ตระกูลอาชิกางะ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ตระกูลอาชิกางะ 足利氏 | |
---|---|
เชื้อสาย | เซวะ เก็นจิ (ตระกูลมินาโมโตะ) |
ผู้นำคนแรก | มินาโมโตะ โนะ โยชิยาสุ |
ผู้นำคนสุดท้าย | อะชิกะงะ โยะชิอะกิ |
ปกครองจนถึง | ค.ศ. 1573 รัฐบาลโชกุนอาชิกางะ ถูกปลดโดย โอดะ โนบูนางะ |
ตระกูลย่อย | ตระกูลโฮโซกาวะ ตระกูลอิมะงะวะ ตระกูลฮาทาเคยามะ ตระกูลคิระ ตระกูลชิบะ ตระกูลฮาจิสุคะ ฯลฯ |
ตระกูลอาชิกางะ หรือ อาชิกากะ (ญี่ปุ่น: 足利氏; โรมาจิ: Ashikaga-shi) เป็นตระกูลซามูไรที่โดดเด่นของญี่ปุ่นซึ่งก่อตั้งรัฐบาลโชกุนอาชิกางะและปกครองญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1333[1] ถึงปี ค.ศ. 1573[2]
ตระกูลอาชิกางะสืบเชื้อสายมาจากตระกูลมินาโมโตะซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพระจักรพรรดิเซวะ เรียกว่า ตระกูลเซวะเก็นจิ (ญี่ปุ่น: 清和源氏; โรมาจิ: Seiwa Genji ) สาขาซึ่งตั้งรกรากอยู่ที่แคว้นคาวาจิ (จังหวัดโอซากะในปัจจุบัน) เรียกว่า ตระกูลคาวาจิเก็นจิ (ญี่ปุ่น: 河内源氏; โรมาจิ: Kawachi Genji) หนึ่งในสมาชิกของตระกูลคาวาจิเก็นจิ คือ มินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ (ญี่ปุ่น: 源 義家; โรมาจิ: Minamoto no Yoshiie) เป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงในยุคเฮอัง มินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ มีบุตรชายชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิจิกะ (ญี่ปุ่น: 源 義親; โรมาจิ: Minamoto no Yoshichika) เป็นปู่ทวดของโชกุนคนแรก มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ
นอกจากนี้ มินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ ยังมีบุตรชายอีกคนชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 源 義国; โรมาจิ: Minamoto no Yoshikuni) ซึ่งมินาโมโตะ โนะ โยชิกูนิ มีบุตรชายคนโตชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิชิเงะ (ญี่ปุ่น: 源 義重; โรมาจิ: Minamoto no Yoshishige) โยชิชิเงะเดินทางไปตั้งรกรากที่เมืองนิตตะ (ญี่ปุ่น: 新田; โรมาจิ: Nitta) ในแคว้นโคซูเกะ (ญี่ปุ่น: 上野; โรมาจิ: Kōzuke) ปัจจุบันคือเมืองโอตะจังหวัดกุมมะ เป็นบรรพบุรุษของตระกูลนิตตะ ตระกูลยามานะ และตระกูลโทกูงาวะ
มินาโมโตะ โนะ โยชิกูนิ มีบุตรชายคนที่สอง ชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิยาซุ (ญี่ปุ่น: 源 義康; โรมาจิ: Minamoto no Yoshiyasu) โยชิยาซุเดินทางไปตั้งรกรากที่เมืองอาชิกางะ ในแคว้นชิมตสึเกะ (ญี่ปุ่น: 下野; โรมาจิ: Shimotsuke ปัจจุบันคือจังหวัดโทจิงิ) เป็นบรรพบุรุษของตระกูลอาชิกางะ มินาโมโตะ โนะ โยชิยาซุ มีบุตรชายชื่อว่า อาชิกางะ โยชิกาเนะ (ญี่ปุ่น: 足利義兼; โรมาจิ: Ashikaga Yoshikane) อาชิกางะ โยชิกาเนะ มีบทบาทและมีความดีความชอบต่อโชกุนคนแรก มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ ในสงครามเก็มเป (ญี่ปุ่น: 源平合戦; โรมาจิ: Genpei kassen) อาชิกางะ โยชิกาเนะ สมรสกับ โฮโจ โทกิโกะ (ญี่ปุ่น: 北条時子; โรมาจิ: Hōjō Tokiko) ซึ่งเป็นบุตรสาวของโฮโจ โทกิมาซะ และเป็นน้องสาวของนางโฮโจ มาซาโกะ เท่ากับว่าอาชิกางะ โยชิกาเนะ เป็นน้องเขยของโชกุนมินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ
แม้ว่าต้นตระกูลอาชิกางะจะมีผลงานโดดเด่นในสงครามเก็มเป แต่ตลอดยุคคามากูระ ตระกูลอาชิกางะมีบทบาททางการเมืองเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามรัฐบาลโชกุนคามากูระและตระกูลโฮโจยังคงให้เกียรติตระกูลอาชิกางะด้วยการส่งสตรีจากตระกูลโฮโจมาสมรสกับตระกูลอาชิกางะอย่างต่อเนื่อง ในยุคคามากูระ ผู้นำตระกูลอาชิกางะทุกคนมีภรรยาเอกมาจากตระกูลโฮโจ
นอกจากนี้ตระกูลอาชิกางะยังแตกสาขาย่อยออกไปเป็นตระกูลต่าง ๆ อีกมากมาย ได้แก่
- ตระกูลโฮโซกาวะ (ญี่ปุ่น: 細川; โรมาจิ: Hosokawa)
- ตระกูลนิกกิ (ญี่ปุ่น: 仁木; โรมาจิ: Nikki)
- ตระกูลฮาตาเกยามะ (ญี่ปุ่น: 畠山; โรมาจิ: Hatakeyama)
- ตระกูลคิระ (ญี่ปุ่น: 吉良; โรมาจิ: Kira)
- ตระกูลอิมางาวะ (ญี่ปุ่น: 今川; โรมาจิ: Imagawa)
- ตระกูลชิบะ (ญี่ปุ่น: 斯波; โรมาจิ: Shiba)
- ตระกูลชิบูกาวะ (ญี่ปุ่น: 渋川; โรมาจิ: Shibukawa)
- ตระกูลอิซชิกิ (ญี่ปุ่น: 一色; โรมาจิ: Isshiki)
ในยุคมูโรมาจิตระกูลอาชิกางะมีอยู่สองสาขาด้วยกันได้แก่ สาขาตระกูลของโชกุนซึ่งปกครองรัฐบาลโชกุนที่เมืองเกียวโต และสาขาซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น คันโตคุโบ (ญี่ปุ่น: 関東公方; โรมาจิ: Kantō kubō ) ปกครองภาคตะวันออกของญี่ปุ่นอยู่ที่เมืองคามากูระ
เมื่อโชกุนอาชิกางะคนสุดท้าย คือ อาชิกางะ โยชิอากิ (ญี่ปุ่น: 足利 義昭; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiaki) ถูกโอดะ โนบูนางะ ปลดจากตำแหน่งโชกุนใน ค.ศ. 1573 สิ้นสุดรัฐบาลโชกุนอาชิกางะ บุตรชายเพียงคนเดียวของโชกุนโยชิอากิบรรพชาเป็นพระภิกษุไม่มีทายาท ทำให้ตระกูลอาชิกางะสาขาตระกูลโชกุนสิ้นสุดลง
ใน ค.ศ. 1455 ผู้ดำรงตำแหน่งคันโตคุโบคนสุดท้ายคือ อาชิกางะ ชิเงอูจิ (ญี่ปุ่น: 足利 成氏; โรมาจิ: Ashikaga Shigeuji) ถูกตระกูลอูเอซูงิ (ญี่ปุ่น: 上杉; โรมาจิ: Uesugi ) ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมือง ขับออกจากเมืองคามากูระ ชิเงอูจิหลบหนีไปยังเมืองโคงะ (ญี่ปุ่น: 古河; โรมาจิ: Koga ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดอิบารากิ) ได้รับสมญานามว่า โคงะคุโบ (ญี่ปุ่น: 古河公方; โรมาจิ: Koga kubō) บุตรหลายของชิเงอูจิสืบทอดสมญานามโคงะคุโบต่อมา จนกระทั่งเมื่อโคงะคุโบคนสุดท้ายคือ อาชิกางะ โยชิอูจิ (ญี่ปุ่น: 足利 義氏; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiuji) เสียชีวิตโดยไม่มีบุตรชายใน ค.ศ. 1583 ทำให้ตระกูลอาชิกางะสาขาของภูมิภาคคันโตสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามมีบุตรหลานของอาชิกางะ ชิเงอูจิ ตั้งรกรากที่ปราสาทโอยูมิ (ญี่ปุ่น: 小弓; โรมาจิ: Oyumi ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดชิบะ) และเปลี่ยนชื่อตระกูลจากอาชิกางะเป็น คิตสึเรกาวะ (ญี่ปุ่น: 喜連川; โรมาจิ: Kitsurekawa) ตระกูลคิตสึเรกาวะเป็นไดเมียวปกครองแคว้นคิตสึเรกาวะไปจนตลอดยุคเอโดะ
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ "...Ashikaga (1333-1572)" Warrior Rule in Japan, page 11. Cambridge University Press.
- ↑ Nussbaum, Louis-Frédéric. (2005). "Ashikaga" in Japan Encyclopedia, pp. 53-57, p. 53, ที่กูเกิล หนังสือ; n.b., Louis-Frédéric is pseudonym of Louis-Frédéric Nussbaum, see Deutsche Nationalbibliothek Authority File.
อ้างอิง
[แก้]- Nussbaum, Louis-Frédéric and Käthe Roth. (2005). Japan encyclopedia. Cambridge: Harvard University Press. ISBN 978-0-674-01753-5; OCLC 58053128
ตระกูลที่เป็นสาขาย่อยอื่น ๆ ของตระกูลอาชิกางะ เช่น ตระกูลโฮโซกาวะ ยังคงสืบเชื้อสายมาจนถึงยุคปัจจุบัน