ข้ามไปเนื้อหา

อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตัวละคร เทพมรณะ
คุโรซากิ โอริฮิเมะ (อิโนะอุเอะ)
อาชีพ แม่บ้าน
วันเกิด 3 กันยายน
อายุ 27
สีผม สีส้ม
สีตา สีดำ
ส่วนสูง 157 ซม.
น้ำหนัก 49 กก.
45 กก.(อดีต)
หมู่เลือด B

คุโรซากิ โอริฮิเมะ นามสกุลเดิม อิโนะอุเอะ (ญี่ปุ่น: 井上織姫โรมาจิInoue Orihimeทับศัพท์: 井上織姫) เป็นตัวละครเอกหญิงอีกคนหนึ่งเรื่องเทพมรณะ มีเลขที่ประจำชั้น 5 เลขที่ประจำชั้นฝ่ายนักเรียนหญิง 2ของโรงเรียนคาราคุระ ปี 1ห้อง 3 +++ มังงะตอนที่ 686 ขึ้นไปใช้ชื่อ คุโรซากิ โอริฮิเมะ +++

ประวัติ

[แก้]

เป็นเพื่อนร่วมชั้นของอิจิโกะ มีผมสีส้ม เธอแอบชอบอิจิโกะอยู่ เธอมีพี่ชายอยู่ 1 คนแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว พี่ชายของเธอได้กลายเป็นฮอว์โลว์และเข้ามาทำร้ายเธอ แต่เธอก็ได้ถูกช่วยไว้โดยคุโรซากิ อิจิโกะ และคุจิกิ ลูเคีย กิ๊บติดผมที่เป็นของสำคัญของเธอก็ได้มาจากพี่ชายของเธอเอง โอริฮิเมะเป็นตัวละครหญิงคนเดียวที่ถูก เอสปาด้า แอบรัก คือ อุลคิโอร่า แต่ โอริฮิเมะไม่ได้รักเขา เพราะเธอได้ประกาศไว้ตั้งแต่ตอนที่ 141 ว่า ต่อให้ตายแล้วเกิดอีกสัก 5 ชาติ เธอก็จะขอรัก อิจิโกะคนเดียวเท่านั้น

ครอบครัว

[แก้]

ในมังงะเล่มสุดท้ายโอริฮิเมะ เธอมีลูกชาย 1 คน ชื่อ คาซุย(คาซุอิ) คุโรซากิ

บทบาท

[แก้]

ภาคแรก

[แก้]

อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ นักเรียนชั้นมัธยม4 เป็นเพื่อนร่วมห้องของคุโรซากิ อิจิโกะ และเธอยังแอบชอบอิจิโกะอีกด้วย เธอเป็นคนที่มีพลังพิเศษอยู่ในตัวเหนือมนุษย์ธรรมดาแต่ยังไม่ปรากฏจนเมื่อคุจิกิ ลูเคียได้เข้ามาในชีวิตอิจิโกะ เธอซึ่งเป็นเพื่อนอิจิโกะก็ค่อยๆซึมซับและค่อยๆแสดงพลังที่ไม่รู้ว่ามีอยู่ออกมา โดยประสบการณ์แรก พี่ชายของเธอได้กลายเป็นฮอลโลว์มาทำร้ายเธอแต่โชคดีที่อิจิโกะกับลูเคียมาช่วยไว้ทัน ด้วยความสามารถพลังในตัวของเธอถึงแม้ลูเคียจะได้ลบความทรงจำเกี่ยวกับยมทูตแต่ก็ไม่สามารถลบได้ ต่อมาเธอได้รู้ถึงพลังอย่างแจ่มแจ้งก็ตอนที่เธอสามารถพัฒนาการรับรู้ฮอลโลว์ที่เธอเห็นและตรงเข้ามาทำร้าย ทัตสึกิเพื่อนของเธอ โอริฮิเมะได้ใช้พลัง 6 โล่บุปผาของเธอและถูกอุราฮาระชักชวนเข้าร่วมในฐานะคนมีพลังพิเศษ

ภาคโซลโซไซตี้

[แก้]

