ไวรัสโรคระบาด เอช 1 เอ็น 1/09 (อังกฤษ: pandemic H1N1/09 virus) เป็นสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่มีต้นกำเนิดจากสุกร ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สื่อทั่วไปเรียกไวรัสชนิดนี้ว่า ไข้หวัดสุกร
ลักษณะไวรัส
[แก้]ไวรัสนี้เป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่[2] ซึ่งไม่มีวัคซีนกำจัดไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่มีอยู่ในตอนนั้นป้องกันได้ งานวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) ของประเทศสหรัฐที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2009 พบว่าเด็กไม่มีภูมิคุ้มกันที่มีมาก่อนต่อสายพันธุ์ใหม่ ในทางกลับกัน ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 60 มีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง เด็กไม่แสดงปฏิกิริยาแอนตีบอดีข้ามกันต่อสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่ผู้ใหญ่อายุ 18 ถึง 64 พบร้อยละ 6–9 และผู้สูงอายุร้อยละ 34[3][4] รายงานการวิเคราะห์ช่วงแรกส่วนใหญ่บันทึกว่า สายพันธุ์นี้มียีนจากไวรัสไข้หวัด 5 ชนิด: ไข้หวัดใหญ่สุกรอเมริกาเหนือ, ไข้หวัดนกอเมริกาเหนือ, ไข้หวัดมนุษย์ และไวรัสไข้หวัดใหญ่สุกร 2 ชนิดในเอเชียและยุโรป[5] มีการวิเคราะห์เพิ่มเติมว่าโปรตีนของไวรัสบางส่วนมีความคล้ายกับสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดอาการไม่รุนแรงในมนุษย์ ทำให้นักวิทยาไวรัส Wendy Barclay แนะนำว่าไวรัสไม่อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงต่อผู้คนส่วนใหญ่[6] นักวิจัยบางส่วนระบุไวรัสทุกส่วนมาจากสุกร ถึงแม้ว่าจะมีการเข้าชุดยีนใหม่หลายครั้งก็ตาม[7][8]
ต้นกำเนิดไวรัส
[แก้]การวิเคราะห์ความแตกต่างทางพันธุกรรมของไวรัสตัวอย่างจากจากกรณีต่าง ๆ ระบุว่าไวรัสเริ่มเข้าไปในตัวมนุษย์ใน ค.ศ. 2008 น่าจะหลังเดือนมิถุนายน และไม่นานไปกว่าสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน[9] ซึ่งอาจเป็นช่วงรอบ ๆ เดือนกันยายน ค.ศ. 2008[10][11] จากรายงานนักวิจัยที่คณะแพทยศาสตร์ของมอนต์ไซนายใน ค.ศ. 2016 พบว่า ไวรัส 2009 H1N1 น่าจะมีต้นกำเนิดจากสุกรในภูมิภาคขนาดเล็กมากในภาคกลางของประเทศเม็กซิโก[12]
ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2009 ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่ามีเด็กในเทศมณฑลของเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียเป็นไข้ทางเดินหายใจจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสุกร เอ (H1N1) จำนวน 2 ราย ซึ่งต้านทานอะแมนตาดีนกับไรแมนตาดีน และมียีนที่ไม่พบในไวรัสไข้หวัดสุกรหรือมนุษย์ในสหรัฐหรือที่อื่น หลังการปรากฎตัวของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในฤดูไบไม้ผลิ ค.ศ. 2009 มันเริ่ทแพร่ทั่วสหรัฐเม็กซิโก และทั่วโลก[13][14]
ในช่วงปลายเดือนเมษายน ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โรคนี้เป็น"ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ"ครั้งแรกของโลก[15] และในเดือนมิถุนายน ทาง WHO และ CDC ของสหรัฐหยุดนับจำนวนผู้ติดเชื้อและประกาศให้โรคนี้เป็นโรคระบาดทั่ว[16]
ศักยภาพก่อโรค
[แก้]ศักยภาพก่อโรคของไวรัสไข้หวัดใหญ่สุกรอยู่ในระดับอ่อนและอัตราการตายต่ำมาก[17][18]
ในช่วงกลางปี 2009 ทาง CDC ของสหรัฐรายงานว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหนัก มีความคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และสามารถฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็ว[19] ในเดือนกันยายน 2009 กล่าวกันว่า จำนวนผู้เสียชีวิตมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตรายปีจากไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล[20] อย่างไรก็ตาม การเทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลมีแนวโน้มว่าประเมินค่าโรคระบาดทั่วต่ำไป[21] และไวรัสระบาดทั่ว H1N1/09 เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หลักที่ทำให้มีผู้ป่วยในช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่ใน ค.ศ. 2009/10[22]
