ศูนย์การแพทย์ไอเซนฮาวร์
ศูนย์การแพทย์ไอเซนฮาวร์ | |
---|---|
ภูมิศาสตร์ | |
ที่ตั้ง | 39-000 บ็อบ โฮป ไดรฟ์ แรนโชมิราจ เทศมณฑลริเวอร์ไซด์, ภูมิภาคโคเชลาแวลลีย์, รัฐแคลิฟอร์เนีย |
พิกัด | 33°45′48″N 116°24′20″W / 33.76333°N 116.40556°W[1] |
หน่วยงาน | |
รูปแบบทุน | ไม่แสวงผลกำไร |
ประเภท | ทั่วไป |
บริการสุขภาพ | |
มาตรฐาน | โรงพยาบาลระยะเฉียบพลันทั่วไป[2] |
จำนวนเตียง | 476 เตียง |
ประวัติ | |
เปิดให้บริการ | ค.ศ. 1969 |
ลิงก์ | |
เว็บไซต์ | https://eisenhowerhealth.org/ |
ศูนย์การแพทย์ไอเซนฮาวร์ (อังกฤษ: Eisenhower Medical Center; อักษรย่อ: EMC) ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อไอเซนฮาวร์เฮลธ์ (อังกฤษ: Eisenhower Health) เป็นโรงพยาบาลเพื่อการเรียนการสอนที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งตั้งอยู่ในแรนโชมิราจ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยให้บริการในพื้นที่ภูมิภาคภูมิภาคโคเชลาแวลลีย์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยได้รับการเสนอชื่อให้เป็น 1 ใน 100 โรงพยาบาลชั้นนำในสหรัฐใน ค.ศ. 2024[3]
ประวัติ
[แก้]โรงพยาบาลแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่อตามประธานาธิบดี ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ และให้เครดิตการก่อตั้งครั้งแรกแก่กิจกรรมสองอีเวนต์ใน ค.ศ. 1966 เมื่อบ็อบ โฮป ผู้เป็นนักแสดงได้รับการขอให้ใช้ชื่อของเขาในการจัดการแข่งกอล์ฟการกุศล และให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการของโรงพยาบาลที่จะสร้างขึ้นจากรายได้ของการแข่งดังกล่าว[4] ซึ่งที่ดินเดิม 80 เอเคอร์ (32 เฮกตาร์) ได้รับการบริจาคโดยบ็อบกับโดโลเรส โฮป และทั้งคู่ช่วยระดมทุนส่วนตัวสำหรับการก่อสร้างโรงพยาบาลนี้[4] การก่อสร้างเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1969 โดยพิธีขุดดินเป็นปฐมฤกษ์มีประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน, รองประธานาธิบดี สปิโร แอกนิว, ผู้ว่าการ โรนัลด์ เรแกน รวมถึงนักแสดงอย่างบ็อบ โฮป, แฟรงก์ ซินาตรา, บิง ครอสบี, จีน ออทรี และลูซิล บอล เข้าร่วม ทั้งนี้ โรงพยาบาลไอเซนฮาวร์หลักได้รับการออกแบบโดยเอ็ดเวิร์ด ดูเรล สโตน ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1971 โดยมีเตียงผู้ป่วย 289 เตียง ส่วนในบรรดาคณะกรรมการชุดแรก ๆ ได้แก่ นักแสดงหญิงอย่างมาร์ธา ไฮเออร์ (ภรรยาของฮาล บี. วอลลิส ผู้สร้างภาพยนตร์) และรอย ดับเบิลยู. ฮิล[5]
อาคารทางการแพทย์ทั้งสามแห่งเดิมได้รับการตั้งชื่อตามนักการกุศลในท้องถิ่น ได้แก่ นายและนางวอลเตอร์ พรอบต์ นายและนางปีเตอร์ คีวิต และนางเฮเซล ไรต์[4] โดยวอลเตอร์ และลีโอนอร์ แอนเนนเบิร์ก นักการกุศล ได้บริจาคเงินเพื่อจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพแอนเนนเบิร์ก[6] ซึ่งอาคารวอลเตอร์ แอนด์ ลีโอนอร์ แอนเนนเบิร์ก พาวิลเลียน ที่เป็นอาคารสี่ชั้นมูลค่า 212.5 ล้านดอลลาร์ ได้เปิดให้ดูแลผู้ป่วยแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2010 และลี แอนเนนเบิร์ก ได้บริจาคเงินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่แคมเปญไอเซนฮาวร์ เฟสสอง[7] ส่วนสถาบันอื่น ๆ ในวิทยาเขต ได้แก่ ศูนย์เด็กบาร์บารา ซินาตรา และศูนย์ดูแลผู้ป่วยนอกโดโลเรส โฮป ซึ่งโดโลเรส โฮป ดำรงตำแหน่งประธาน, ประธานกรรมการ และประธานกิตติมศักดิ์ตั้งแต่ ค.ศ. 1968 และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งสำคัญทุกครั้งที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนี้กระทั่งเสียชีวิตใน ค.ศ. 2011[4]
ภายใน ค.ศ. 1990 ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดเป็นครั้งที่ 3,000[4] ส่วนใน ค.ศ. 2019 โรงพยาบาลนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าอันดับแรกในพื้นที่เขตเมืองเทศมณฑลริเวอร์ไซด์-แซนโบร์นาดีโน[8]
นอกจากนี้ บุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิงต่างมีส่วนร่วมในการระดมทุนให้โรงพยาบาลดังกล่าวตลอดมา และเนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมของคนในวงการบันเทิงจำนวนมาก บุคคลสำคัญเหล่านั้นจึงเข้ารับการดูแลที่โรงพยาบาลแห่งนี้ด้วยเช่นกัน[9] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2006 ประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด เข้ารับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์ไอเซนฮาวร์เป็นเวลาสิบหกวันเพื่อรักษาปอดบวม โดยหลังจากฟอร์ดเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2006 ได้มีการส่งร่างของเขาไปที่ศูนย์การแพทย์ไอเซนฮาวร์ ซึ่งเบ็ตตี ฟอร์ด ภรรยาของเขาเสียชีวิตที่นั่นใน ค.ศ. 2011[10]
