แอมฟลอรา
แอมฟลอรา Amflora | |
---|---|
อีเวนต์ | EH92-527-1 |
รหัสเอกลักษณ์ | BPS-25271-9 |
พืช | Solanum tuberosum L. |
โหมด | การเคลื่อนย้ายยีน |
วิธีแปลงพันธุกรรม | การแทรก |
พาหะ | pHoxwG[1] |
ผู้พัฒนา | สวอเลฟ เวบุลล์ ออเบีย (Svalöf Weibull AB)[1] |
ลักษณะปรากฏเพิ่ม | ลดการผลิตแอมิโลส, เพิ่มความต้านทานต่อกานามัยซิน |
สารที่ใช้ดัดแปรพันธุกรรมยีน | Granule bound starch synthase, นีโอมัยซิน ฟอสโฟทรานเฟอเรส II |
แอมฟลอรา (Amflora) หรือที่รู้จักในชื่อ EH92-527-1 เป็นพันธุ์ปลูกมันฝรั่งดัดแปลงพันธุกรรม ที่พัฒนาโดยบริษัท บีเอเอสเอฟ แพลนท์ซายน์ (BASF Plant Science) หัวมันฝรั่งแอมฟลอราผลิตสตาร์ซชนิดอะไมโลเพกทินบริสุทธิ์ ที่นำมาแปรรูปเป็นแป้งมันฝรั่งเหนียว (waxy potato starch) คณะกรรมาธิการยุโรปได้อนุมัติการใช้ในทางอุตสาหกรรมในสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553[2] ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 แอมฟลอราถูกถอนออกจากตลาดในสหภาพยุโรป
ประวัติ
[แก้]ได้รับการขึ้นทะเบียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2539 แอมฟลอราพัฒนาโดยนักพันธุศาสตร์ เลนนาร์ต อาริเยเฟลท์ (Lennart Erjefält) และนักวิชาการเกษตร ยูริ ชานโน (Jüri Känno) ของบริษัทสวอเลฟ เวบุลล์ ออเบีย (Svalöf Weibull AB)[1]
หลังจากการอนุมัติของคณะกรรมาธิการยุโรป บริษัทบีเอเอสเอฟประกาศว่าจะเริ่มผลิตหัวพันธุ์ของแอมฟลอราตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ในบริเวณเวสเทิร์นพอเมอเรเนียของเยอรมนี (พื้นที่ 20 เฮกตาร์) และในสวีเดน (พื้นที่ 80 เฮกตาร์) นอกจากนี้ยังประกาศว่าจะทำการปลูกในพื้นที่ 150 เฮกตาร์ในสาธารณรัฐเช็ก "เพื่อจุดประสงค์ทางการค้าร่วมกับพันธมิตรที่ไม่เปิดเผยชื่อ"[3]
เนื่องจากขาดการยอมรับพืชดัดแปลงพันธุกรรมในยุโรป บริษัท บีเอเอสเอฟ แพลนท์ซายน์ จึงตัดสินใจในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 ที่จะหยุดกิจกรรมเชิงพาณิชย์โดยจะไม่จำหน่ายแอมฟลอราในยุโรปอีกต่อไป แต่จะยังคงขออนุมัติด้านกฎระเบียบสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนในอเมริกาและเอเชียต่อไป[4]
ใน พ.ศ. 2556 ศาลสหภาพยุโรปได้เพิกถอนการอนุมัติการจดทะเบียนแอมฟลอรา โดยกล่าวว่าคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปฝ่าฝืนกฎในการอนุมัติเมื่อปี 2553[5]
ชีววิทยา
[แก้]พันธุ์มันฝรั่งชนิดเหนียว (waxy potato) ผลิตสตาร์ซมันฝรั่งได้สองประเภทหลัก ได้แก่ แอมิโลสและอะไมโลเพกทิน ซึ่งชนิดหลังนี้มีประโยชน์ทางอุตสาหกรรมมากที่สุด มันฝรั่งแอมฟลอราได้รับการดัดแปลงให้มีสายอาร์เอ็นเอที่มีลำดับเบสเป็นคู่สมกับอาร์เอ็นเอนำรหัส (antisense RNA) ที่ต่อต้านเอนไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์แอมิโลส ซึ่งเป็นชนิดที่ติดอยู่กับเม็ดสตาร์ซ (granule-bound starch synthase, GBSS)[6] ส่งผลให้มันฝรั่งผลิตอะไมโลเพกทินได้เกือบทั้งหมด และมีประโยชน์มากกว่าสำหรับอุตสาหกรรมแป้ง
การใช้งานทางอุตสาหกรรม
[แก้]สตาร์ซมันฝรั่งปกติประกอบด้วยโมเลกุล 2 ชนิด คือ อะไมโลเพกทิน (ร้อยละ 80) ซึ่งมีประโยชน์มากในฐานะโพลีเมอร์สำหรับอุตสาหกรรม และแอมิโลส (ร้อยละ 20) ซึ่งมักสร้างปัญหาการคืนตัว (retrogradation) ของสตาร์ซ ซึ่งต้องทำการดัดแปรโดยใช้ปฏิกิริยาเคมีที่อาจมีต้นทุนสูง
หลังจากความพยายามในการวิจัยนานสองทศวรรษ[7] นักเทคโนโลยีชีวภาพของบริษีทบีเอเอสเอฟ ประสบความสำเร็จโดยการใช้พันธุวิศวกรรมในการสร้างมันฝรั่งพันธุ์ปลูก "แอมฟลอรา" ซึ่งยีนที่ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แอมิโลสถูกปิดลง ดังนั้นมันฝรั่งจึงไม่สามารถสังเคราะห์แอมิโลสที่เป็นที่ต้องการของตลาดน้อยกว่า
