เดอะเกม (เกมทางจิต)
อายุของเกม | ไม่ปรากฏ (ดู จุดกำเนิด) |
---|---|
ระยะเวลาเล่น | ไม่มีที่สิ้นสุด (อยู่ระหว่างดำเนินการ) |
โอกาสสุ่ม | บางส่วน |
ทักษะที่จำเป็น | การระงับความคิด, กลยุทธ์ |
เดอะเกม (อังกฤษ: The Game) เป็นเกมทางจิต (mental game) ที่มีเป้าหมายในการหลีกเลี่ยงการนึกถึงเดอะเกมเอง ผู้เล่นถือว่าแพ้เมื่อนึกถึงเดอะเกม และต้องประกาศทุกครั้งที่แพ้ รูปแบบของเดอะเกมส่วนใหญ่ไม่มีการชนะ อาจถือว่าคนทั้งโลกหรือคนที่รู้เกี่ยวกับเดอะเกมทั้งหมดกำลังเล่นเกมนี้อยู่ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละแบบของเดอะเกม มักมีการพัฒนาเทคนิคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนคนที่รู้เกี่ยวกับเดอะเกมและเพิ่มจำนวนการแพ้
แม้จะไม่มีใครรู้ต้นกำเนิดของเดอะเกมเลโอ ตอลสตอยได้เล่นเกมที่ใช้กระบวนการประชดใน ค.ศ. 1840
วีธีการเล่น
[แก้]มีกฎหลักสามข้อที่มักถูกใช้ในเดอะเกม:[1][2][3][4]
- ทุกคนบนโลกกำลังเล่นเดอะเกม (บางครั้งอาจมีการจำกัดความเป็น "ทุกคนในโลกที่รู้เกี่ยวกับเดอะเกมกำลังเล่นเดอะเกม" หรือ "คุณกำลังเล่นเดอะเกม" คนไม่สามารถเลือกที่จะไม่เล่นเดอะเกม การเล่นเกมไม่ต้องการคำอนุญาตและผู้เล่นไม่สามารถหยุดเล่นได้
- ผู้เล่นแพ้เดอะเกมเมื่อนึกถึงเดอะเกม
- ผู้แพ้ต้องประกาศการแพ้ของตน สามารถทำได้โดยการพูดประโยค เช่น "ฉันพึ่งแพ้เดอะเกม" หรืออาจประกาศในรูปแบบอื่น เช่น ผ่านทางเฟซบุ๊ก บางคนอาจส่งสัญญาณหรือแสดงท่าทางที่ทำให้คนอื่นนึกถึงเดอะเกม
ความหมายของการนึกถึงเดอะเกมไม่ชัดเจนนัก หากผู้เล่นพูดเกี่ยวกับเดอะเกมโดยที่ไม่รู้ตัวว่าพวกเขาได้แพ้ แบบนี้อาจถือว่าแพ้หรือไม่แพ้ก็ได้ หากคนพูดว่า "เดอะเกมคืออะไร" ก่อนจะรู้กฎของเกมจะนับว่าแพ้หรือไม่ก็แล้วแต่จะตีความ บางครั้งมีการตีความว่าผู้เล่นไม่ถือว่าแพ้หากคนอื่นประกาศการพ่ายแพ้ แม้กฎข้อที่สองจะสื่อว่าผู้เล่นแพ้ไม่ว่าจะนึกถึงเดอะเกมจากอะไรก็ตาม หลังผู้เล่นประกาศการพ่ายแพ้ของตน หรือหลังผู้เล่นนึกถึงเดอะเกม บางครั้งมีการอนุญาตให้มีระยะผ่อนผันระหว่าง 3 วินาที จนถึง 30 นาที เพื่อลืมเกี่ยวกับเดอะเกม ในระหว่างนั้นผู้เล่นไม่สามารถแพ้เดอะเกมได้อีกครั้ง[5][6]
กฎทั่วไปไม่ได้ระบุว่าเดอะเกมจะจบลงเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามผู้เล่นบางคนกล่าวว่าเดอะเกมจะจบต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรประกาศออกโทรทัศน์ว่า "เดอะเกมได้ยุติลงแล้ว"[3]
กลยุทธ์
[แก้]กลยุทธ์มุ่งไปที่การทำให้คนอื่นแพ้เดอะเกม วิธีที่มักถูกใช้ได้แก่การพูดว่า "เดอะเกม" หรือการเขียนเกี่ยวกับเดอะเกมบนกระดาษโน้ตและซ่อนไว้ บนรอยขูดขีดเขียน หรือบนธนบัตร[2][7]
เมื่อเวลาผ่านไปมักมีการเชื่อมโยงอย่างอื่นเข้ากับเดอะเกมทำให้ผู้เล่นแพ้ ผู้เล่นบางคนมีความสุขในการคิดหาวิธีกลั่นแกล้งให้คนอื่นแพ้เดอะเกม[8]
กลยุทธ์อื่นได้แก่การใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เสื้อยืด ปุ่มกด แก้วน้ำ โปสเตอร์ และสติกเกอร์ติดรถ เพื่อโฆษณาเดอะเกม นอกจากนี้เดอะเกมยังแผร่กระจายทางเว็บไซต์สังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์[8]
จุดกำเนิด
[แก้]ต้นกำเนิดของเดอะเกมนั้นไม่แน่นอน บนบทความข่าว ค.ศ. 2008 Justine Wettschreck กล่าวว่าน่าจะมีการเล่นเดอะเกมตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 และอาจเริ่มขึ้นในประเทศออสเตรเลียหรืออักฤษ[9] ทฤษฎีหนึ่งมีว่าเดอะเกมอาจถูกคิดต้นในเมืองลอนดอนเมื่อ ค.ศ.1996 หลังวิศวกรชาวอังกฤษสองคนตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายและต้องรอที่สถานีรถไฟทั้งคืน พวกเขาพยายามไม่นึกถึงสถานการณ์ของพวกเขาและใครก็ตามที่นึกถึงมันก่อนถือว่าแพ้[6][7] อีกทฤษฎีหนึ่งเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1996 เช่นกัน โดยกล่าวว่าเดอะเกมถูกคิดค้นโดย Jamie Miller เพื่อสร้างความรำคาญแก่คนอื่น[5]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Boyle, Andy (19 March 2007). "Mind game enlivens students across U.S." The Daily Nebraskan (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 18 May 2008.
- ↑ 2.0 2.1 Rooseboom, Sanne (15 December 2008). "Nederland gaat nu ook verliezen". De Pers. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2008.
- ↑ 3.0 3.1 "Three rules of The Game". Metro. 2008-12-03. สืบค้นเมื่อ 2017-05-20.
- ↑ "Don't think about the game". Rutland Herald. 3 October 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-13. สืบค้นเมื่อ 2018-04-01.
- ↑ 5.0 5.1 Montgomery, Shannon (17 January 2008). "Teens around the world are playing 'the game'". The Canadian Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-06. สืบค้นเมื่อ 2018-04-01.
- ↑ 6.0 6.1 Kaniewski, Katie (1 March 2009). "You just lost the Game". Los Angeles Loyolan. สืบค้นเมื่อ 27 March 2009.
- ↑ 7.0 7.1 "If you read this you've lost The Game". Metro. 3 December 2008. สืบค้นเมื่อ 6 July 2014.
- ↑ 8.0 8.1 Fussell, James (21 July 2009). "'The Game' is a fad that will get you every time". The Kansas City Star. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 July 2009.
- ↑ Wettschreck, Justine (31 May 2008). "Playing 'The Game' with the other kids". Daily Globe. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-14. สืบค้นเมื่อ 11 November 2014.