เค้กแฟนต้า
.jpg) เค้กแฟนต้าในรูปแบบเค้กสปันจ์สามชั้น ชั้นบนสุดทำมาจากแฟนต้า | |
| มื้อ | ของหวาน |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | แฟนต้า, น้ำตาล |
| จานอื่นที่คล้ายกัน | เค้กสปันจ์ |
เค้กแฟนต้า หรือ ฟันทาคูเคิน (เยอรมัน: Fantakuchen, ออกเสียง: [ˈfantaˌkuːxən][1]) เป็นเค้กที่มีที่มาจากประเทศเยอรมนี โดยมีเบสเป็นเค้กสปันจ์ วัตถุดิบหลักคือแฟนต้า ซึ่งเป็นน้ำอัดลม ที่ช่วยสร้างผิวสัมผัสที่นุ่มฟูกว่าเค้กสปันจ์แบบทั่วไปเนื่องจากกระบวนการคาร์บอเนชัน[2] จากนั้นจึงแต่งหน้าเค้กด้วยการเคลือบเกลซเลมอนหรือชั้นครีมเปรี้ยวหนา, วิปครีม, น้ำตาล และส้มแมนดาริน โดยทั่วไปมักเสิร์ฟเค้กแฟนต้าตามงานฉลองวันเกิดหรือตามงานขายขนมอบ[3]
แฟนต้าเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่พัฒนาโดยบริษัทโคคา-โคล่าสำนักงานเยอรมนีในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากการการคว่ำบาตรการค้าทำให้ส่วนประกอบทั่วไปสำหรับการผลิตน้ำอัดลมหาได้ยากในเยอรมนีใต้ปกครองนาซี แฟนต้าต่อมาได้กลายมาเป็นทั้งเครื่องดื่มยอดนิยม และสารให้ความหวานในอาหารจานอื่นเช่นเค้ก[4][5]
เค้กอื่น ๆ ที่คล้ายกัน
[แก้]ในประเทศเยอรมนี สูตรอาหารอื่น ๆ ที่นำเอาน้ำอัดลมมาใช้ยังมีอีก เช่น สไปรต์ นำมาทำ ชพรีเทอคูเคิน และ โค้ก ในการทำ โคลาคูเคิน เครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น น้ำมะนาว ยังสามารถนำมาทำ ลีโมคูเคิน[6][7]
ในภาคใต้ของสหรัฐ มีเค้กลักษณะคล้ายกันที่ใช้ เซเว่นอัป, โค้ก และ ด็อกเตอร์เป๊ปเปอร์ เกิดขึ้นในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งมักเรียกรวมกันว่า "เค้กโซดาภาคใต้" (Southern Soda Cakes)[8][9] แคร็กเกอร์แบเริล นำเอาเค้กโคลามาใส่ในเมนูของตนในคริสต์ทศวรรษ 1990 รวมถึงรูปแบบคล้ายคลึงกันอย่างเค้กโคล่า-ช็อกโกแล็ตฟัดจ์[10]
นอกจากนี้ยังมีการใช้เบียร์มาทำเค้กเบียร์ เนื่องด้วยคุณสมบัติการคาร์บอเนตตามธรรมชาติของเบียร์เช่นเดียวกับน้ำอัดลม[11]
ส่วนประกอบ
[แก้]
เค้กแบตเตอร์ที่ใช้มักประกอบด้วยส่วนประกอบทั่วไป คือ แป้ง ไข่ น้ำตาล เนย และมีการผสมแฟนต้าเข้ามาให้เกิดเนื้อสัมผัสนุ่มและรสส้มจาง ๆ ท็อปปิงที่มักใช้ครีมเปรี้ยว พุดดิงวานิลลา และผลไม้ เข้ามาช่วยเสริมรสจาง ๆ จากน้ำอัดลม บางสูตรยังใช้เปลือกส้ม หรือน้ำตาลไอซิงส้ม มาช่วยเพิ่มรสและกลิ่นของส้มในเค้ก
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Fanta-Kuchen mit Schmand Rezept". Dr. Oetker (ภาษาเยอรมัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 April 2024. สืบค้นเมื่อ 2 April 2024.
- ↑ "Learn About Cake Baking with Soda Pop". BettyCrocker.com (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 November 2023. สืบค้นเมื่อ 7 October 2023.
- ↑ "Fantakuchen: German cake with Fanta Recipe". NDTV Food (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2023. สืบค้นเมื่อ 7 October 2023.
- ↑ Sahni, Toshita (10 February 2023). "This German Cake Uses 'Fanta' as Flavouring - Learn How to Make This Fun Dessert". NDTV Food (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 April 2024. สืบค้นเมื่อ 11 April 2024.
- ↑ Denham, Richard; Trow, M. J. (2022). The Ultimate World War Two Trivia Book. BLKDOG Publishing. p. 80. ISBN 978-1-915490-06-3.
- ↑ Thalmann, Florian (2023-06-20). "Tolles Rezept! Saftig & süß: Kennen Sie Sprite-Kuchen und Limo-Kuchen?". Berliner Kurier (ภาษาเยอรมัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-12. สืบค้นเมื่อ 2024-05-12.
{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Limokuchen". Hexenküche.de (ภาษาเยอรมัน - ออสเตรีย). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-12. สืบค้นเมื่อ 2024-05-12.
{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "The Rich History of Southern Soda Cakes". Southern Living (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 April 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-04-09.
- ↑ Bramen, Lisa. "7-Up Cake and Other Bubbly Baking". Smithsonian Magazine (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 April 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-04-09.
- ↑ "The History of Coca-Cola Cake". Quaint Cooking (ภาษาอังกฤษ). 2022-08-26. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 April 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-04-09.
- ↑ Rattray, Diana (23 September 2022). "A Caramel-Iced Beer Cake Will Be the Hit of the Party". The Spruce Eats (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-14. สืบค้นเมื่อ 2024-05-14.
{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)