ข้ามไปเนื้อหา

เชกีชากี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เชกีชากี
ลูกเรือกองทัพเรือสหรัฐฯ เล่นเชกีชากีกับนักเรียนเกาหลี
ชื่อเกาหลี
ฮันกึล
제기차기
อาร์อาร์Jegichagi
เอ็มอาร์Chegich'agi

เชกีชากี เป็นเกมพื้นบ้านกลางแจ้งของเกาหลีที่ผู้เล่นจะเตะวัตถุที่เรียกว่า เชกี (คล้ายกับลูกขนไก่) ให้ลอยอยู่ในอากาศ โดย เชกี ทำจากกระดาษพันรอบเหรียญโลหะเล็ก ๆ

ในเกาหลี เด็ก ๆ มักเล่นคนเดียวหรือกับเพื่อนในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในเทศกาลวันปีใหม่เกาหลี กติกาโดยสรุปคือ ผู้เล่นจะเตะ เชกี ขึ้นในอากาศและพยายามเตะต่อไปเพื่อไม่ให้ตกลงพื้น ในการแข่งขันแบบตัวต่อตัว ผู้ที่เตะ เชกี ติดต่อกันได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ส่วนในการเล่นแบบกลุ่ม ผู้เล่นจะยืนล้อมกันเป็นวงกลมและเตะ เชกี ผลัดกันไป หากผู้เล่นคนใดปล่อยให้ เชกี ตกพื้น เขาจะแพ้และต้องรับบทลงโทษ โดยการโยน เชกี ให้ผู้ชนะเพื่อเตะตามใจชอบ เมื่อผู้แพ้สามารถจับ เชกี กลับด้วยมือได้ บทลงโทษจะสิ้นสุดและเขาสามารถกลับเข้าร่วมเกมได้อีกครั้ง[1]

ปัจจุบันเกมนี้มีการพัฒนา โดยผู้เล่นได้นำวัสดุต่าง ๆ มาผสมผสานเพื่อสร้างรูปแบบการเล่นใหม่ ๆ แม้ว่าในอดีตเกมนี้จะนิยมเล่นในฤดูหนาวเป็นหลัก แต่ปัจจุบันกลับเป็นเกมที่เล่นได้ตลอดทั้งปี

ประวัติ

[แก้]

แม้ว่าจะไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับต้นกำเนิดของ เชกีชากี แต่ตำนานกล่าวว่าเกมนี้พัฒนามาจากการฝึกของนักศิลปะการต่อสู้อายุน้อยที่เกี่ยวข้องกับการเตะถุงหนังขนาดเล็ก เชกีชากี ได้รับการพัฒนาในรูปแบบที่แตกต่างออกไป[2]

ตามบันทึกโบราณของเกาหลีใน ซัมกุกยูซา (Samguk Yusa) ระบุว่าผู้คนในอาณาจักรโคกูรยอมีความชำนาญในการเล่น ชู่จฺวี เกมเตะลูกบอลของจีน ซึ่ง เชกีชากี ได้พัฒนาขึ้นด้วยอิทธิพลจาก ชู่จฺวี ที่แพร่หลายในเกาหลีในยุคนั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า คิม ยู-ชิน แห่งซิลลา ได้เหยียบและฉีกริบบิ้นยาวของคิม ชุน-ชู ซึ่งเป็นองค์ประกอบในชุดประเพณีเกาหลีระหว่างการเล่น เชกีชากี ภายใต้ข้ออ้างของเกมนี้ หลังจากนั้นน้องสาวของคิมยูชินได้ช่วยเย็บริบบิ้นคืนให้ และเหตุการณ์นี้นำไปสู่การแต่งงานระหว่างเธอกับคิมชุนชู ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นพระเจ้ามูยอลแห่งซิลลา [3]

ในปี ค.ศ. 2000 ได้มีการก่อตั้งสมาคมเชกีชากีแห่งเกาหลี (Korean Jegichagi Association) เพื่อกำหนดกติกาใหม่ที่เหมาะสมกับคนรุ่นปัจจุบัน แม้ว่า เชกีชากี จะเป็นที่รู้จักเช่นเดียวกับเกมดั้งเดิมอื่น ๆ ที่โด่งดังในเกาหลี แต่ความนิยมของเกมนี้กำลังลดลง เพื่อรักษาเกม เชกีชากี ให้คงอยู่ในความทรงจำของเด็ก ๆ คณะกรรมการการศึกษาของเกาหลีใต้ได้กำหนดให้ เชกีชากี เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จำเป็นในวิชาพลศึกษาในโรงเรียน โดยทั่วไปจะอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หรือ 4

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 บริษัทอเมริกันแห่งหนึ่งได้เปิดตัวของเล่นสำหรับเด็กที่เรียกว่า คิกโบซึ่งอิงจาก เชกีชากี[4]

การประดิษฐ์ เชกี

[แก้]

โดยดั้งเดิม เชกี ถูกสร้างขึ้นจากเหรียญที่มีรูตรงกลางและกระดาษ ฮันจี (กระดาษพื้นบ้านของเกาหลี) [5] วิธีทำเริ่มจากการพับกระดาษครึ่งหนึ่งแล้ววางเหรียญไว้ตรงกลาง จากนั้นพับกระดาษซ้ำหลายครั้งโดยให้เหรียญยังคงอยู่ข้างใน ใช้ของมีคมเจาะรูทะลุกระดาษผ่านรูในเหรียญ จากนั้นจึงสอดปลายกระดาษเข้าไปในรูเหรียญ และคลี่ปลายกระดาษออกแล้วฉีกให้เป็นริ้ว