งานวิจัยจากอิมพิเรียลคอลเลจลอนดอนเปิดเผยว่า[23] ไม่เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล H1N1/09 สามารถทำให้เซลล์ปอดติดเชื้อ ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจะติดเชื้อแค่เซลล์ที่มีหน่วยรับความรู้สึกประเภท a2-6 ซึ่งมักอยู่ในจมูกและลำคอ แต่ H1N1/09 สามารถติดเชื้อเซลล์ที่มีหน่วยรับความรู้สึกประเภท a2-3 ได้ ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมผู้ป่วยบางคนถึงมีอาการทางเดินหายใจรุนแรง
ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสระบาดทั่ว H1N1 ในสหรัฐ 3,900 คน ซึ่งบางครั้งนำไปเทียบกับผู้เสียชีวิตรายปีจาก"ไข้หวัดใหญ่" 36,000 คนต่อปี ซึ่งมักเสียชีวิตในฤดูหนาว แม้ว่าจำนวนนี้เป็นแค่จำนวนประมาณการ[24] อัตราผู้เสียชีวิตจาก H1N1 ในสหรัฐ ถูกคำนวณไว้ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 จาก CDC อยู่ที่น้อยกว่าร้อยละ 0.02[25] และมีการคำนวณในอังกฤษอย่างชัดเจนที่ร้อยละ 0.026[26]
วัคซีน
[แก้]วัคซีนที่มีไว้ป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลไม่สามารถป้องกันได้ ในปลายเดือนตุลาคม มีการจำหน่วยวัคซีนในอเมริกาเหนือ และมีการผลิตวัคซีนสามพันล้านโดสต่อปีแทนที่จะเป็นห้าล้านโดสต่อปี[27]
การกลายพันธุ์
[แก้]ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 สถาบันสาธารณสุขนอร์เวย์เผยแพร่รายงานว่า มีการค้นพบกรกลายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ H1N1 ที่อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงที่สุดในหมู่ผู้ติดเชื้อ ในรายงานนี้กล่าวด้วยว่า "การกลายพันธุ์ส่งผลต่อทักษะไวรัสให้เข้าไปในระบบหายใจลึกกว่าเดิม ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้น"[28]
การต่อต้าน
[แก้]ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 WHO รายงานตัวอย่างไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 2009 ที่ถูกทดสอบ 314 แบบ มีการต่อต้านโอเซลทามิเวียร์[29] ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง เพราะ 99.6% ของสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ตามฤดู H1N1 ถูกพัฒนาให้ต้านอะแมนตาดีนและไรแมนตาดีนแล้ว[30] ข้อมูลเมื่อ สิงหาคม ค.ศ. 2009 ไม่มีไข้หวัดใหญ่ชนิดใดที่ต่อต้านซานามิเวียร์เลย[31]
ดูเพิ่ม
[แก้]- การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
- การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศเม็กซิโก
- การระบาดทั่วของโควิด-19
- สาธารณสุข
- ไข้หวัดใหญ่ในสุกร
อ้างอิง
[แก้]- ↑ International Committee on Taxonomy of Viruses. "The Universal Virus Database, version 4: Influenza A". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 13, 2010.
- ↑ "Update: Novel Influenza A (H1N1) Virus Infections—Worldwide, May 6, 2009". Morbidity and Mortality Weekly Report. Centers for Disease Control and Prevention. May 8, 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-11-08.
- ↑ "Some immunity to novel H1N1 flu found in seniors". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-23. สืบค้นเมื่อ 2021-08-14.
- ↑ "Swine Influenza A (H1N1) Infection in Two Children—Southern California, March–April 2009". Morbidity and Mortality Weekly Report. Centers for Disease Control and Prevention. 21 April 2009.
- ↑ MacKenzie, Debora (27 May 2009). "Deadly new flu virus in US and Mexico may go pandemic". New Scientist. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 28, 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-11-08.
- ↑ Emma Wilkinson (2009-05-02). "What scientists know about swine flu". BBC News.
- ↑ Seth Borenstein (2009-05-01). "Swine flu name change? Flu genes spell pig".
- ↑ Rabadan R (2009-04-28). "PRO/AH/EDR> Influenza A (H1N1) "swine flu": worldwide (04)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-27. สืบค้นเมื่อ 2009-11-30.
- ↑ MacKenzie, Debora (9 May 2009). "Swine flu: Can science save us from the second wave?". New Scientist (2707): 4–5. doi:10.1016/S0262-4079(09)61215-X. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 9, 2009. Alt URL
- ↑ Check, Hayden Erica (5 May 2009). "The turbulent history of the A(H1N1) virus". Nature. 459 (7243): 14–5. doi:10.1038/459014a. ISSN 1744-7933. PMC 7095218. PMID 19424121.
- ↑ Cohen Jon; Enserink Martin (1 May 2009). "As Swine Flu Circles Globe, Scientists Grapple With Basic Questions". Science. 324 (5927): 572–3. doi:10.1126/science.324_572. PMID 19407164.
- ↑ "2009 swine flu pandemic originated in Mexico, researchers discover". Science Daily. 27 June 2016. สืบค้นเมื่อ 18 March 2020.
- ↑ "Swine Influenza A (H1N1) Infection in Two Children—Southern California, March–April 2009". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 April 2009.
- ↑ "2009 H1N1 Pandemic (H1N1pdm09 virus)—CDC". 2019-06-11. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2019. บทความนี้รวมเอาเนื้อความจากแหล่งอ้างอิงนี้ ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ
- ↑ "WHO—Swine influenza". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 May 2014.
- ↑ Chan, Margaret (11 June 2009). "World now at the start of 2009 influenza pandemic". World Health Organization (WHO). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 October 2009. สืบค้นเมื่อ 25 October 2009.
- ↑ Wang, Taia T.; Palese, Peter (June 2009). "Unraveling the mystery of swine influenza virus". Cell. 137 (6): 983–85. doi:10.1016/j.cell.2009.05.032. PMID 19524497. S2CID 2861338.
- ↑ Fitzgerald DA (September 2009). "Human swine influenza A [H1N1]: practical advice for clinicians early in the pandemic". Paediatr Respir Rev. 10 (3): 154–58. doi:10.1016/j.prrv.2009.06.005. PMID 19651387.
- ↑ "Swine flu may have infected more than 100,000 Americans". The Atlanta Journal-Constitution. 17 May 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-19. สืบค้นเมื่อ 2021-08-14.
- ↑ Lisberg, Adam (June 7, 2009). "Swine flue may be scary, but 250 times as many die from regular flu (error in original title)". Daily News (New York). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-12. สืบค้นเมื่อ 2021-08-14.
- ↑ World Health Organization (22 December 2009). "Comparing deaths from pandemic and seasonal influenza". WHO. สืบค้นเมื่อ 15 April 2010.
- ↑ For example, Centers for Disease Control and Prevention (9 April 2010). "2009 H1N1 Flu:Situation Update". Centers for Disease Control and Prevention. สืบค้นเมื่อ 15 April 2010.
Most flu continues to be 2009 H1N1.
- ↑ Childs RA; Palma AS; Wharton S; และคณะ (September 2009). "Receptor-binding specificity of pandemic influenza A (H1N1) 2009 virus determined by carbohydrate microarray". Nat. Biotechnol. 27 (9): 797–99. doi:10.1038/nbt0909-797. PMC 3771066. PMID 19741625.
- ↑ "Seasonal influenza—flu symptoms & severity". CDC. 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-09-13.
An average of about 36,000 people per year in the United States die from influenza-related causes
- ↑ "CDC's swine flu toll: 4,000 dead, 22 million ill". Associated Press. 13 November 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2013. สืบค้นเมื่อ 2009-11-13.
Estimates of deaths caused by the swine flu have grown to nearly 4,000 since April . . . Swine flu has sickened about 22 million Americans since April
- ↑ Liam J Donaldson; Paul D Rutter; Benjamin M Ellis; และคณะ (10 December 2009). "Mortality from pandemic A/H1N1 2009 influenza in England: public health surveillance study". British Medical Journal. 339: b5213. doi:10.1136/bmj.b5213. PMC 2791802. PMID 20007665.
- ↑ "AFP: WHO cuts swine flu vaccine production estimate, 24 September 2009".
- ↑ ABC News http://www.abcnews.go.com/Health/wireStory?id=9138409 เก็บถาวร มิถุนายน 29, 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "Update on oseltamivir resistance to influenza H1N1 (2009) viruses" (PDF). World Health Organization (WHO). December 15, 2010. สืบค้นเมื่อ December 30, 2010.
- ↑ "2008–2009 Influenza Season Week 39 ending October 3, 2009". Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 2009-10-09. สืบค้นเมื่อ 2009-11-20.
- ↑ "2008–2009 Influenza Season Week 32 ending August 15, 2009". Flu Activity & Surveillance. Centers for Disease Control and Prevention. 2009-08-21. สืบค้นเมื่อ 2009-12-04.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Gene sequence information from Influenza Research Database
- Graphical Image of the viral makeup of the 2009 pandemic h1n1 virus เก็บถาวร 2010-03-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน—NEJM
- Health-EU portal EU response to influenza
- European Commission—Public Health EU coordination on Pandemic (H1N1) 2009
- Microscopic image of the H1N1 virus
- Microscopic image of the H1N1 virus