เกษตรกรรมในประเทศทาจิกิสถาน
ทาจิกิสถานเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีประชากรในชนบทมากกว่าร้อยละ 70 และภาคเกษตรกรรมคิดเป็นร้อยละ 60 ของการจ้างงานและประมาณร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ใน พ.ศ. 2563[1] ตามแบบฉบับของระบบเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการเกษตร ทาจิกิสถานมีรายได้ต่อหัวต่ำ โดยสาธารณรัฐทาจิกซึ่งขณะนั้นเป็นสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียตเป็นสาธารณรัฐที่ยากจนที่สุด โดยมีประชากรถึงร้อยละ 45 ในกลุ่มสาธารณรัฐที่มีรายได้ต่ำที่สุด "รั้นท้าย"[2] (สาธารณรัฐอุซเบกซึ่งยากจนเป็นอันดับรองลงมาในอันดับโซเวียต มีประชากรร้อยล่ะ 34 อยู่ในกลุ่มรายได้ต่ำสุด) ใน พ.ศ. 2549 ทาจิกิสถานยังคงมีรายได้ต่อหัวต่ำที่สุดในบรรดาประเทศในเครือรัฐเอกราช คือที่ 1,410 ดอลลาร์ (เทียบเท่ากับอำนาจซื้อ (PPP)) เทียบกับเกือบ 12,000 ดอลลาร์สำหรับรัสเซีย[3] รายได้ที่น้อยและลักษณะพื้นที่เกษตรกรรมที่สูงเป็นเหตุผลและผลักดันความพยายามในการปฏิรูปการเกษตรมาตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ด้วยความหวังที่จะปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของประชากร
เกษตรกรรมของทาจิกิสถานมีลักษณะพิเศษด้วยระบบเกษตรกรรมสองระบบที่กำหนดโดยภูมิศาสตร์ โดยที่การปลูกมันฝรั่งและข้าวสาลี รวมถึงการปลูกพืชสวนเกิดขึ้นในพื้นที่สูงของประเทศ ในขณะที่ฝ้ายชลประทานมีอิทธิพลเหนือพื้นที่ราบลุ่ม[1]
ผลผลิตทางการเกษตรในทาจิกิสถานถูกขัดขวางด้วยพื้นที่เพาะปลูกจำนวนค่อนข้างน้อย การขาดการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องจักรกลการเกษตร และอุปกรณ์[1] กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร (IFAD) คร่ำครวญถึง "การขาดความรู้ด้านเทคนิคในหมู่ผู้ถือปศุสัตว์รายย่อย การบริหารจัดการทุ่งหญ้าที่ไม่ดี การจัดการปศุสัตว์ในชุมชนที่ไม่มีประสิทธิภาพ การขาดแคลนอาหารสัตว์ในช่วงฤดูหนาว ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม และการขาดการเข้าถึงอาหารที่ดี -เมล็ดพันธุ์อาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ" ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำฟาร์มและการพัฒนาปศุสัตว์เช่นกัน[1]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 "Tajikistan". IFAD (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-09-03.
- ↑ Narodnoe khozyaistvo SSSR v 1990 g., Statistical Yearbook of the USSR for 1990, Moscow, 1991, in Russian
- ↑ GNI per capita 2006, Atlas method and PPP, World Development Indicators database, World Bank, 14 September 2007.