ข้ามไปเนื้อหา

อารามอันเด็คส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อารามอันเด็คส์
อารามอันเด็คส์
แผนที่
47°59′0″N 11°11′0″E / 47.98333°N 11.18333°E / 47.98333; 11.18333
ที่ตั้งอันเด็คส์ในภูมิภาคโอเบอร์ไบเอิร์น
ประเทศธงของประเทศเยอรมนี เยอรมนี
นิกายโรมันคาทอลิก
เว็บไซต์อารามอันเด็คส์
ประวัติ
สถานะอาราม
สถาปัตยกรรม
ประเภทสถาปัตย์อาราม ผังรูปไข่
รูปแบบสถาปัตย์บารอก
ปีสร้างค.ศ. 1712

อารามอันเด็คส์ (อังกฤษ: Andechs Abbey) เป็นอารามโรมันคาทอลิกตั้งอยู่ที่หมู่บ้านอารามอันเด็คส์ในประเทศเยอรมนี สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบบารอกที่มาเปลี่ยนแปลงใน ค.ศ. 1712

อารามอันเด็คส์ของคณะเบเนดิกติน เดิมเป็นสถานที่สำหรับการจาริกแสวงบุญตั้งอยู่บนเนินริมทะเลสาบอัมเมอร์เซในบาวาเรียเหนือ อารามมีชื่อเสียงในการที่เป็นสิ่งก่อสร้างแบบบารอก นอกจากจะเป็นอารามแล้วก็ยังมีชื่อในการผลิตเบียร์ คีตกวีคาร์ล ออร์ฟ (Carl Orff) ถูกบรรจุไว้ชาเปลด้านข้างภายในอาราม

เคานต์และดยุกแห่งอันเด็คส์

[แก้]

ที่ตั้งของอันเด็คส์เดิมเป็นปราสาทที่เป็นของเคานต์แห่งดีเซิน (Dießen) บนฝั่งทะเลสาบอัมเมอร์เซที่อาจจะสร้างโดยโรมันตามแบบที่เรียกว่า "ป้อมโรมัน" (Castra) ที่ต่อมาเป็นศูนย์กลางอันสำคัญในการปกครองของเคานต์ดีเซิน-อันเด็คส์ (ค.ศ. 1135 ถึง ค.ศ. 1180) และดยุกแห่งอันเด็คส์-เมราเนียน (ค.ศ. 1180 ถึง ค.ศ. 1248) ในปี ค.ศ. 1132 เคานต์ก็ยกดินแดนของบรรพบุรุษที่ดีเซินให้แก่สันตะสำนัก และแยกมารวมกับอันเด็คส์

อ็อทโทที่ 2 แห่งอันเด็คส์เป็นบิชอปแห่งบัมแบร์คระหว่างปี ค.ศ. 1177 ถึง ค.ศ. 1196 ในปี ค.ศ. 1208 เมื่อ ฟิลิปแห่งชวาเบีย พระมหากษัตริย์แห่งชาวเยอรมันถูกปลงพระชนม์ที่บัมแบร์คโดยเคานต์อ็อทโทที่ 8 แห่งวิทเทิลส์บัค สมาชิกของตระกูลอันเด็คก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วม ซึ่งทำให้ปราสาทอันเด็คส์ถูกปล้นเผาผลาญ