หลังจากที่คุจิกิ ลูเคียเพื่อนของเธอได้ถูกจับกุมไปยังเซเรเทย์ โอริฮิเมะได้ไปช่วยเหลือลูเคียกับพวกอิจิโกะ ขณะที่เดินทางจะเข้าประตูเมืองอิจิโกะต้องผ่านด่านของคนเฝ้าประตู และต่อสู้กับอิชิมารุ งิน หัวหน้าหน่วย 3 ซึ่งเธอได้ช่วยรักษาบาดแผลของคนเฝ้าประตูที่โดนงินทำร้าย ต่อมาหลังผ่านม่านพลังเข้าสู่เซเรเทย์ได้ เธอก็ได้แยกทางกับเพื่อนๆโดยร่วมเดินทางไปกับ อิชิดะ อุริว ควินซี่คนสุดท้ายที่เป็นเพื่อนในกลุ่ม โอริฮิเมะได้ต่อสู้กับ และเกือบโดนทำร้ายโชคดีที่อิชิดะช่วยไว้ แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ซึบากิ ตัวโจมตีของเธอบาดเจ็บไป หลังจากนั้นเธอได้วางแผนกับอิชิดะปลอมตัวเป็นยมทูตโดยการขโมยชุดแต่ก็โดน คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วย 12 รู้เท่าทันและมาต่อสู้แต่อิชิดะ ให้ อันดับ ของหน่วย 11 มาเอาตัวเธอหลบหนีไปก่อน ต่อมาเธอได้เจอกับ ซาราคิ เคมปาจิ หัวหน้าหน่วย 11 ซึ่งต้องการเจออิจิโกะ จึงได้กักตัวเธอไว้ให้ช่วย หลังจากนั้นโอริฮิเมะกับอิชิดะ แช้ด และกันจูได้ขึ้นไปยังลานประหารในขณะที่อิจิโกะกำลังสู้กับเบียคุยะอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงเธอก็ได้ไปรับอิจิโกะเอาไว้ บอกคำหวานซึ้งตามที่เธอห่วงใยอิจิโกะ ต่อมาหลังจากที่ไอเซ็นก่อกบฏจนเหตุการณ์สงบลง และพวกอิจิโกะก็ได้รับการยอมรับในฐานะผู้มีพระคุณ เธอและพวกอิจิโกะ ยกเว้น ลูเคีย ก็กลับไปยังโลกมนุษย์ดังเดิม

ภาคอารันคาร์
[แก้]

หลังจากเสร็จสิ้นพวกเบาท์ไป ก็ได้มีข่าวคราวของไอเซ็นว่ามีการพัฒนาการขึ้น โดยจุดเริ่มต้นก็คือ อุลคิโอร่า Espada หมายเลข 4 และ ยามี่ หมายเลข 10 ได้ลงมายังโลกมนุษย์ตามคำสั่งของไอเซ็นเพื่อมาส่องดูเพื่อกำจัดเป้าหมายที่เป็นอันตรายต่อพวกพ้องตน โดยที่แช้ดกับโอริฮิเมะสัมผัสได้ และได้ตามไปถึงสวนสาธารณะได้เห็นพวกคนที่ถูกยามี่ดูดวิญญาณและหนึ่งในนั้น มี ทัตสึกิ แต่โชคดีที่ไม่ตาย แช้ดได้บอกให้โอริฮิเมะถอยไป โดยตนจะต่อสู้เอง หลังจากที่เธอไปไม่นาน แช้ดก็ถูกยามี่เล่นงานจนแขนขวาขาดห้อยร่องแร่ง โอริฮิเมะสัมผัสได้จึงไปหาแช้ด และได้พยายามต่อสู้กับยามี่ แต่ซึบากิพลังโจมตีเพียงหนึ่งเดียวของเธอก็ถูกทำลายไม่เหลือซาก โชคดีอิจิโกะมาช่วยทัน แต่ทว่าอิจิโกะต้องพ่ายแพ้และกำลังจะถูกยามี่ฆ่าเพราะมัวแต่สู้กับฮอลโลว์ในตัวเองจึงไม่มีแรงต่อสู้ แต่โอริฮิเมะพยายามเข้ามาขวางจึงถูกยามี่ตบกระเด็นไปไกลบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่อุราฮาระกับโยรุอิจิมาช่วยทัน ต่อมาหลังได้รับการรักษา พวกลูเคีย เร็นจิ รันงิคุ ฮิซึกายะ อิกคาคุ ยูมิจิกะ ก็มายังโลกมนุษย์ ลูเคียได้พาอิจิโกะมาขอโทษโอริฮิเมะที่ไม่แข็งแกร่งพอและปกป้องเธอไม่ได้ นอกจากนี้ รันงิคุก็ได้มาขอพักบ้านเธอด้วยและเป็นคนแรกที่ชิมอาหารของเธอแล้วอร่อยอีกด้วย ซ้ำยังเธอยังเป็นรักษา ฮิซึกายะ และ ลูเคียจากการต่อสู้ระหว่างที่มาสังกัดโลกมนุษย์กับพวกกิลเลียน ต่อมาไม่นานนักพวกยมทูต ตัวแทน รวมถึงพวกไวเซิร์ด(กองทัพหน้ากาก) และผู้มีพลังและรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกยมทูตดีอย่างพวกแช้ด อิชิดะ โอริฮิเมะ ก็ได้ซ้อมรบก่อนฤดูหนาวที่จะมาถึง แต่เนื่องจาก อุราฮาระ ได้เกรงว่าไอเซ็นจะต้องการพลังย้อนกลับของโอริฮิเมะ จึงได้ว่าเธอเป็นตัวถ่วงเนื่องจากไม่มี ซึบากิ โอริฮิเมะกลั้นน้ำตา และมาร้องไห้กับลูเคีย แต่ลูเคียได้ปลอบใจว่าเธอไม่ใช่ตัวถ่วง สุดท้ายซึบากิเธอก็ฟื้นคืนกลับมาจากความช่วยเหลือของพวกไวเซิร์ด โอริฮิเมะจึงได้ฝึกการต่อสู้โดยการไปซ้อมกับลูเคียที่โซลโซไซตี้หลังจากได้รับการอนุญาตจาก อุคิทาเกะ หัวหน้า หน่วย 13 และก็เป็นไปดั่งที่ อุราฮาระคาดไว้ ไอเซ็นได้ต้องการตัวของโอริฮิเมะ โดยการส่งพวกEspadaมาต่อสู้กับพวกอิจิโกะและลูเคีย เพื่อเปิดช่องให้ อุลคิโอร่า มาลักพาตัวโอริฮิเมะ ระหว่างที่เธอกำลังจะไปโลกมนุษย์หลังจากฝึกซ้อมที่โซลโซไซตี้แล้ว โดยเธอโดนบังคับแบบมัดมือชกเพราะถูกขู่ว่าจะสังหารพวกเพื่อนพ้องเธอ โดยอุลคิโอร่า ให้เวลา 12 ชม. ไปบอกลาคนเพียงคนเดียวแบบไม่ให้รู้ตัว ซึ่งเธอเลือกจะไปบอกกับ อิจิโกะ ที่กำลังนอนหลับตายให้องของเขาเนื่องจากบาดเจ็บจากากรต่อสู้กับกริมจอร์ Espada 6 โอริฮิเมะได้พูดความในใจ และพยายามจะจุมพิตอิจิโกะที่ไม่ได้สติ แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธอจึงรักษาบาดแผลและลาจากไปอย่างเจ็บปวด

ภาคฮูเอโก มุนโด้
[แก้]

หลังจากที่โอริฮิเมะไปยัง ลาสนอเช่ ปราสาทของไอเซ็น เธอได้รักษาแขนซ้ายของกริมจอร์จนหายดีแล้ว ไอเซ็นยังให้เธอเป็นพวกโดยการให้ใส่ชุดเครื่องแบบของอารันคาร์ ทั้งยังเคยให้เธอดู โฮเงียคุอีกด้วย และขังเธอไว้ในห้องใหญ่ โดยอุลคิโอร่าเป็นคนคอยเฝ้าดู ต่อมาพวกอิจิโกะ แช้ด อิชิดะ ลูเคีย เร็นจิ ได้มาช่วยเธอ โอริฮิเมะได้แต่เฝ้าคอยและเป็นห่วงเหมือนอย่างความรู้สึกของลูเคียที่จะถูกประหาร ต่อมาหลังจากที่เธอได้สัมผัสว่า แช้ดเพื่อนของเธอได้พ่ายแพ้แล้วจากพลังวิญญาณเธอได้ถามกับอุลคิโอร่า ว่า "แช้ดยังไม่ตายใช่มั้ย"แต่คำพูดของอุลคิโอร่าทำให้เธอทนไม่ไหว ถึงกับวิ่งไปตบหน้าอย่างแรง และหลังจากที่ เธอสัมผัสพลังของเพื่อนเธอ ลูเคีย ตามด้วยอิจิโกะ เมื่อรับรู้ถึงอันตรายที่เกิดกับเพื่อนเธอจึงพยายามที่จะออกไปจากห้องขัง แต่แล้ว 2 อารันคาร์ โลลี่ กับ มิโนริ ที่อิจฉาริษยาเธอที่ไอเซ็นให้การดูแลเป็นพิเศษจึงได้เข้ามาพูดคุยและทำร้ายจนเกือบตาย โชคดีที่กริมจอร์เข้ามาช่วยเพราะตอบแทนค่าที่เธอช่วยรักษาแขนซ้ายให้เขา และลากคอโอริฮิเมะ ไปยังอิจิโกะที่ใกล้ตาย จากการที่ต่อสู้กับ อุลคิโอร่า และบังคับให้เธอรักษาอิจิโกะ แต่ระหว่างที่เธอรักษาอยู่ อุลคิโอร่าก็ได้เข้ามาขัดขวาง กริมจอร์เกรงว่าจะเสียแผน จึงเข้าต่อสู้กับอุลคิโอร่าเล่นลอบกัด จนอุลคิโอร่าเพลี่งพลำจนต้องหนีไปตั้งหลัก และกริมจอร์ก็บังคับให้โอริฮิเมะรักษาอิจิโกะต่อ แต่โอริฮิเมะไม่ยอมรักษาหลังจากที่รู้ว่า กริมจอร์ให้รักษาอิจิโกะเพียงเพราะให้อิจิโกะลุกขึ้นมาสู้และจะฆ่าให้ตายไปข้างนึงตามนิสัยที่ชอบต่อสู้ กริมจอร์โกรธจะทำร้ายเธอแต่อิจิโกะมาขวางไว้และขอให้ เธอรักษาเขาและกริมจอร์ และให้เธอรอดูการต่อสู้ซึ่งถ้าเขาชนะ เขาจะพาเธอกลับบ้าน อิจิโกะเข้าต่อสู้กับกริมจอร์อย่างเอาเป็นเอาตาย และพลาดท่าแม้จะใช้ท่าสวมหน้ากาก แต่เมื่อกริมจอร์ปลดปล่อยดาบ อิจิโกะก็แทบจะรับไม่ไหว โอริฮิเมะซึ่งไม่เคยเห็นอิจิโกะในสภาพฮอลโลว์จึงมัวแต่กลัว แต่เนล อดีต Espada 3 ในร่างเด็กได้พูดให้กำลังใจอิจิโกะและอธิบายให้เธอฟังจนหายกลัว โอริฮิเมะได้ตะโกนให้กำลังใจอิจิโกะ และพาเธอกลับ แต่แล้ว นอยโทร่า Espada 5 ได้มาขวางและจะซ้ำเติมอิจิโกะที่บาดเจ็บจนสู้ไม่ไหว ส่วนตัวเธอก็ถูก ลูกน้องนอยโทร่าจับตัวไว้ อิจิโกะกำลังจะถูกฆ่าโชคดีที่ เนลได้กลับร่างเดิม คือ เนเรียล และได้ต่อสู้กับนอยโทร่า จนเกือบจะชนะ แต่ทว่ากลับร่างเป็นเด็กที่จำความอะไรไม่ได้เหมือนเดิม และก็โชคดีของพวกอิจิโกะ ที่ทางโซลโซไซตี้ส่ง ซาราคิ เคมปาจิ หน่วย 11 คุจิกิ เบียคุยะ หน่วย 6 อุโนะฮานะ เร๊ตสึ หน่วย 4 มาช่วย โดยเคมปาจิช่วยอิจิโกะไว้ และสู้กับนอยโทร่าจนชนะ ขณะที่อิจิโกะกำลังจะพาโอริฮิเมะกลับ Espada มาจับตัวไว้ไปยังปราสาท โดยที่ไอเซ็นได้กล่าวกับเธอว่า ให้ยิ้ม อย่าเศร้าไป แล้วจะกลับมาหาเธออีกครั้งหลังจากทำลายเมืองได้แล้ว ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของไอเซ็นไม่ได้ต้องการพลังของเธอ แต่ที่จับตัวเธอมา เพื่อให้พวกโซลโซไซตี้ปั่นป่วน และจะเพิ่มกำลังรักษาไปที่จุดเดียวโดยไม่ได้มุ่งที่จุดโลกมนุษย์ แต่ยามาโมโตะ แห่ง หน่วย 1 รู้เท่าทันจึงได้ยกพวกมาดักไอเซ็นที่เมืองคาราคุระปลอม ที่สร้างจำลองขึ้นมา ฝ่ายอิจิโกะได้ติดตามโอริฮิเมะไปยังปราสาทลาสนอเช่ ในขณะที่อุลคิโอร่ากำลังคุยกับโอริฮิเมะและเอามือไปแตะที่สันจมูกเธอ อิจิโกะได้บุกเข้ามาช่วย และต่อสู้กับอุลคิโอร่า ระหว่างนั้นโลลี่และมิโนริได้ฟังจากที่ไอเซ็นบอกว่า โอริฮิเมะได้หมดประโยชน์แล้ว ทั้งคู่จึงตรงไปจะฆ่าเธอซะด้วยไม่ชอบเธอ ระหว่างที่อิจิโกะสู้กับอุลคิโอร่า โอริฮิเมะก็ถูกจับเป็นตัวประกันแต่แล้วยามี่ก็เข้ามาบอกกับ 2 อารันคาร์ว่า "เกะกะ"แล้วปัดมิโนริกระเด็นไปไกลก่อนจะทำร้ายโลลี่แต่โอริฮิเมะได้ช่วยรักษาไว้ ยามี่จะทำร้ายโอริฮิเมะแต่โลลี่คงซึ้งในน้ำใจที่โอริฮิเมะช่วยรักษาพวกเธอถึง 2 ครั้ง ทั้งๆที่พวกเธอจะฆ่าโอริฮิเมะด้วยซ้ำ โลลี่ได้เข้าต่อสู้กับยามี่จนถึงแก่ความตายแล้งยามี่มุ่งเป้าหมายมายังโอริฮิเมะ โชคดีที่อิชิดะ มาช่วยทัน แล้วอิจิโกะกับอุลคิโอร่าก็ออกไปสู้กันข้างนอกปราสาท แต่เมื่ออุลคิโอร่าปลดปล่อยดาบ อิจิโกะถึงกับโดนซีโร่ทะลุอกจนแน่นิ่ง โอริฮิเมะตามขึ้นไปหาเมือ่เห็นอิจิโกะก็พยายามจะรักษาแต่อุลคิโอร่าบอกว่า เปล่าประโยชน์เพราะตายแล้ว แล้วอุลคิโอร่าก็ไปสู้กับอิชิดะ โอริฮิเมะถึงกับคลั่งกรีดร้องให้อิจิโกะช่วย ทันใดนั้น อิจิโกะในสภาพที่ฮอลโลว์เต็มตัวเข้าต่อสู้กับอุลคิโอร่าจนอุลคิโอร่าพ่ายแพ้แล้วร่างกายสลายไป แต่ก่อนที่จะสลายไปเขาได้มองไปที่โอริฮิเมะได้ถามเธอว่า "กลัวข้าหรือไม่? แม่หญิง" โอริฮิเมะตอบด้วยแววตาเศร้าสร้อย "ไม่กลัวหรอก" อุลคิโอร่าพยายามจะยื่นมือไปจับมือโอริฮิเมะก็ยื่นมือตอบแต่ไม่ทันจะจับมืออุลคิโอร่าก็สลายไป

พลัง

[แก้]

ที่มาของพลังของเธอมาจากการได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของโฮเคียวคุในตัวของคุจิกิ ลูเคีย พลังของเธอคือ 6 บุปผาโล่พิทักษ์ ที่สถิตอยู่ที่กิ๊บติดผมของเธอ โดยมี ฮินางิคุ ไบกอน และลิลลี่ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "สามข่ายโล่ห์สวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ") ที่สามารถยับยั้งภายนอกโล่ห์ (สร้างกำแพงป้องกัน)ปัจจุบันยังสามารถสะท้อนพลังโจมตีของคู่ต่อสู้ทุกรูปแบบได้อีกด้วย โดยใช้ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่สี่สวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ")

ซึบากิ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่ห์เดี่ยวผ่าสวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถในการ ยับยั้งสองฟากข้างโล่ห์ (ผ่าศัตรูเป็นสองซีก)

ชุนโอ (หัวหน้าหกบุปผาโล่ห์พิทักษ์) และอายาเมะ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่ห์แฝดคืนสวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถคือ ยับยั้งภายในโล่ห์ หรือก็คือ "ปฏิเสธเหตุการณ์"ซึ่งเป็นมากกว่าการย้อนเวลา เธอสามารถปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ โดยผู้ที่อยู่ภายในโล่ห์นั้นจะกลับคืนสู่สภาพก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บ พลังจะเน้นเป็นด้านการป้องกันและรักษา ส่วนต่อสู้พลังค่อนจะข้างน้อย แต่มีสันนิฐานว่า พลังของเธอ ที่แม้จะถูกมองว่าอ่อนแอในด้านต่อสู้ จะเพิ่มมากขึ้นจนแข็งแกร่งน่าเหลือเชื่อ