โซคคาร์ ดูคาเยฟ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
โซคคาร์ ดูคาเยฟ | |
---|---|
Дудин Джохар | |
ดูคาเยฟในปี 1991 | |
ประธานาธิบดีอิชเคเรีย คนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 1 พฤศจิกายน 1991 – 21 เมษายน 1996 | |
รองประธานาธิบดี | เซลิมคาน ยานดาร์บีเยฟ |
ก่อนหน้า | ประเดิมตำแหน่ง |
ถัดไป | เซลิมคาน ยานดาร์บีเยฟ (รักษาการ) |
นายกรัฐมนตรีอิชเครเรีย | |
ดำรงตำแหน่ง 9 พฤศจิกายน 1991 – 21 เมษายน 1996 | |
ก่อนหน้า | ประเดิมตำแหน่ง |
ถัดไป | เซลิมคาน ยานดาร์บีเยฟ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 15 พฤศจิกายน 1944[1] ยาลโครอย, สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตปกครองตนเองเชเชน-อินกูช, สหภาพโซเวียต |
เสียชีวิต | 21 เมษายน ค.ศ. 1996 เกคี-ชู,[2] สาธารณรัฐเชเชนแห่งอิชเคเรีย | (52 ปี)
ลักษณะการเสียชีวิต | ถูกลอบสังหารโดยอาวุธปืน |
เชื้อชาติ | ชาวเชเชน |
พรรคการเมือง | พรรคคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียต (1968–1990) NCChP (1990–1996) |
คู่สมรส | อัลลา ดูคาเยวา |
วิชาชีพ | นักบินทหาร |
รางวัล | 7 คน |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | สหภาพโซเวียต สาธารณรัฐเชเชนแห่งอิชเคเรีย |
สังกัด | กองทัพอากาศโซเวียต กองทัพอิชเคเรีย |
ประจำการ | 1962–1990 1991–1996 |
ยศ | พลตรี |
บังคับบัญชา | 326th Heavy Bomber Aviation Division (1987–1991) All (supreme commander, 1991–1996) |
ผ่านศึก | สงครามโซเวียต-อัฟกานิสถาน สงครามเชชเนียครั้งที่หนึ่ง X |
โซคคาร์ ดูคาเยฟ (อักษรละติน: Dzhokhar Dudaev; อักษรซีริลลิก: Джоха́р Муса́евич Дуда́ев) (15 เมษายน ค.ศ. 1944 - 21 เมษายน ค.ศ. 1996 เกิดที่หมู่บ้านยอฮาริ (Yalkhori) หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในเชชเนีย ตอนเด็กเขาและครอบครัวและประชาชาชนในแถบคอเคซั หลายล้านคนต้องย้ายไปอยู่ที่คาซัคสถานตามคำสั่งของ สตาลิน (ผู้นำสหภาพโซเวียตขณะนั้น) หลังจากใช้ชีวิต 13 ปีอยู่ที่นั้นเขาก็ได้กลับมายัง เชชเนียอีกครั้ง เขาเรียนจบสาขาช่างไฟฟ้าจาก รร.Chencheno-Ingushetia ก่อนไปเรียนต่อสถาบันฝึกการบินชั้นสูง Tambov ในปี 1966 เขากรอกใบสมัครว่าเป็นคนของแคว้น Ossetian เพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งแยกคนเชื้อสายเชเชน เขาทำงานในแผนก heavy bomber ประจำอยู่ที่ไซบีเรียและยูเครน ในปี 1971 เขาได้เข้าเรียนต่อในสถาบันการบิน Gagarin หลังจบตำแหน่งเขาก็เลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้เป็นพลตรีควบคุมหน่วยยุทธศาตร์การบินของกองทัพในเอสโตเนียในช่วง 1989 กระแสการเรียกร้องเอกราชรุนแรงมากจนประชาชนแห่กันออกมาตามท้องถนนทางมอสโก กองทัพสั่งให้ดูดาเยฟใช้กำลังจัดการกับฝูงชนแต่ดูดาเยฟปฏิเสธ ในปี 1990 เอสโตเนียประกาศแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต ดูดาเยฟได้ถูกส่งกลับกรอชนืยในปีนั้น เพื่อเป็นเกียรติแต่ดูดาเยฟได้มีการตั้งชื่อห้องพักในโรงแรมที่ดูดาเยฟนั่งสั่งการในช่วงนั้นว่า Dudaev suit ซึ่งยังมีอยู่จนถึงปัจจุบันนี้
สงครามเชชเนียครั้งที่ 1
[แก้]ตอนนั้นสหภาพโซเวียตใกล้จะสิ้นสุดเต็มทน มีการลุกขึ้นเรียกร้องเอกราชของชนกลุ่มน้อยทั่วสหภาพโซเวียต และทุกอย่างก็จบลงด้วย บอริส เยลซินผู้นำรัสเซียซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพโซเวียตประกาศเอกราช ในปี 1991 มิคาอิล กอร์บาชอฟ กลายเป็นผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต ได้ออกแถลงการสิ้นสุดระบบคอมมิวนิสต์และสหภาพโซเวียตในวันคริสต์มาสปีเดียวกันนั้น
เมื่อดูดาเยฟกลับสู่เชชเนีย ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกันกับดินแดนหลายๆส่วนของโซเวียตตอนนั้นกระแสชนชาตินิยมรุนแรงมาก รวมกับประวัติศาสตร์ของพวกเชเชน มีการต่อสู้อย่างนองเลือดกับพวกรัสเซียมาตลอด สืบย้อนกลับไปได้นับ 100 กว่าปี นับจากอิหม่าม ชามิล ในศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา แล้วดูดาเยฟก็พาชาวเชเชนประกาศเอกราช ในปี 1991 นั้นเอง เยลซินได้ประกาศสงครามกับเชชเนียทันที แต่ตอนนั้นกองทัพรัสเซียไม่ต่างอะไรกับคนอมโรค ด้วยการคอรัปชั่นอย่างหนักในกองทัพ ทหารที่เข้าสู่สงครามมีแต่คนว่างงาน และแม้กระทั่งเด็กต่ำกว่า 15 ปี แม้ทหารรัสเซียจะเคยรบในสงครามกองโจรกับพวกมูจาฮิดินในอัฟกานิสถาน แต่พวกเขาไม่มีประสบการณ์การรบในสงครามกลางเมืองมาก่อน ในขณะที่นักรบของพวกเชเชนเป็นพวกกรำศึกมาจาก อัฟกานิสถานมาก่อน หลายคนก็เป็นมูจาฮิดินในอัฟกานิสถานมาก่อนทำให้ขวัญของกองทัพรัสเซียเสียหายอย่างหนักจน บอริส เยลซิน ยอมเซ็นสัญญาสงบศึกชั่วคราวเป็นเวลา 3 ปี ในปี 1996
- ↑ "Конец мятежного генерала Джохара Дудаева". KM.RU Новости – новости дня, новости России, последние новости и комментарии.
- ↑ Milyon Birinci – Cahar Dudayev (ในภาษาตุรกี)