นักบุญเฮดวิกแห่งอันเด็คส์ (ราว ค.ศ. 1174 - ตุลาคม ค.ศ. 1243) ผู้เกิดที่อันเด็คส์เป็นบุตรีหนึ่งในแปดคนของเบอร์โทลด์ที่ 4 ดยุกแห่งเมราเนีย และดยุคแห่งอิสเทรีย ในบรรดาพี่น้องชายสี่คนของเฮดวิกสองคนเป็นบิชอป คือ เอ็คแบร์ต บิชอปแห่งแบมเบิร์ก (ค.ศ. 1203 - ค.ศ. 1231) และเบอร์โทลด์บิชอปแห่งอควิเลเอีย ส่วนอีกสองคน--อ็อทโทที่ 1 สืบบรรดาศักดิ์ดยุกแห่งดาลเมเชียต่อจากบิดา และไฮน์ริชเป็นมาเกรฟแห่งอิสเทรีย ส่วนพี่น้องสตรีสามคน--เกอร์ทรูดแห่งเมราเนีย (ค.ศ. 1185–24 กันยายน ค.ศ. 1213) เป็นพระอัครมเหสีองค์แรกของพระเจ้าแอนดรูว์ที่ 2 แห่งฮังการี และเป็นแม่ของนักบุญเอลิซาเบธแห่งฮังการี ส่วนเมคทิลเดอเป็นอธิการโบสถ์ที่คิทซิงเก็น และแอ็กเนสแห่งเมราเนียผู้มีความงดงามเป็นที่เลื่องลือไปเป็นพระสนมของพระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1196 แม้จะได้รับการประท้วงจากพระอัครมเหสีอิงเกอบอร์กแห่งเดนมาร์ก แต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1196 พระเจ้าฟิลิปก็เสกสมรสกับแอ็กเนส แต่ในปี ค.ศ. 1199 สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ทรงออกพระประกาศว่าการเสกสมรสระหว่างพระเจ้าฟิลิปและแอ็กเนสเป็นโมฆะเพราะพระองค์ยังทรงเสกสมรสกับอิงเกอบอร์ก และทรงสั่งให้แยกจากแอ็กเนส เมื่อพระเจ้าฟิลิปไม่ทรงปฏิบัติตามพระสันตะปาปาจึงทรงประกาศให้ฝรั่งเศสอยู่ในภาวะที่ถูกโทษต้องห้าม จากความกดดันที่สร้างขึ้นรอบด้านในที่สุดพระเจ้าฟิลิปก็ทรงยอมและทรงสถาปนาอิงเกอบอร์กเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส

เมื่อบรรดาศักดิ์อันเด็คส์-เมรานสิ้นสุดลงเพราะไม่มีทายาทชายในปี ค.ศ. 1248 บริเวณดีเซิน-อันเด็คส์ทั้งหมดก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชรัฐมุขนายกบัมแบร์ค[1]

ในปี ค.ศ. 955 เรลิกที่นักบุญราสโซเคานต์แห่งดีเซินไปนำมาจากโรมและดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์มาไว้ที่อารามที่เวิร์ท (ต่อมาคือกราฟรัท) ถูกย้ายเพื่อหลบภัยจากการโจมตีปล้นสดมของชาวฮังการี ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ก็ได้เพิ่มชิ้นขนมปัง (Host) สามชิ้นที่ได้รับการเจิม ที่สองชิ้นเชื่อกันว่าเจิมโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 1 และอีกชิ้นหนึ่งโดยสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 9 ในบรรดาเรลิกบน "เนินศักดิ์สิทธิ์" (Heiligen Berg) ที่อันเด็คส์ เอกสารแรกที่บันทึกเกี่ยวกับการจาริกแสวงบุญมายังอันเด็คส์เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1138 เมื่อเคานต์เบอร์โทลด์ที่ 2 มีคำสั่งให้ประชาชนในการปกครองเดินทางไปสักการะเรลิกในชาเปลเซนต์นิโคลัสที่ "ปราสาท" เมื่อมีการค้นพบองควัตถุที่หายไปในปี ค.ศ. 1388 ก็เกิดมีการตื่นตัวในการจาริกแสวงบุญขึ้นอีก ขนมปังศักดิ์สิทธิ์ได้รับการยืนยันโดยพระคาร์ดินัลนิโคลัสแห่งคูส

โบสถ์สมัยปลายกอธิคที่แอ็นสท์ ดยุคแห่งบาวาเรีย (ค.ศ. 1392 – ค.ศ. 1438) สร้างไว้ในปี ค.ศ. 1423 ได้รับการเปลี่ยนเป็นอารามคณะเบเนดิกตินโดยอัลเบร็ชท์ที่ 3 ดยุกแห่งบาวาเรียในปี ค.ศ. 1455 โดยนำนักบวชมาจากอารามเทเกิร์นเซ ในปี ค.ศ. 1458 วัดก็ได้รับการเลื่อนฐานะขึ้นเป็นอาราม ตั้งแต่นั้นมาก็มีแต่ความรุ่งเรือง ตัววัดมาเปลี่ยนเป็นสถาปัตยกรรมแบบบารอกในปี ค.ศ. 1712 สำนักสงฆ์มาเปลี่ยนมือระหว่างการปฏิรูปในปี ค.ศ. 1803 และมาฟื้นฟูขึ้นเป็นไพรออรีของคณะเบเนดิกตินอีกครั้งในปี ค.ศ. 1850 ที่ขึ้นกับอารามนักบุญโบนิเฟซ มิวนิก อารามปัจจุบันสร้างมาตั้นแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18

ระเบียงภาพ

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Joseph Hormayr, Baron zu Hortenburg. Geschichte des Grafen von Andechs (1796)

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]