โรงพยาบาลเพื่อการเรียนการสอน
[แก้]ไอเซนฮาวร์เฮลธ์ได้เปิดศูนย์การแพทย์ดังกล่าวใน ค.ศ. 1971 และในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้เพิ่มบริการ, ศักยภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเตรียมป้องกันล่วงหน้าและตอบสนองความต้องการของภูมิภาคทะเลทรายที่ขยายตัว ปัจจุบัน ชื่อของไอเซนฮาวร์เฮลธ์ขยายออกไปไกลเกินกว่าการดูแลด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ศูนย์คลอดบุตรในครอบครัว, การได้รับการกำหนดให้เป็นศูนย์รักษาผู้บาดเจ็บระดับ 4 และการพัฒนาการทดลองทางคลินิกในการส่งมอบการแพทย์ฟื้นฟู
ปัจจุบัน ไอเซนฮาวร์เฮลธ์เป็นโรงพยาบาลขนาด 437 เตียงและมีคลินิกผู้ป่วยนอก 93 แห่ง รวมถึงเนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเพื่อการเรียนการสอนที่ไม่แสวงหากำไร ไอเซนฮาวร์เฮลธ์จึงให้บริการชุมชนด้วยการรับบริการผู้ป่วยในประมาณ 25,000 รายต่อปี, การรับบริการแผนกฉุกเฉิน 100,000 ราย และการรับบริการคลินิกผู้ป่วยนอก 1,000,000 ราย เพื่อให้การดูแลที่ครอบคลุมผ่านสายบริการต่าง ๆ จำนวนมาก ใน ค.ศ. 2010 สำนักงานไอเซนฮาวร์เฮลธ์ได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาทางการแพทย์ระดับบัณฑิตศึกษา (GME) ที่ได้รับการรับรองจากสภาการรับรองวิทยฐานะบัณฑิตศึกษาด้านการแพทย์สหรัฐ โดยมีความเชี่ยวชาญในด้านเวชศาสตร์ครอบครัว, อายุรศาสตร์, เวชศาสตร์ฉุกเฉิน รวมถึงเวชศาสตร์การกีฬา, วิทยาปอด, การแก้ติดยาเสพติด, โรคติดเชื้อ และหลักสูตรแพทย์ประจำบ้านต่อยอดเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ รวมถึงการศึกษาทางคณะแพทยศาสตร์ โดยหลักสูตรเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของภารกิจของไอเซนฮาวร์เฮลธ์ในการส่งเสริมแพทย์และผู้นำทางการแพทย์รุ่นต่อไป
ด้วยการบริการสุขภาพปฐมภูมิ, ศูนย์ดูแลฉุกเฉิน, ศูนย์อนามัยสหสาขา และโครงการเฉพาะทาง ไอเซนฮาวร์เฮลธ์จึงมีการสนับสนุนด้านบริการสุขภาพที่ครอบคลุมตั้งแต่การศึกษาและการป้องกัน, ไปจนถึงการวินิจฉัย, การรักษา และการฟื้นฟู ซึ่งไอเซนฮาวร์เฮลธ์ได้ให้การดูแลแบบเฉพาะบุคคลในด้านสุขภาพชาย, สุขภาพหญิง, บริการทางการแพทย์ด้านกลุ่มหลากหลายทางเพศ และการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี ทั้งนี้ ไอเซนฮาวร์เฮลธ์ได้รับการยกย่องให้เป็นโรงพยาบาลเพื่อการเรียนการสอนดีเด่นแห่ง ค.ศ. 2023 ของลีปฟรอก[11] เนื่องจากบรรลุมาตรฐานความเสมอภาคในการดูแลสุขภาพ ซึ่งจุดประสงค์ของไอเซนฮาวร์เฮลธ์คือการให้บริการดูแลสุขภาพขั้นสูง, บริการเฉพาะบุคคล และมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศแก่ผู้ป่วย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ U.S. Geological Survey Geographic Names Information System: Eisenhower Memorial Hospital
- ↑ California Department of Public Health Facility Information
- ↑ "Best Regional Hospital US News and World Report Rankings in Inland Empire Recognized in 17 types of care 2024-2025". US News and World Report. October 7, 2024. สืบค้นเมื่อ October 7, 2024.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 "History of Eisenhower". Eisenhower Medical Center. สืบค้นเมื่อ 2009-05-05.
- ↑ "Med Center Selects Trustees". The Desert Sun. April 29, 1975, p. A4
- ↑ Annenberg Center for Health Sciences
- ↑ "Annenberg Donations to Eisenhower Reach $100 Million". The Annenberg Foundation. December 20, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-13. สืบค้นเมื่อ 2009-05-05.
- ↑ "To Your Health". Palm Springs Life. 31 July 2019. สืบค้นเมื่อ 7 February 2021.
- ↑ "The Legendary Legacy of Eisenhower Medical Center". 27 October 2017.
- ↑ Sharma, Aayush (21 January 2021). "Michelle Pfeiffer To Play Former First Lady Betty Ford For Upcoming TV Show". International Business Times. สืบค้นเมื่อ 7 February 2021.
- ↑ "Leapfrog Top Teaching Hospital 2023". The Leapfrog Group. October 7, 2024.