ข้ามไปเนื้อหา

วีรบุรุษท้องถิ่น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วีรบุรุษท้องถิ่น
กำกับบิล ฟอร์ไซธ์
เขียนบทบิล ฟอร์ไซธ์
อำนวยการสร้างเดวิด พัตนัม
นักแสดงนำปีเตอร์ ไรเกิร์ต
เดนิส ลอว์สัน
เบิร์ต แลนแคสเตอร์
ฟุลตัน แม็กเคย์
กำกับภาพChris Menges
ตัดต่อMichael Bradsell
ดนตรีประกอบมาร์ก นอฟเลอร์
ผู้จัดจำหน่ายวอร์เนอร์บราเธอร์ส
วันฉายสหรัฐอเมริกา 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1983
ความยาว111 นาที
ประเทศ สกอตแลนด์
 สหราชอาณาจักร
ภาษาภาษาอังกฤษ

วีรบุรุษท้องถิ่น หรือ โลเคิลฮีโร (อังกฤษ: Local Hero) เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2526 เขียนบทและกำกับโดยบิล ฟอร์ไซธ์ อำนวยการสร้างโดยเดวิด พัตนัม มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ทางฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางเหนือของสก็อตแลนด์ ที่กำลังจะถูกบริษัทปิโตรเลียมยักษ์ใหญ่จากฮูสตัน สหรัฐอเมริกา เข้ากว้านซื้อที่ดิน เพื่อสร้างแท่นขุนเจาะน้ำมัน ท่าเรือ และโรงกลั่นน้ำมัน ฟอร์ไซธ์ดัดแปลงเนื้อเรื่องจากข่าวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับเท็กซาโก บริษัทขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ที่หมู่เกาะเช็ทแลนด์ ทางตอนเหนือของสก็อตแลนด์ [1]

ภาพยนตร์นำแสดงโดยปีเตอร์ ไรเกิร์ต, เดนิส ลอว์สัน, เบิร์ต แลนแคสเตอร์ และฟุลตัน แม็กเคย์ ถ่ายทำที่หมู่บ้านชายทะเลชื่อ เพนแนน เมืองแอเบอร์ดีนเชียร์ ทางตะวันออกของสก็อตแลนด์ [2] ฉากชายทะเลถ่ายทำที่เมืองมอแรร์ และแอริเซก ฝั่งตะวันตกของสก็อตแลนด์ [3] [4]

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ใช้เพลงแนวเคลต์ โดยมาร์ก นอฟเลอร์ เพลงธีมของภาพยนตร์ ชื่อเพลง "Going Home" นับเป็นเพลงของนอฟเลอร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด ถูกนำมาใช้เป็นเพลงเปิดตัวนักกีฬาลงสู่สนามเซนต์เจมส์พาร์ค ของสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด [5][6] และเป็นเพลงปิดท้ายเกมเหย้าของสโมสรฟุตบอลทรานเมียร์โรเวอร์ส [7] ในลีกวัน (เทียบเท่า ดิวิชัน 2)

โลเคิลฮีโร ถูกนำเข้าลิขสิทธิ์มาวางจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท รี มาสเตอร์ จำกัด ใช้ชื่อภาษาไทยว่า วีรบุรุษท้องถิ่น

เรื่องย่อ

[แก้]

แมคอินไทร์ (ปีเตอร์ ไรเกิร์ต) เป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของบริษัท น็อกซ์น้ำมันและกาซธรรมชาติ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮูสตัน เท็กซัส ซึ่งกำลังมีโครงการก่อสร้างแท่นเจาะน้ำมัน และท่าเรือ บริเวณอ่าวเฟอร์เนส ชายฝั่งแอตแลนติกของสก็อตแลนด์ [8] แมคได้รับคำสั่งให้เดินทางมาเจรจาซื้อขายที่ดินจากเจ้าของเดิม บริเวณหมู่บ้านเฟอร์เนส หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ เพราะเจ้านายเข้าใจว่าแมคอินไทร์มีเชื้อสายสก็อต (ความจริงแล้วพ่อแม่แมคอินไทร์อพยพมาจากฮังการี และเปลี่ยนชื่อเป็นแมคอินไทร์เพราะคิดว่าเป็นชื่ออเมริกัน)

ก่อนออกเดินทาง เขาได้รับคำสั่งเป็นการส่วนตัวจาก เฟลิกซ์ แฮพเปอร์ (เบิร์ต แลนแคสเตอร์) ประธานกรรมการบริษัทและนักดูดาวสมัครเล่น ให้คอยสังเกตท้องฟ้า โดยเฉพาะบริเวณกลุ่มดาวหญิงสาว เพื่อค้นหาดาวหางดวงใหม่ที่ยังไม่เคยถูกใครพบ แฮพเปอร์บริหารงานบริษัทน็อกซ์ต่อจากพ่อ เขารู้สึกไม่ยินดีนักที่พ่อไม่เปลี่ยนชื่อบริษัทจากน็อกซ์เป็นแฮพเปอร์ หลังจากเทคโอเวอร์มาจากเจ้าของเดิม และหวังมาตลอดว่าจะตั้งชื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่สักอย่างหนึ่ง ตามชื่อของตัวเขา (เช่น ดาวหางแฮพเปอร์ ฯลฯ)

