แก้วกาญจนา
แก้วกาญจนา หรือ เขียวหมื่นปี หรือ อโกลนีมา (Aglaonema) เป็นสกุลของพืชไม้ประดับที่มีความสวยงามที่ใบ ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งไม้ประดับ [1] เป็นลำดับพืชที่มีมากกว่า 40 ชนิด ปัจจุบันมีการปรับปรุงพันธ์เพื่อให้สีสรรสวยงามนิยมเพาะเลี้ยงเพื่อความสวยงาม และจัดเป็นไม้มงคล ชื่อภาษาอังกฤษ มีรากศัพท์จากภาษากรีก คำว่า aglos แปลว่า แสงสว่าง หรือความสดใส คำว่า nema แปลว่า thread คือเส้นใยบาง ๆ หรือเกลียว [2] มีการตั้งชื่อสายพันธุ์ภาษาไทยที่สื่อความหมายทางโชคลาภ เช่น กวักมหามงคล บัลลังก์ทับทิม บัลลังก์ทอง หยกกาญจนา
ลักษณะทั่วไป
[แก้]ไม้ในสกุลเขียวหมื่นปีมีถิ่นกำเนิดกระจัดกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย และแอฟริกา ตามป่าที่มีฝนตกชุก และมีความชื้นสูง คนไทยรู้จักต้นไม้ชนิดนี้ในชื่อของ ว่านขันหมาก มาก่อน ใช้ปลูกเป็นไม้กระถางในร่มหรือปลูกลงดินในแปลง ตามร่มต้นไม้ใหญ่ เป็นไม้ที่ชอบความชุ่มชื่น ไม่ชอบแสงแดดโดยตรง เป็นไม้ที่ลักษณะคล้ายไม้ในสกุลสาวน้อยประแป้ง แต่มีขนาดเล็ก และมีการเจริญเติบโตช้ากว่ามาก
เขียวหมื่นปีมีลักษณะลำต้นตั้งตรง ข้อถี่ แตกใบอ่อนตรงส่วนยอดของลำต้นทีละใบ แต่ก็มีเขียวหมื่นปีบางชนิดทอดลำต้นเลื้อยไปตามดินแตกรากได้ทุกข้อของลำต้น ก้านใบยาว ก้านใบส่วนที่ติดใบมีลักษณะกลม ส่วนที่เป็นกาบ ใบมีรูปคล้ายใบพาย แคบ ยาวเรียว บางชนิดมีใบป้อมคล้ายใบโพธิ์ ใบสีเขียวเข้มเป็นมันมากกว่าพวกสาวน้อยประแป้ง นอกจากนี้ใบยังอาจมีลายสีเทาเงินตลอดทั้งใบ และบางชนิดอาจมีลายสีแดงและจุดสีขาวบนใบบ้างก็มี ดอกของเขียวหมื่นปีเหมือนกับดอกไม้ในวงศ์บอนทั่วๆไป คือเป็นกาบหุ้มปลีเกสร ออกดอกเป็นกลุ่มสีเขียวอ่อน หรือสีขาวอมเขียว เมื่อตัดลำต้นออกจะมียางที่ทำให้คันได้ แต่ความรุนแรงไม่เท่ากับยางของสาวน้อยประแป้ง
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
[แก้]เขียวหมื่นปีเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนตามป่าที่มีฝนตกชุก จึงเป็นไม้ที่ต้องการความชื้นในอากาศสูง ชอบอยู่ในที่ร่ม หรือที่มีแดดรำไร สามารถเจริญงอกงามได้ดีในที่ที่มีแสงสว่างเล็กน้อย และยังทนต่ออากาศที่แห้งแล้งและความชื้นต่ำได้ดี ถึงแม้จะปลูกเลี้ยงในที่ที่มีแสงสว่างจากดวงไฟเพียง 10-15 แรงเทียนก็สามารถเจริญงอกงามอยู่ได้ ถ้าเขียวหมื่นปีได้รับแสงสว่างมากก้านใบจะยกชูตั้งขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าได้รับแสงสว่างน้อยก้านใบจะราบลู่ลงขนานกับพื้น