มันฝรั่งแอมฟลอราจะถูกแปรรูปและขายเป็นสตาร์ซให้กับอุตสาหกรรมที่ต้องการแป้งมันฝรั่งเหนียวที่มีเพียงอะไมโลเพกตินเท่านั้น แอมฟลอรามีเป้าหมายสำหรับการใช้งานทางอุตสาหกรรมเท่านั้น เช่นการผลิตกระดาษ และการใช้งานด้านเทคนิคอื่น ๆ[8] ยุโรปผลิตแป้งมันฝรั่งธรรมชาติมากกว่าสองล้านเมตริกตันต่อปี และบริษัทบีเอเอสเอฟ หวังว่าจะเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่นี้ด้วยผลิตภัณฑ์มันฝรั่งแอมฟลอรา
การใช้งานอื่น ๆ ที่เป็นไปได้
[แก้]ตามรายงานของ เดอะนิวยอร์กไทมส์ บริษัทบีเอเอสเอฟมีคำขอสองครั้งเพื่อใช้เยื่อมันฝรั่งแอมฟลอราเป็นอาหารสัตว์[7]
ความขัดแย้งทางการเมือง
[แก้]องค์กรสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น กรีนพีซ ไม่เห็นด้วยกับการนำมันฝรั่งดัดแปลงพันธุกรรมแอมฟลอราออกสู่ตลาด กระบวนการอนุมัติที่ใช้เวลานานทำให้ผู้สนับสนุนมันฝรั่งบางรายผิดหวัง นักวิทยาศาสตร์ของบริษัทบีเอเอสเอฟกล่าวกับ เดอะนิวยอร์กไทมส์ ว่า "เป็นเรื่องยากเมื่อคุณเห็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมต้องเวียนซ้ำกระบวนการครั้งแล้วครั้งเล่า การตัดสินใจเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ แต่เป็นเรื่องการเมือง"[7] หลังจากที่มันฝรั่งได้รับการอนุมัติ พรรคการเมืองยูโรเปียนกรีนส์ (European Greens) และ ลูกา ซายา (Luca Zaia) รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของอิตาลีในขณะนั้น ได้วิพากษ์วิจารณ์การอนุมัติดังกล่าว[9] ขบวนการเกษตรกรนานาชาติ ลา เบีย กัมเปซินา (La Via Campesina) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553 โดยวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าวด้วย[10]
ปฏิกิริยาของนักการเมืองกรีซ
[แก้]หลังจากที่แอมฟลอราได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553 ในวันต่อมา ตาซอส กูเวลิส (Αναστάσιος (Τάσος) Κουράκης) สมาชิกสภาเขตเลือกตั้งจังหวัดเทสซาโลนีกี อา (Εκλογική περιφέρεια Α΄ Θεσσαλονίκης) แนวร่วมฝ่ายซ้ายจัด ได้ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของกรีซประกาศให้การผลิตมันฝรั่งแอมฟลอราผิดกฎหมายในกรีซ[11] เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553 กริตอน อาร์เซนิส (Κρίτων Αρσένης) สมาชิกสภายุโรปจากพรรคขบวนการสังคมนิยมแพนเฮลเลนิก (Πανελλήνιο Σοσιαλιστικό Κίνημα, ΠΑΣΟΚ หรือ PASOK) ได้ยื่นกระทู้ที่รัฐสภายุโรปเพื่อสอบถามเกี่ยวกับผลที่จะตามมาจากแอมฟลอรา
มารีอา ดามานากี (Μαρία Δαμανάκη) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค PASOK ยอมรับการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการยุโรป ในขณะที่ เอกาเตรีนี บัตเจลี (Αικατερίνη Μπατζελή) รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของกรีซกล่าวว่าการผลิตแอมฟลอราจะไม่ได้รับอนุญาตในกรีซ[12]
ขั้นตอนการออกใบอนุญาต
[แก้]แอมฟลอราจะไม่สามารถขายภายในสหภาพยุโรปได้หากไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งจะสามารถออกใบอนุญาตได้ภายหลังจากการลงคะแนนเสียงของคณะมนตรียุโรปผ่านด้วยเกณฑ์การสนับสนุนร้อยละ 74 ขึ้นไปเท่านั้น มีการจัดให้มีการลงคะแนนเสียงสองรอบ ครั้งแรกโดยผู้เชี่ยวชาญในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 และครั้งที่สองโดยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 แต่ทั้งสองไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 74 แม้ว่าการลงคะแนนจะกระทำโดยออกเสียงลงคะแนนเป็นการลับ แต่ เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่าจากการลงคะแนนเสียง แอมฟลอราได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของเยอรมนีและเบลเยียม และถูกคัดค้านโดยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของอิตาลี ไอร์แลนด์ และออสเตรีย ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของฝรั่งเศสและบัลแกเรียงดออกเสียง[7]