แมค และแดนนี ออลเซน (ปีเตอร์ คาพาลดี) เจ้าหน้าที่ประสานงานของบริษัทน็อกซ์สาขาแอเบอร์ดีน เดินทางมาติดต่อซื้อที่ดินจากชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าของโรงแรมและที่ปรึกษาทางบัญชี กอร์ดอน เออร์คูฮาร์ต (เดนิส ลอว์สัน) และสเตลลา (เจนนิเฟอร์ แบล็ก) และประสบความสำเร็จในการเจรจาเป็นอย่างดี ยกเว้นเพียงรายเดียวที่ไม่ยอมขายที่ดิน คือ เบน น็อกซ์ (ฟุลตัน แม็กเคย์) ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ชายหาดทั้งหมด โดยได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่เป็นขุนนางสก็อต จนเกือบจะมีเรื่องวิวาทกับคนอื่นทั้งหมู่บ้าน ที่ต้องการเป็นมหาเศรษฐีจากการขายที่ดิน

ระหว่างที่พักอาศัยอยู่ แมคและออลเซนพบว่า อ่าวเฟอร์เนสยังมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีทั้งนกทะเล แมวน้ำ ในเวลากลางคืนพบเห็นฝนดาวตก ทั้งคู่เริ่มหลงใหลในสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวเมือง เขาได้พบเห็นความมีน้ำใจ เป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น จนเริ่มรู้สึกเสียดาย หากหมู่บ้านแห่งนี้ต้องถูกทำลายไป เพื่อสร้างอุตสาหกรรมหนัก ขณะเดียวกัน ออลเซนก็มีความรักกับ มารินา (เจนนี ซีกรูฟ) นักวิจัยสมุทรศาสตร์สาวสวยของบริษัทน็อกซ์ ผู้หลงใหลในธรรมชาติใต้ท้องทะเล และพบว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้เป็นคนธรรมดา แต่สืบเชื้อสายมาจากนางเงือก

คืนวันหนึ่ง แมคมองเห็นท้องฟ้าเกิดแสงเรือง และพุ่งกระจายออกมาเป็นสีต่างๆ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ออโรรา บอเรลลีส (Aurora Borealis - แสงเหนือ) เขารีบโทรศัพท์ข้ามทวีปไปรายงานแก่แฮพเปอร์ ซึ่งเดินทางจากฮูสตัน มาสก็อตแลนด์ในทันที

เมื่อเดินทางมาถึง แฮพเปอร์รับรู้ถึงอุปสรรคที่เบน น็อกซ์ ไม่ยอมขายที่ดินให้ จึงเข้าไปเจรจากับเบนด้วยตัวเอง ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างถูกคอ คุยกันข้ามวันข้ามคืน ในที่สุดแฮพเปอร์จึงตัดสินใจล้มเลิกโครงการสร้างแท่นเจาะน้ำมัน จัดสร้างกล้องโทรทรรศน์และกล้องโทรทรรศน์วิทยุเพื่อศึกษาท้องฟ้า และเปลี่ยนเป็นโครงการก่อตั้งสถาบันวิจัยด้านดาราศาสตร์และสมุทรศาสตร์ ใช้ชื่อว่า สถาบันวิจัยแฮพเปอร์ พร้อมกับคงหมู่บ้านและวิถีชีวิตไว้ดังเดิม

อ้างอิง

[แก้]
  1. The making of Local Hero, part 1
  2. http://www.bbc.co.uk/blogs/thecultureshow/2008/11/local-hero.html
  3. Scotland: the Movie Location Guide web site. Last accessed: 9 January 2008.
  4. http://www.scotlandthemovie.com/movies/camus.html
  5. http://www.youtube.com/watch?v=GqUZ3KwH17E
  6. "Local Hero still the fans' home banker". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-27. สืบค้นเมื่อ 2009-12-06.
  7. http://www.bbc.co.uk/blogs/markkermode/2008/11/tribute_local_hero.html
  8. เป็นพื้นที่สมมุติ จากแผนที่ตอนต้นเรื่อง แสดงให้เห็นว่าเป็นชายฝั่งทางตอนเหนือ ในเขตไฮแลนด์ แถบจังหวัดซัทเทอร์แลนด์และแคธเนส บริเวณเหนือสุดของเกาะบริเตนใหญ่ โดยแท่นเจาะน้ำมันจะอยู่ในทะเลเหนือ

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]