อุณหภูมิที่เขียวหมื่นปีสามารถเจริญงอกงามได้ดีอยู่ในระหว่าง 75-85 องศาฟาเรนไฮด์ (24-30°C) แต่ถึงแม้อุณหภูมิในตอนกลางคืนจะลดลงไม่เกิน 10 องศาฟาเรนไฮด์ เขียวหมื่นปีสามารถปรับตัวอยู่ได้ นอกจากนี้เขียวหมื่นปียังสามารถปลูกเลี้ยงในน้ำบริสุทธิ์ได้ โดยล้างรากให้สะอาดแล้วนำไปปลูกในขวด หรือแจกันใส่น้ำยึดต้นให้แน่นด้วยการใช้สำลีอุดปากขวดหรือแจกัน หรือกรวดเม็ดเล็กๆ ใส่ทับลงไปก็ได้เปลี่ยนน้ำทุกๆ10-15วัน ถ้าเป็นน้ำประปาควรพักไว้สักสองคืนก่อน เพื่กให้คลอรีนระเหยออกค่อยนำมาปลูกเลี้ยง และการใส่ปุ๋ยน้ำก็ควรใช้อย่างระมัดระวัง
การปลูกเขียวหมื่นปีเพื่อใช้เป็นไม้ประดับภายใน นิยมทั้งปลูกประดับเพียงต้นเดี่ยวๆ ในกระถางเล็กๆ หรือจะปลูกรวมเป็นกลุ่มใหญ่ๆก็สวยงามเช่นเดียวกัน แต่ต้องคอยระมัดระวังให้เครื่องปลูกชุ่มอยู่เสมอ หากจะปลูกประดับอยู่นอกอาคารเป็นที่ที่ร่มรำไร ไม่ควรตั้งไว้ในที่ที่มีแดดจัดๆ มากนัก
ตลาดไม้สกุลเขียวหมื่นปี
[แก้]ไม้ประดับสกุลเขียวหมื่นปีนไม้ประดับที่ตลาดภายในประเทศมีความต้องการมากพอๆกันกับพวกสาวน้อยประแป้ง พันธุ์ที่ตลาดต้องการได้แก่พันธุ์ นกแก้วราชินี และพันธฺ์ต่างๆ ลักษณะการผลิตส่วนมากจะปลูกลงในกระถาง 10 นิ้ว โดยปลูกหลายๆต้นในกระถางเดียวกันเพื่อให้ขึ้นเป็นกลุ่มกอแลดูสวยงาม ความต้องการใช้ของลูกค้าส่วนมาก จะนำไปใช้เป็นไม้ประดับภายในอาคาร การผลิตและซื้อขายกันส่วนมากเป็นการผลิตของเกษตรกรรายย่อย อยูบริเวณบางลำหรุ คลอง 6 ปทุมธานี บางกรวย และ บางใหญ่
รายชื่อสายพันธุ์
[แก้]- เขียวหมื่นปี (อังกฤษ : Chinese Evergreen;ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aglaonema spp.)
- กวักมหามงคล
- กอบทรัพย์
- ขันหมากชาววัง
- คฑาทอง
- คฑามหามงคล
- คฑาเงิน
- ดุจอัญมณี
- ทรัพย์เศรษฐี
- บัลลังก์ทอง
- บัลลังก์ทับทิม
- บารมีรุ่งเรือง
- ประกายเพชร
- พาร่ำรวย
- มณีล้อมเพชร
- มังกรหยก
- ลายมังกร
- ลิปสติก
- วาเลนส์ไทน์
- สยามออโรร่า
- สยามไวโอเลต
- หยกกาญจนา
- หลักทรัพย์
- อัญมณี
- อุดมทรัพย์
- เพชรน้ำหนึ่ง
- เลกาซี่
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-01. สืบค้นเมื่อ 2010-01-12.
- ↑ http://www.thaienv.com/th/index.php?option=com_content&task=view&id=338&Itemid=27[ลิงก์เสีย]
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/plants/webcontent3/interactive_key/key/describ/keawmuenpee.htm
http://www.the-than.com/FLower/maipradab/m.html เก็บถาวร 2012-06-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน