เจอโรม พาวเวลล์
เจอโรม พาวเวลล์ | |
---|---|
![]() | |
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ คนที่ 16 | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 5 กุมภาพันธ์ 2018 | |
ประธานาธิบดี | ดอนัลด์ ทรัมป์ โจ ไบเดิน |
ก่อนหน้า | เจเนต เยลเลน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | Jerome Hayden Powell 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953 วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ |
พรรคการเมือง | พรรคริพับลิกัน |
คู่สมรส | Elissa Leonard |
การศึกษา | มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ |
เจอโรม เฮย์เดน พาวเวลล์ (อังกฤษ: Jerome Hayden Powell) เป็นนักการธนาคารและนักกฎหมายชาวอเมริกัน ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐคนที่ 16
ภูมิหลัง
[แก้]เจอโรม พาวเวลล์ เกิดเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 1953 ในอชิงตัน ดี.ซี. เขาเติบโตในครอบครัวที่มุ่งเน้นเรื่องความสำเร็จทางวิชาการ พาวเวลล์เป็นลูกคนโตในจำนวนพี่น้องหกคน
พาวเวลล์รับการศึกษาที่โรงเรียนมัธยมปลายเยซูอิตในวอชิงตัน ดี.ซี. ต่อมาเขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์เมื่อปี 1975 วิทยานิพนธ์ของเขามีหัวข้อเกี่ยวกับการรวมตัวทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป หลังจากจบการศึกษาที่พรินซ์ตัน เขาทำงานเป็นผู้ช่วยวุฒิสมาชิกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขาเริ่มสนใจในนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน ต่อมาเขาได้เข้าเรียนที่ศูนย์นิติศาสตร์มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์[1] และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาด้านกฎหมายในปี 1979
การทำงาน
[แก้]หลังจบการศึกษาด้านกฎหมาย พาวเวลล์เริ่มต้นอาชีพการทำงานในตำแหน่งทนายความที่บริษัทการเงินต่างๆ รวมถึงบริษัท Davis Polk & Wardwell และ Werbel & McMillen แต่ในไม่ช้าเขาก็เปลี่ยนเส้นทางอาชีพเข้าสู่วงการการเงิน โดยเข้าทำงานในบริษัท Dillon, Read & Co. ในตำแหน่งนักวิเคราะห์การเงิน
ในปี 1990 พาวเวลล์ได้เริ่มต้นทำงานภาครัฐในตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลังฝ่ายการเงินภายในประเทศ ภายใต้ประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ในตำแหน่งนี้ เขามีบทบาทสำคัญในการจัดการกับปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในระบบธนาคาร รวมถึงการช่วยแก้ไขวิกฤติเงินออมและสินเชื่อ ต่อมาหลังจากพ้นจากตำแหน่งภาครัฐ พาวเวลล์กลับมาสู่วงการเอกชนอีกครั้ง โดยทำงานกับบริษัท Carlyle Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทการลงทุนรายใหญ่ของโลก เขามีบทบาทในการจัดการและดำเนินงานเกี่ยวกับการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม
พาวเวลล์เข้าสู่ธนาคารกลางสหรัฐในปี 2012 เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลาง แม้ว่าเขาจะมีภูมิหลังมาจากสายงานกฎหมายและการเงินมากกว่านโยบายการเงิน แต่พาวเวลล์ได้รับการยอมรับในความสามารถและประสบการณ์ในด้านเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางสหรัฐ
[แก้]ต่อมาในปี 2018 พาวเวลล์ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ ในสมัยของประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงปีแรกของการดำรงตำแหน่ง พาวเวลล์เผชิญกับสถานการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น นโยบายการเงินในช่วงนี้จึงมุ่งเน้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันความร้อนแรงของเศรษฐกิจ โดยในปี 2018 ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ซึ่งเป็นการดำเนินการที่เน้นความระมัดระวังและการประคองเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีแรกของการดำรงตำแหน่ง พาวเวลล์เผชิญกับสถานการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น นโยบายการเงินในช่วงนี้จึงมุ่งเน้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันความร้อนแรงของเศรษฐกิจ โดยในปี 2018 ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ซึ่งเป็นการดำเนินการที่เน้นความระมัดระวังและการประคองเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์เผชิญแรงกดดันจากทำเนียบขาว ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเชื่อว่านโยบายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ในปี 2020
การระบาดของโควิด-19 และหลังจากนั้น
[แก้]การระบาดทั่วของโควิด-19 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ภายใต้การนำของพาวเวลล์ ธนาคารกลางสหรัฐออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อป้องกันการล่มสลายของเศรษฐกิจสหรัฐ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็วเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เข้าซื้อพันธบัตรและหลักทรัพย์ที่มีการค้ำประกันเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการเงิน ต่อมาในปี 2021 ประธานาธิบดีโจ ไบเดิน เสนอชื่อพาวเวลล์ให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย[2][3] และเขาได้รับการรับรองจากวุฒิสภาในเดือนพฤษภาคม 2022
ในปี 2022 พาวเวลล์เผชิญกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี อันเนื่องมาจากผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งจนถึงระดับสูงสุดในรอบหลายปี โดยหวังชะลอความต้องการในระบบเศรษฐกิจและลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Long, Heather (June 2, 2017). "Who is Jerome Powell, Trump's pick for the nation's most powerful economic position?". The Washington Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 22, 2019. สืบค้นเมื่อ November 1, 2017.
- ↑ GONZALES, RICHARD (January 23, 2018). "Senate Confirms Jerome Powell As New Federal Reserve Chair". NPR. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 31, 2018. สืบค้นเมื่อ January 31, 2018.
- ↑ LANE, SYLVAN (January 31, 2018). "Senate confirms Jerome Powell as Fed chairman". The Hill. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 15, 2019. สืบค้นเมื่อ August 15, 2019.