ข้ามไปเนื้อหา

เจย์ บาฮาดูร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจย์ บาฮาดูร์
เกิดมกราคม ค.ศ. 1984
โทรอนโต รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา
สัญชาติแคนาดา
การศึกษามหาวิทยาลัยโทรอนโต
อาชีพนักข่าว
Notable creditเดอะไพเรทส์ออฟโซมาเลีย: อินไซด์แธร์ฮิดเดนเวิลด์ (ค.ศ. 2011)
เว็บไซต์www.jaybahadur.com

เจย์ บาฮาดูร์ (อังกฤษ: Jay Bahadur; ค.ศ. 1984 – ) เป็นทั้งนักข่าวและนักเขียนชาวแคนาดา เขากลายเป็นที่รู้จักในรายงานเรื่องการกระทำอันเป็นโจรสลัดในโซมาเลีย โดยการเขียนให้แก่เดอะนิวยอร์กไทมส์, เดอะไฟแนนเชียลโพสต์, เดอะโกลบแอนด์เมล และเดอะไทมส์ออฟลอนดอน บาฮาดูร์เคยทำงานเป็นผู้สื่อข่าวอิสระของซีบีเอส นิวส์ และได้ให้คำแนะนำแก่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรื่องการปล้นสะดมทางทะเล ผลงานหนังสือเล่มแรกของเขาอย่างเดอะไพเรทส์ออฟโซมาเลีย: อินไซด์แธร์ฮิดเดนเวิลด์ (อังกฤษ: The Pirates of Somalia: Inside Their Hidden World) คือรายงานของเขาที่อาศัยอยู่กับโจรสลัดเป็นเวลาหลายเดือนในพุนต์แลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโซมาเลีย[1] ปัจจุบัน บาฮาดูร์อาศัยอยู่ในกรุงไนโรบี

ชีวิตในวัยเด็กและการศึกษา

[แก้]

บาฮาดูร์เกิดในปี ค.ศ. 1984 ที่โทรอนโต รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา[2] และเข้าศึกษาที่โรงเรียนมหาวิทยาลัยโทรอนโต จากนั้น เขาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโทรอนโต โดยสำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ. 2007 ด้วยคุณวุฒิปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์[3] ส่วนในปี ค.ศ. 2008 บาฮาดูร์ทำงานให้แก่บริษัทวิจัยตลาดในเมืองชิคาโก จากความสนใจในการทำงานเป็นนักข่าว บาฮาดูร์ได้บอกว่าโดยนักข่าวตัวจริง มักหลีกเลี่ยงการไปโรงเรียนเพื่อเรียนรู้การวารสารศาสตร์ หากแต่เพื่อให้ได้มาซึ่งประสบการณ์ในการทำงานเป็นอิสระใน "สถานที่ที่น่ากลัว" แทน[4]

ผลงานในระดับอาชีพ

[แก้]

บาฮาดูร์เป็นนักข่าวชาวแคนาดา[5] เขาเขียนให้เดอะนิวยอร์กไทมส์, เดอะไฟแนนเชียลโพสต์, เดอะโกลบแอนด์เมล, เดอะไทมส์ออฟลอนดอน และเขาเคยทำงานให้กับซีบีเอส นิวส์ ในฐานะนักข่าวอิสระ

แรกเริ่มเดิมที ต้องการเยี่ยมชมประเทศโซมาเลียเพื่อเขียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ แต่ข่าวการปล้นกลางทางและเข้ายึดเรือเดินสมุทรไฟนาโดยโจรสลัดโซมาเลียในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 ซึ่งทำให้เขาเปลี่ยนเกียร์[6] การตัดสินใจสู่เรื่องของการปล้นสะดมทางทะเล ทำให้บาฮาดูร์ได้ติดต่อผู้สื่อข่าวในประเทศโซมาเลียและจัดทำร่วมกับเรดิโอกาโรเว เขาลาออกจากงานและซื้อตั๋วไปยังประเทศโซมาเลีย หลายเดือนก่อนบาฮาดูร์เดินทางถึง นักข่าวอิสระชาวแคนาดาชื่ออะแมนดา ลินฮุต ถูกลักพาตัวในประเทศโซมาเลียและถูกจับเป็นตัวประกันโดยมือปืนที่อยู่ห่างไกลจากบริเวณที่ปลอดภัยของโซมาลีแลนด์และพุนต์แลนด์ ซึ่งบาฮาดูร์กำลังทำงานในการสัมภาษณ์[7]

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 บาฮาดูร์เดินทางมาเกือบสองวันเพื่อไปถึงพื้นที่กึ่งอิสระของพุนต์แลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโซมาเลีย เมื่อไปถึงที่นั่น เขาได้พบกับโจรสลัดและได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของภาคอุตสาหกรรม[8] ระหว่างการเดินทางของเขา บาฮาดูร์ได้ค้นพบข้อมูลที่ท้าทายข้อสันนิษฐานพื้นฐานเกี่ยวกับโจรสลัดที่ว่า: มีโจรสลัดไม่มากเท่าที่เขาเคยเชื่อ พวกเขาไม่ได้ถูกควบคุมโดยองค์กรอาชญากรรมระหว่างประเทศ และพวกเขาไม่ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มญิฮาด[9]

เขาเดินทางไปทวีปแอฟริกาหลายครั้ง โดยใช้เวลาสามเดือนในพื้นที่ที่นักข่าวส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าถึง[10] บาฮาดูร์กลับจากการเดินทางครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี ค.ศ. 2009 ก่อนการปล้นเรือเดินสมุทรเมิร์สก์แอละแบมาในเดือนเมษายน เวลานี้จึงทำให้ผู้คนเกิดความสนใจในหนังสือของเขา และเขาก็ขายให้กับผู้จัดพิมพ์[11] บาฮาดูร์วางแผนที่จะจบหนังสือเล่มแรกของเขาก่อนปี ค.ศ. 2010 แต่กลับต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้[4] ในที่สุด ผลงานหนังสือเดอะไพเรทส์ออฟโซมาเลีย: อินไซด์แธร์ฮิดเดนเวิลด์ ก็ได้รับการเผยแพร่ในสหรัฐ ณ วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 [12]

และเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2011 บาฮาดูร์ได้ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญในรายการเดอะเดลีโชว์[13]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]

ปัจจุบัน บาฮาดูร์อาศัยอยู่ในกรุงไนโรบี[14]

สิ่งพิมพ์

[แก้]
  • The Pirates of Somalia: Inside Their Hidden World. HarperCollins, 2011. ISBN 0-307-37906-X.

เชิงอรรถ

[แก้]
  1. Conan, 2011
  2. Batchelor, 2011; Illo, 2011
  3. Centre for International Governance Innovation, 2010; Ilo, 2011
  4. 4.0 4.1 Glor, 2011
  5. Sekulich, 2011
  6. The Pirates of Somalia, "Prologue: Where the White Man Runs Away"
  7. Glor, 2011; Ilo, 2011
  8. Ilo, 2011; Hammer, 2011
  9. Shribman, 2011; Houreld, 2011
  10. Associate Press, 2012
  11. Illo, 2011
  12. Houreld, 2011
  13. Random House Audio, 2011; Scribe Publications, 2011; HarperCollins, 2011; Stewart, 2011
  14. Illo, 2011; Scribe Publications, 2011

อ้างอิง

[แก้]

หนังสืออ่านเพิ่มและแหล่งที่มา

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]