เทือกเขาเกรตดิไวดิง
เกรตดิไวดิง | |
---|---|
| |
จุดสูงสุด | |
ยอด | ยอดเขาคอสซีอัสโก (Snowy Mountains) |
ความสูง เหนือระดับน้ำทะเล | 2,228 เมตร (7,310 ฟุต) |
พิกัด | 36°27′S 148°16′E / 36.450°S 148.267°E |
ข้อมูลเชิงขนาด | |
ยาว | 3,500 กม. (2,175 ไมล์) เหนือ–ใต้ |
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ | |
ประเทศ | ออสเตรเลีย[1] |
รัฐ | นิวเซาท์เวลส์, ควีนส์แลนด์ และ วิกทอเรีย |
เขต/อำเภอ | ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี |
พิกัดเทือกเขา | 25°S 147°E / 25°S 147°E |
ข้อมูลทางธรณีวิทยา | |
อายุหิน | คาร์บอนิเฟอรัส |
เทือกเขาเกรตดิไวดิง (อังกฤษ: Great Dividing Range) หรือ อีสเทิร์นไฮแลนส์ (อังกฤษ: Eastern Highlands) เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย วางตัวตามแนวชายฝั่ง พาดตามรัฐควีนส์แลนด์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐวิกตอเรีย เป็นระยะทาง 3,700 กิโลเมตร (2,300 ไมล์) ถือว่าเป็นเทือกเขาที่มีความยาวเป็นอันดับสามของโลก มันเป็นแนวสันปันน้ำ มีแม่น้ำที่ไหลด้านตะวันออกจากที่ราบสูงกับมหาสมุทรแปซิฟิก มียอดเขาคอสซีอัสโก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขานี้และประเทศออสเตรเลีย โดยมีความสูง 2,230 เมตร (7,316 ฟุต )[2] การสำรวจเทือกเขานี้ครั้งแรกนั้น สำรวจโดยชาวยุโรปที่ย้ายเข้าไปอยู่ในประเทศออสเตรเลียในปี ค.ศ. 1813 โดยภูมิศาสตร์ของที่นี่เหมาะสำหรับการเกษตรกรรม และการทำเหมืองแร่ นอกจากนี้มันยังมีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์[3]
ประวัติ
[แก้]การสำรวจครั้งแรก
[แก้]การสำรวจเทือกเขาเกรตดิไวดิงครั้งแรกเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1813 โดยชาวยุโรปชื่อ Gregory Blaxland, William Charles Wentworth และ William Lawson. T การสำรวจในครั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการอพยพชาวยุโรปจากชายฝั่งตะวันออกเข้าไปภายในของประเทศออสเตรเลียหรือในชนบท ที่ก่อนหน้านี้จะถูกกั้นโดยที่ราบสูงของเทือเขานี้[4]
ภูมิอากาศ
[แก้]ภูมิอากาศของเทือกเขาเกรตดิไวดิงมีลักษณะที่แตกต่างกันตามตำแหน่งที่ตั้ง แถบชายฝั่ง ไหล่เขาด้านตะวันตก และแนวเขาทางทิศตะวันตกแถบชายฝั่งจะมีภูมิอากาศอบอุ่น พื้นที่แถบภูเขาจะหนาวเย็น และหิมะตกในช่วงฤดูหนาว และแนวเขาทางทิศตะวันตกมีปริมาณหิมะน้อยลงกว่าพื้นที่แถบภูเขา นอกจากนี้เทือกเขานี้ยังมีผลกระทบต่อภูมิอากาศของประเทศออสเตรเลีย เพราะมันสามารถกั้นทิศทางและความชื้นจากทะเลมายังประเทศออสเตรเลียได้ ทำให้ทางตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศออสเตรเลียมีอากาศแห้งแล้งและเป็นพื้นที่เงาฝน[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Australia.gov. "Australian Rocks and Mountains". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 กรกฎาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 18 กันยายน 2012.
- ↑ Mountain Professor. "The Great Dividing Range". สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2556.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Merriam Webster. "Great Dividing Range". สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2556.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ENCYCLOPÆDIA BRITANNICA. "Great Dividing Range". สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน พ.ศ. 2556.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Ask. "What Is the Climate of the Great Dividing Range?". สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2556.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย]