หลังสวน พันธ์ยุทธภูมิ
หลังสวน พันธ์ยุทธภูมิ | |
---|---|
เกิด | ปิ่นทอง วงศ์ปัญญา[1] 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 จังหวัดพะเยา |
ชื่ออื่น | ขุนเข่าไร้น้ำใจ |
สถิติ | |
น้ำหนัก | 51 kg (112 lb; 8.0 st) |
ส่วนสูง | 1.68 m (5 ft 6 in) |
รูปแบบการชก | มวยเข่า |
สถิติขึ้นชก | |
ชกทั้งหมด | 111 |
ชนะน็อก | 7 |
ไม่มีการตัดสิน | 1 |
หลังสวน พันธ์ยุทธภูมิ (เกิด 1 กุมภาพันธ์ 2510) เป็นอดีตยอดมวยไทย เขาได้รับเลือกให้เป็นนักมวยไทยยอดเยี่ยม เมื่อปี 2530 นอกจากนี้เขายังเป็นแชมป์ของสนามมวยลุมพินี 3 รุ่นในยุคทองของมวยไทยอีกด้วย
ประวัติและอาชีพ
[แก้]ปิ่นทอง วงษ์ปัญญา เริ่มฝึกมวยไทยเมื่ออายุ 14 ปี ก่อนเข้าร่วมค่ายพันธ์ยุทธภูมิ ในปี 2527 โดยใช้ชื่อว่า ปิ่นทอง พันธ์ยุทธภูมิ หลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น หลังสวน พันธ์ยุทธภูมิ เนื่องจากหลังสวนตัวจริงป่วยไม่สามารถขึ้นเวทีชกได้ ปิ่นทองจึงสวมชื่อชกแทนและใช้ชื่อนี้จนกระทั่งแขวนนวม หลังสวนชกที่กรุงเทพฯ นานถึง 10 ปี จนได้รับสมญานามว่า "ขุนเข่าไร้น้ำใจ" จากการตีเข่าอย่างไม่หยุดยั้งใส่ฮิปปี้ สิงห์มณี อดีตยอดมวยไทยอีกคนหนึ่ง จนฮิปปี้ร้องไห้กลางเวที
ในปี 2530 หลังสวนชก 10 ครั้ง ชนะ 9 ครั้ง ผลงานครั้งนี้เพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเขียนกีฬาแห่งประเทศไทย ในปีเดียวกันนั้นเองเขาคว้าแชมป์สนามมวยลุมพินีครั้งแรกในรุ่น 108 ปอนด์ที่ว่าง โดยเอาชนะเด่นเหนือ เด่นโมฬี หลังสวนยังคว้าแชมป์สนามมวยลุมพินีอีก 2 รุ่น คือ 112 และ 115 ปอนด์ในปีต่อมา รวมถึงแชมป์โลกที่เขาคว้ามาได้ระหว่างการชกที่สหรัฐอเมริกา หลังสวนเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นและได้รับค่าตัวสูงถึง 250,000 บาท หลังสวนสามารถเอาชนะนักมวยชื่อดังในยุคของเขาได้ เช่น ฮิปปี้ สิงห์มณี, แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์, เจริญทรัพย์ เกียรติบ้านช่อง, คฤหาสน์ ส.สุภาวรรณ, วีระพล สหพรหม และวังจั่นน้อย ส.พลังชัย
หลังจากที่เขาแขวนนวม หลังสวนก็ไปเป็นเทรนเนอร์ที่ประเทศญี่ปุ่น เขากลับมาเมืองไทยและไปสอนอยู่ที่ค่ายสุวรรณคีรี จังหวัดพะเยาซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเขา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "123 ALL TIME GREATEST MUAY THAI FIGHTERS Book, Langsuan page". 8limbsus.com.