เดอะ เมทริกซ์ เรฟโวลูชั่นส์ ปฏิวัติมนุษย์เหนือโลก
เดอะ เมทริกซ์ เรฟโวลูชั่นส์ ปฏิวัติมนุษย์เหนือโลก | |
---|---|
กำกับ | พี่น้องวาชอวสกี |
เขียนบท | พี่น้องวาชอวสกี |
สร้างจาก | ตัวละคร โดย พี่น้องวาชอวสกี |
อำนวยการสร้าง | โจเอล ซิลเวอร์ |
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | บิลล์ โพป |
ตัดต่อ | แซ็ก สเตนเบิร์ก |
ดนตรีประกอบ | ดอน เดวิส |
บริษัทผู้สร้าง |
|
ผู้จัดจำหน่าย | วอร์เนอร์บราเธอส์พิกเชอส์ |
วันฉาย |
|
ความยาว | 129 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐ[2][3] |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 110–150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[4][5] |
ทำเงิน | 427.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[5] |
เดอะ เมทริกซ์ เรฟโวลูชั่นส์ ปฏิวัติมนุษย์เหนือโลก (อังกฤษ: The Matrix Revolutions) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวโลดโผนและนิยายวิทยาศาสตร์ ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2003 เขียนบทและกำกับโดย พี่น้องวาชอวสกี เป็นภาพยนตร์ภาคต่อของ เดอะ เมทริกซ์ รีโหลดเดด สงครามมนุษย์เหนือโลก (2003) และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามในภาพยนตร์ชุด เดอะ เมทริกซ์
ภาพยนตร์ฉายพร้อมกันใน 108 ดินแดนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 จัดจำหน่ายโดย วอร์เนอร์บราเธอส์พิกเชอส์ ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในไตรภาคเดิมของภาพยนตร์ชุด เส้นเรื่องของ เมทริกซ์ ดำเนินต่อไปในวิดีโอเกม เดอะ เมทริกซ์ออนไลน์ เดอะ เมทริกซ์ เรฟโวลูชั่นส์ เป็นภาพยนตร์คนแสดงเรื่องแรกที่ฉายพร้อมกันในโรงภาพยนตร์ระบบปกติและไอแมกซ์ ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ ภาพยนตร์ทำเงินมากกว่า 427 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่องที่สี่ เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์ เริ่มถ่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 กำหนดฉายวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2021
โครงเรื่อง
[แก้]นีโอและเบนนอนหมดสติอยู่ในห้องพยาบาลของยานแฮมเมอร์ ในเมทริกซ์นีโอติดอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดินที่ชื่อว่า Mobil Ave (คำที่เกิดจากการสลับตัวอักษร Limbo) ดินแดนเปลี่ยนผ่านระหว่างเมทริกซ์และเมืองเครื่องจักร เขาพบกับครอบครัวของโปรแกรมรวมทั้งเด็กหญิงที่ชื่อซาติ พ่อของเธอบอกกับนีโอว่ารถไฟใต้ดินนี้ถูกควบคุมโดยเทรนแมน โปรแกรมที่ภักดีต่อเมโรวินเจี้ยน เมื่อนีโอพยายามขึ้นรถไฟไปพร้อมกับครอบครัวนี้ เทรนเมนปฎิเสธและเอาชนะเขาได้
เซอเรฟตัวแทนออราเคิลติดต่อมอร์เฟียสและทรินิตี้ซึ่งได้แจ้งข่าวพวกเขาเกี่ยวกับนีโอที่ติดอยู่ เซอเรฟ มอร์เฟียส และทรินิตี้เข้าไปยังคลับเฮลซึ่งพวกเขาเผชิญหน้ากับเมโรวินเจี้ยนโดยบังคับให้เขาปล่อยตัวนีโอ นีโอไปพบกับออราเคิลซึ่งเผยว่าสมิทตั้งใจทำลายทั้งเมทริกซ์และโลกจริง เธอบอกว่า”ทุกสิ่งที่มีจุดเริ่มต้นนั้นมีจุดจบ” และว่าสงครามจะสิ้นสุดลง หลังจากนีโอออกไปสมิทกลุ่มหนึ่งก็เข้ายึดครองร่างของซาติและเซอเรฟ ออราเคิลยอมให้ถูกยึดครองร่างแต่โดยดี จากนั้นสมิทก็ได้รับพลังการมองเห็นอนาคตของออราเคิล แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเธอหายไปตลอดกาลหรือไม่
ในโลกจริงลูกเรือของเนบูคาเนซซาและแฮมเมอร์เจอยานของไนโอบี โลกอส และทำให้ยานใช้งานได้อีกครั้ง พวกเขาสอบสวนเบนซึ่งบอกว่าเขาจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ในขณะที่กัปตันวางแผนป้องกันไซออน นีโอขอยานลำหนึ่งเพื่อเดินทางไปยังเมืองเครื่องจักร ไนโอบีซึ่งเคยเจอกับออราเคิลได้มอบยานโลกอสให้เขาไป นีโอออกเดินทางพร้อมกับทรินิตี้ เบนซึ่งซ่อนตัวอยู่ในโลกอสจับทรินิตี้เป็นตัวประกัน นีโอรู้ว่าเบนถูกสมิทควบคุมร่างอยู่จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น เบนเผาตาของนีโอด้วยสายไฟฟ้าทำให้เขาตาบอดถาวร นีโอค้นพบความสามารถให้การรับรู้อะไรก็ตามที่เป็นส่วนหนึ่งของซอร์ซโคัดของเครื่องจักรในโลกจริงเป็นการเรืองแสงสีทอง เขาเห็นและฆ่าเบน ทรินิตี้ขับยานไปยังเมืองเครื่องจักร