การทำ เชกี ด้วยกระดาษทิชชูและหนังยาง

วิธีง่ายกว่าคือการนำเหรียญ 1-3 เหรียญวางซ้อนกันตรงกลางแผ่นกระดาษ (ตัดจากถุงพลาสติกหรือกระดาษทิชชู) ขนาดประมาณ 25 ซม. รวบกระดาษรอบ ๆ เหรียญให้เป็นก้อนแล้วใช้เชือกหรือหนังยางมัดให้แน่น ส่วนที่เหลือของถุงหรือกระดาษถูกตัดให้เป็นริ้ว [6]

ปัจจัยสำคัญที่สุดของ เชกี ที่ดีคือ น้ำหนัก ควรอยู่ที่ประมาณ 10 กรัม (0.35 ออนซ์) หากเบาเกินไปจะควบคุมยากเพราะตกถึงพื้นก่อนที่จะพร้อมเตะครั้งต่อไป แต่ถ้าหนักเกินไปจะเตะให้ลอยสูงได้ยาก

การเล่นเกม

[แก้]

ผู้เล่นเตะ เชกี ให้ลอยขึ้นในอากาศโดยใช้ด้านในของเท้า ผู้ชนะในเกมคือผู้ที่เตะ เชกี ได้มากครั้งที่สุดโดยไม่ให้ตกถึงพื้น

วิธีการเล่นแบบอื่น ๆ ได้แก่:

  • ฮ็อลแล็งอี (เกาหลี: 헐랭이, อักษรโรมัน: heollaeng-i) ใช้ด้านในของเท้าเตะ เชกี ในขณะที่อีกเท้าหนึ่งทรงตัวไว้ เท้าที่ใช้เตะ เชกี จะต้องลอยอยู่ในอากาศโดยไม่แตะพื้น
  • ตังกังอาจี (เกาหลี: 땅강아지, อักษรโรมัน: ttanggang-aji) คล้ายฮ็อลแล็งอี แต่เท้าที่เตะ เชกี จะสัมผัสพื้นทุกครั้งก่อนการเตะครั้งต่อไป
  • เท้าซ้ายเท้าขวา หรือ อูจีจวาจี (เกาหลี: 우지좌지, อักษรโรมัน: uji-jwaji) คล้ายกับตังกังอาจี แต่ใช้เท้าทั้งสองข้างเตะ เชกี สลับกัน โดยใช้ด้านในของทั้งสองเท้า หรืออาจใช้ด้านในของเท้าหนึ่งและด้านนอกของอีกเท้าหนึ่ง
  • อับชากี (เกาหลี: 앞차기, อักษรโรมัน: apchagi) ใช้ด้านบนของเท้าเตะ เชกี
  • ทวิดบัลชากี (เกาหลี: 뒷발차기, อักษรโรมัน: dwitbalchagi) ใช้ด้านข้างด้านหลัง (ด้านข้างลัตทราล) ของเท้าเตะ เชกี
  • คีจีกี (เกาหลี: 키지기, อักษรโรมัน: kijigi) เตะ เชกี แต่ละครั้งให้ลอยสูงกว่าความสูงของตัวเอง
  • มุลจีกี (เกาหลี: 물지기, อักษรโรมัน: muljigi) เตะ เชกี ต่อเนื่องแล้วเอาปากฮุบ

วิธีฝึกเล่น เชกีชากี คือการใช้ เชกี ผูกเชือก โดยผูก เชกี กับจุดยึดเพื่อให้ลอยอยู่กลางอากาศ ผู้เล่นสามารถเตะต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องก้มลงเก็บ เชกี ทุกครั้งที่ตกพื้น

ผู้เริ่มต้นเล่นมักจะยื่นแขนไปข้างหน้าในขณะที่เตะ เชกี ด้วยความเข้าใจผิดว่าแขนช่วยสร้างสมดุลของร่างกาย ซึ่งไม่เป็นเช่นนั้น หากใช้เท้าขวาเตะ เชกี จะดีกว่าหากถือมือขวาไว้ที่สะโพก

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Ministry of Foreign Affairs and Trade. "Korean Traditional Folks Games". http://news.mofat.go.kr/enewspaper/articleview.php?master=&aid=1743&sid=27&mvid=626 เก็บถาวร 2012-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. 2010-04-22
  2. "Jegichagi". Official Seoul City Tourism, Seoul Metropolitan Government. 2007.02.21. 2010-04-05 http://english.visitseoul.net/visit2007en/activities/livingtraditions/livingtraditions.jsp?cid=118&sid=549.
  3. 이이화, I-hwa Yi. 한국사이야기, Korean History. vol. 14. Seoul, Korea: 한길사, HanGilSa, 2001. p39.
  4. "Kikbo Kick Shuttlecocks, Patent Pending Toy Based on Jegichagi". Website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 April 2012. สืบค้นเมื่อ 23 September 2011.
  5. 엑스포과학공원- ExpoPark INC. "전통제기 만드는법- How to make Traditional Jegi". http://www.expopark.co.kr/ เก็บถาวร 2005-11-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. 2010-02-27
  6. "パソコンからレンタルサーバーにpushしてファイル管理ができるgitを利用する方法".

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]