หลังจากได้รับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553 บริษัทบีเอเอสเอฟได้ประกาศความตั้งใจที่จะขออนุมัติมันฝรั่งดัดแปลงพันธุกรรมอีกหลายพันธุ์ปลูก เช่น มันฝรั่งพันธุ์ฟอร์ทูนา (Fortuna)[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 "Notification for Placing the Potato Clone EH92-527-1, Being Genetically Modified for Increased Content of Amylopectin, on the Market" (PDF). Amylogene HB. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 4 ตุลาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 17 สิงหาคม 2011.
- ↑ Benner, Susanne (2 มีนาคม 2010). "European Commission approves Amflora starch potato". BASF - Corporate Website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 ธันวาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2010.
- ↑ 3.0 3.1 "GM potatoes: BASF at work". GMO Compass. 5 มีนาคม 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 พฤษภาคม 2010. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2010.
- ↑ Kanter, James (16 มกราคม 2012). "BASF to Stop Selling Genetically Modified Products in Europe". The New York Times.
- ↑ Dunmore, Charlie (13 ธันวาคม 2013). "EU court annuls approval of BASF's Amflora GMO potato". Reuters. สืบค้นเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2015.
- ↑ "Potato EH92-527-1". GMO compass database. 9 ตุลาคม 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 ตุลาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2014.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 Rosenthal, Elisabeth (24 กรกฎาคม 2007). "A Genetically Modified Potato, Not for Eating, Is Stirring Some Opposition in Europe". The New York Times.
- ↑ Tagliabue, John (10 มิถุนายน 2010). "A Potato Remade for Industry Has Some Swedes Frowning". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2015.
- ↑ Η Ευρ. Επιτροπή ενέκρινε την καλλιέργεια της μεταλλαγμένης πατάτας Amflora. ΠΑΣΕΓΕΣ. 2 มีนาคม 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 กรกฎาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2010.
- ↑ "GM Potato"AmFlora" – Commission defies farmers and biodiversity". La Via Campesina (ภาษาอังกฤษ). 8 มีนาคม 2010. สืบค้นเมื่อ 26 กันยายน 2023.
- ↑ Κουράκης, Τάσος (3 มีนาคม 2010). Να απαγορευτεί η καλλιέργεια της μεταλλαγμένης πατάτας Amflora από τους αγρότες της χώρας μας (ภาษากรีก). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 สิงหาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 26 กันยายน 2023.
- ↑ «Οχι» Μπατζελή σε μεταλλαγμένη πατάτα Amflora. Η Ναυτεμπορική (ภาษากรีก). 4 มีนาคม 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 กันยายน 2011.
บรรณานุกรม
[แก้]- "Potato Clone EH92-527-1", Summary Information Format (SNIF) for Products Containing Genetically Modified Higher Plants (GMHPs) (PDF), Institute for Health and Consumer Protection, เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 มีนาคม 2012
- "Part II Summary", Application for Amylopectin Potato Event EH92-527-1 according to Regulation (EC) No 1829/2003 (PDF), คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 3 ตุลาคม 2006, สืบค้นเมื่อ 17 สิงหาคม 2011
- "Protocol", Event-specific Method for the Quantification of Amylopectin Potato Event EH92-527-1 Using Real-time PCR (PDF), Institute for Health and Consumer Protection, เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 มีนาคม 2012
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ แอมฟลอรา