ไนโอบีและมอร์เฟียสรีบกลับไปยังไซออนบนยานแฮมเมอร์เพื่อช่วยพวกมนุษย์ปกป้องเมือง อู่เรือไซออนเต็มไปด้วยพวกเซนติเนล กัปตันมิฟูเน่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสสั่งให้คิดส์เปิดประตูให้แฮมเมอร์ เมื่อยานมาถึงก็ได้ปล่อย EMP ออกมาทำให้พวกเซนตินัลตรงนั้นหยุดทำงานลง แต่ระบบป้องกันที่เหลืออยู่ของไซออนก็ด้วยเช่นกัน พวกมนุษย์ถูกบังคับให้ต้องล่าถอยและรอคอยการโจมตีครั้งต่อไปโดยคิดว่านี่จะเป็นที่มั่นสุดท้ายของพวกเขา
ใกล้กับเมืองเครื่องจักร โลกอสถูกกระหน่ำด้วยการระดมยิงทำให้ยานตกและทรินิตี้บาดเจ็บสาหัส นีโอเข้าไปยังเมืองเครื่องจักรและเผชิญหน้ากับบอสเครื่องจักร นีโอเตือนว่าสมิทวางแผนยึดทั้งเดอะเมทริกซ์และโลกจริงและเสนอจะหยุดสมิทเพื่อแลกเปลี่ยนกับสันติสุขของไซออน บอสเครื่องจักรตกลงจากนั้นเซนติเนลก็หยุดโจมตีไซออน
เครื่องจักรจัดการเชื่อมต่อเพื่อให้นีโอเข้าไปยังเมทริกซ์ ภายในเมทริกซ์สมิทที่มีพลังของออราเคิลก้าวออกมาและพูดว่าเขามองเห็นชัยชนะในอนาคตของเขากับนีโอ หลังจากการต่อสู้อันยืดเยื้อ นีโอตระหนักว่าไม่มีวิธีอื่นใดอีกที่จะเอาชนะได้และทำให้ตัวเขาเองถูกเข้ายึดครองร่าง เมื่อเชื่อมต่อกับเดอะซอร์ซ บอสแมชชีนส่งคำสั่งลบโปรแกรมสมิทผ่านทางร่างของนีโอในโลกจริง ทำให้โคลนนีโอ/สมิทและโคลนสมิทคนอื่นๆถูกทำลาย ลบสมิททิ้งไปในที่สุด พวกเซนติเนลถอนตัวจากไซออน มอเฟียสกับไนโอบีสวมกอดกัน แล้วนีโอเห็นภาพของเมืองเครื่องจักรเป็นครั้งสุดท้ายในขณะที่ร่างของเขาถูกพวกเครื่องจักรพาไป
เดอะเมทริกซ์ถูกรีบูต อาร์คิเทคพบกับออราเคิลในสวนสาธารณะ พวกเขาเห็นด้วยว่าสันติสุขจะคงอยู่ตราบนานเท่าที่จะนานได้ และว่าพวกมนุษย์ที่ปรารถนาจะได้รับโอกาสออกจากเดอะเมทริกซ์ เมื่อถูกถามถึงชะตากรรมของนีโอ ออราเคิลบอกซาติว่าเธอคิดว่าพวกเขาจะเจอนีโออีกครั้ง ซาติบอกว่าเธอสร้างพระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบฟ้าเพื่อเป็นเกียรติแก่นีโอ เซอเรฟถามออราเคิลว่าเธอรู้หรือไม่ว่านี่จะเกิดขึ้น เธอตอบว่าเธอไม่รู้แต่เธอเชื่อ
เครื่องจักรและยานพาหนะ
[แก้]- โฮเวอร์คราฟ
- ยานของฝ่ายไซออน ติดตั้งระบบพยุงตัวยานด้วยไฟฟ้า และอีเอ็มพี(คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า)ที่เด่นๆ มี แฮมเมอร์ และ โลโกส มีอาวุธป้อมปืนกล
- อาร์เมอร์ เพอร์โซนอล ยูนิต หรือ เอพียูส์
- หุ่นรบของไซออน ปรากฏตัวครั้งแรกในรีโหลดเดด แต่มีบทมากในภาคนี้ ใช้ป้องกันไซออน เติมกระสุนโดยการขน มีอาวุธปืนกล 2 กระบอก
- เซนทิเนล
- เครื่องจักรปลาหมึก ตัวหลักของพวกเครื่องจักร มีขนาดใหญ่กว่าคนปกติ จึงสามารถฆ่าทหารไซออนได้ง่ายๆ ในภาคนี้ มีไม่ต่ำกว่าแสนในหนึ่งระลอก มีอาวุธในแขนขาตัวเอง
- เครื่องจักรสว่าน
- เครื่องจักรที่ใช้เจาะเข้าไปในไซออน สมารถเก็บขาได้ ต้องใช้มิสไซล์ยิงขาจัดการ มีอาวุธเป็นสว่าน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "The Matrix Revolutions". British Board of Film Classification. สืบค้นเมื่อ September 15, 2013.
- ↑ "The Matrix Revolutions (2003)". Lumiere. สืบค้นเมื่อ November 22, 2017.
- ↑ "Matrix Revolutions, The". tcm.com. Turner Classic Movies. สืบค้นเมื่อ June 29, 2020.
- ↑ "The Matrix Revolutions (2003) – Andy Wachowski, Larry Wachowski – Synopsis, Characteristics, Moods, Themes and Related – AllMovie". AllMovie. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 25, 2010. สืบค้นเมื่อ October 8, 2017.
- ↑ 5.0 5.1 "The Matrix Revolutions (2003)". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ February 13, 2015.