ศุฮุฟของอิบรอฮีม
ศุฮุฟของอิบรอฮีม ( อาหรับ: صحف إبراهيم , Ṣuḥuf ʾIbrāhīm ) [หมายเหตุ 1] เป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ทางศาสนาของศาสนาอิสลาม เชื่อกันว่าพระคัมภีร์เหล่านี้บรรจุโองการที่นบีอิบรอฮีมได้รับวะฮีย์จากอัลลอฮ์ ซึ่งเขียนโดยท่านเช่นเดียวกับอาลักษณ์และผู้ติดตามของท่าน
เชื่อกันว่าม้วนคัมภีร์เป็นหนึ่งในคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งมอบให้กับนบีอิบรอฮีม [1] และต่อมาใช้โดยอิชมาเอล ( อิสมาอีล ) และ อิสอัค ( อิสฮาก ) แม้ว่าโดยปกติจะเรียกว่า "ม้วนคัมภีร์" แต่นักแปลหลายคนก็แปล ศุฮุฟ ภาษาอาหรับว่า "คัมภีร์" [2] โองการที่กล่าวถึง "คัมภีร์" อยู่ใน อัลกุรอาน 87:18-19 ซึ่งถูกอ้างถึงพร้อมกับ คัมภีร์ของโมเสส เพื่อเป็น "คัมภีร์แห่งวะฮีย์ครั้งก่อน"
เรื่องราว
[แก้]ในสองซูเราะฮ์ (บท) ซึ่งประทานลงมาในมักกะฮ์แรก มีการอ้างอิงถึง 'ใบไม้ ม้วนหนังสือ บันทึกประจำวัน' ( ศุฮุฟ ) ของอิบรอฮีม (และศุฮุฟของมูซา ) โดยสันนิษฐานว่าข้อความบางข้อความที่ได้รับการดลใจจากสวรรค์เขียนด้วยลายมือ โดยปรมาจารย์มีความหมาย ข้อความเหล่านี้กล่าวว่าความจริงของสาส์นของอัลลอฮ์มีอยู่ในการวะฮีย์แรกสุดของนบีอิบรอฮีมและนบีมูซา แม้ว่าโดย ทั่วไปแล้ว ศุฮุฟ จะเข้าใจว่าหมายถึง 'ม้วนคัมภีร์' แต่นักแปลหลายคน รวมทั้งอับดุลลอฮ์ ยูซุฟ อาลีและมารมาดุก พิคทอลล์- ได้แปลวรรคนี้ว่า "คัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา"
การกล่าวถึงในอัลกุรอาน
[แก้]คัมภีร์กุรอาน อ้างถึงศุฮุฟของอิบรอฮีม บางเล่มซึ่งแปลอีกทางหนึ่งว่า หนังสือของอิบรอฮีม ชาวมุสลิมเข้าใจว่าม้วนคัมภีร์ของอิบรอฮีมหมายถึงวะฮีย์บางอย่างที่นบีอิบรอฮีมได้รับ ซึ่งท่านจะถ่ายทอดเป็นลายลักษณ์อักษร เนื้อหาที่แน่นอนของการเปิดเผยไม่ได้อธิบายไว้ในอัลกุรอาน
บทที่ 87 ของอัลกุรอาน ซูเราะฮ์ อัลอะอ์ลา สรุปว่าเนื้อหาของ ซูเราะฮ์ นั้นอยู่ในพระคัมภีร์ก่อนหน้าของอิบรอฮีมและมูซา เป็นสิ่งที่บ่งบอกเล็กน้อยถึงสิ่งที่อยู่ในคัมภีร์ก่อนหน้า ตามศาสนาอิสลาม:
แท้จริง (ข้อตักเตือนสติ) นี้มีอยู่ในคัมภีร์ก่อน ๆ มาแล้ว คือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา
— สูเราะฮ์ อัลอะอ์ลา บทที่ 87 โองการที่ 18-19[3]
บทที่ 53 ของอัลกุรอาน สูเราะฮ์ อันนัจญม์ กล่าวเพิ่มเติมของพระคัมภีร์ก่อนหน้าของอิบรอฮีมและมูซา
หรือว่าเขามิได้รับข่าวคราวที่มีอยู่ในคัมภีร์ของมูซา
และอิบรอฮีม ผู้ซึ่งปฏิบัติตามสัญญาอย่างครบครัน ว่าไม่มีผู้แบกภาระคนใดที่จะแบกภาระของผู้อื่นได้ และมนุษย์จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากสิ่งที่เขาได้ขวนขวายเอาไว้
และแท้จริงการขวนขวายของเขาก็จะได้เห็นในไม่ช้า
— สูเราะฮ์ อันนัจญม์ บทที่ 53 โองการที่ 36-40[4]