ข้ามไปเนื้อหา

เด็กหญิงอัฟกัน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เด็กหญิงอัฟกัน
ภาพวาด
ปี1984
สื่อสไลด์ฟิล์มสีโกดาโครม 64, กล้องนิกอน FM2 และเลยส์นิกกอร์ 105mm Ai-S F2.5
หัวเรื่องชาร์บาต กูลา
เจ้าของสตีฟ แมคเคอรี

เด็กหญิงอัฟกัน (อังกฤษ: Afghan Girl) เป็นภาพถ่ายบุคคลของชาร์บาต กูลา (ปาทาน: شربت ګله, ออกเสียง: [ˈʃaɾbat]; เกิด ป. 1972) หรือรู้จักในชื่อ ชาร์บาต บีบี (Sharbat Bibi) ถ่ายในปี 1984 โดยช่างภาพข่าว สตีฟ แมคเคอรี[1] ภาพนี้ปรากฏเป็นปกบนฉบับเดือนมิถุนายน 1985 ของนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟิก ภาพนี้เป็นของเด็กหญิงตาสีเขียวใต้ผ้าคลุมศีรษะสีแดง กำลังจ้องมาที่กล้องอย่างดุดัน แรกเริ่มไม่ทราบแน่ชัดว่าบุคคลในภาพคือใคร จนกระทั่งในช่วงต้นปี 2002 ที่ซึ่งเธอถูกระบุว่าคือชาร์บาต กูลา ขณะนั้นเธอเป็นเด็กหญิงชาวปาทาน อาศัยอยู่ใกล้กับนาซีร์บากในค่ายผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานในประเทศปากีสถาน ระหว่างที่อัฟกานิสถานถูกสหภาพโซเวียตปกครอง

มีการเชื่อมโยงภาพถ่ายนี้กับ โมนาลิซา ภาพเขียนชื่อดังของเลโอนาร์โด ดา วินชี[2][3] และได้รับการเรียกขานว่าเป็น "โมนาลิซาโลกที่สามของโลกที่หนึ่ง" (the First World's Third World Mona Lisa)[4] ภาพนี้กลายมาเป็นภาพ "สัญลักษณ์" (emblematic) ของ "สตรีผู้ลี้ภัยในค่ายห่างไกลบางค่าย" ผู้ซึ่งควรค่าแก่ความหลงใหลจากผู้ชมภาพชาวตะวันตก[5] นอกจากนี้ภาพนี้ยังกลายเป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศอัฟกานิสถานในสายตาตะวันตก

อ้างอิง

[แก้]
  1. Ismail Khan (February 25, 2015). "Pakistan issues CNIC to Nat Geo's famed 'Afghan Girl'". DAWN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 June 2015. สืบค้นเมื่อ 7 September 2015.
  2. Zoroya, Greg (2002-03-13). "National Geographic tracks down Afghan girl". USA Today. Gannett Company. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-28. สืบค้นเมื่อ 2012-02-14.
  3. "Hollywood movie poster at the Kabul Cinema". Meridian International Center. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-22. สืบค้นเมื่อ 2012-12-04.
  4. Wendy S. Hesford; Wendy Kozol, บ.ก. (2005). Just Advocacy?: Women's Human Rights, Transnational Feminisms, and the Politics of Representation. Rutgers University Press. p. 1. ISBN 9780813535890.
  5. Cain, Maureen; Howe, Adrian (2008-11-03). Women, Crime and Social Harm: Towards a Criminology for the Global Age. Bloomsbury Publishing. pp. 87–. ISBN 9781847314703. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 February 2017. สืบค้นเมื่อ 7 September 2015.