ข้ามไปเนื้อหา

ริชาร์ด บาค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ริชาร์ด บาค
เกิดริชาร์ด เดวิด บาค
(1936-06-23) 23 มิถุนายน ค.ศ. 1936 (88 ปี)
โอ๊กพาร์ก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐ
อาชีพนักเขียน
แนวการบิน, แฟนตาซี, ปรัชญา
ช่วงปีที่ทำงานค.ศ. 1963–ปัจจุบัน
คู่สมรสเบตตี ฌานน์ แฟรงส์ (สมรส 1957; หย่า 1970)
เลสลี แพร์ริช (สมรส 1977; หย่า 1999)
ซาบรีนา เนลสัน-อเล็กโซปูลอส (สมรส 1999; 2011)
เว็บไซต์
www.richardbach.com

ริชาร์ด เดวิด บาค (อังกฤษ: Richard David Bach; 23 มิถุนายน ค.ศ. 1936[2] – ) เป็นนักเขียนชาวอเมริกันที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในฐานะนักเขียนหนังสือขายดีอันดับต้น ๆ ของคริสต์ทศวรรษ 1970 ประกอบด้วยโจนาทาน ลิฟวิงสตัน นางนวล (ค.ศ. 1970) และอิลลูชันส์: ดิแอดเวนเจอส์ออฟอะรีลักแทนต์เมสสิยาห์ (ค.ศ. 1977) บาคได้เขียนงานบันเทิงคดีจำนวนมาก และยังมีผลงานที่เกี่ยวข้องกับการบินที่ไม่ใช่นิยายอีกเช่นกัน

หนังสือส่วนใหญ่ของบาคเป็นแบบกึ่งอัตชีวประวัติ โดยใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือสมมติขึ้นจากชีวิตของเขาเพื่อแสดงปรัชญาของเขา หนังสือของบาคสนับสนุนปรัชญาของเขาที่ว่าข้อจำกัดทางกายภาพและการตายที่ชัดเจนของเราเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น บาคมีชื่อเสียงในเรื่องความรักในการบินและหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการบินในบริบทเชิงอุปลักษณ์ บาคทำการบินเป็นงานอดิเรกตั้งแต่อายุ 17 ปี ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 บาคได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อใกล้จะลงจอดที่ไฟรเดย์ฮาเบอร์ รัฐวอชิงตัน โดยเครื่องบินของเขาตัดสายไฟบางส่วนและชนกลับหัวกลับหางในทุ่งแห่งหนึ่ง

ชีวิตในวัยเด็ก

[แก้]

บาคเกิดที่โอ๊กพาร์ก รัฐอิลลินอยส์ โดยเป็นบุตรของโรแลนด์ อาร์. และรูธ ชอว์ บาค ซึ่งพ่อของเขาเป็นผู้จัดการแผนกกาชาดอเมริกัน[3] บาคเข้าเรียนที่ลองบีชสเตตคอลเลจใน ค.ศ. 1955

เที่ยวบินอากาศยานครั้งแรกของบาคเกิดขึ้นเมื่ออายุ 14 ปี เมื่อแม่ของเขามีการหาเสียงที่นั่งในสภาลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพอล มาร์คัส ผู้จัดการฝ่ายหาเสียงของเธอกล่าวว่าเขาบินเครื่องบิน และได้เชิญริชาร์ดขึ้นเครื่องบินโกลบสวิฟต์ของเขา[4]

อาชีพการบิน

[แก้]

บาคได้ประจำการในหน่วยกองหนุนกองทัพเรือสหรัฐ จากนั้นในกองบินขับไล่ที่ 108 ของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ กองทัพอากาศนิวเจอร์ซีย์, ฝูงบินขับไล่ที่ 141 (USAF) ในฐานะนักบินขับไล่สำหรับรีพลับลิก เอฟ-84เอฟ ธันเดอร์สตรีก จากนั้นเขาก็ทำงานในหลายตำแหน่ง รวมทั้งเป็นคนเขียนด้านเทคนิคของบริษัทดักลาสแอร์คราฟต์ และเป็นบรรณาธิการร่วมของนิตยสารฟลายอิง เขารับราชการในหน่วยกองหนุนกองทัพอากาศสหรัฐ และได้กรีธาพลในประเทศฝรั่งเศสเมื่อ ค.ศ. 1960 ซึ่งต่อมา เขาได้กลายเป็นนักบินผาดโผน

ในช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 1970 บาคและเพื่อนของเขาชื่อคริส เคเกิล ได้เดินทางไปประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งพวกเขาได้เข้าร่วมในการบินตอนหนึ่งสำหรับภาพยนตร์ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน แอนด์ บราวน์ ของโรเจอร์ คอร์แมน พวกเขาบินด้วยเครื่องบินสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งของของสะสมบลูแมกซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของโดยอดีตนักบินกองทัพอากาศแคนาดาที่ชื่อลินน์ แกร์ริสัน ทั้งนี้ บาคและแกร์ริสันพบกันครั้งแรก เมื่อบาคเขียนบทความสำหรับเอเวียน ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ด้านการบินของแกร์ริสัน

ในช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 1970 ดิก บาค ได้เข้าร่วมการสร้างภาพยนตร์ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน แอนด์ บราวน์ ของโรเจอร์ คอร์แมน ในประเทศไอร์แลนด์

หนังสือของบาคส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการบินในทางใดทางหนึ่ง ตั้งแต่เรื่องแรก ๆ ที่เกี่ยวกับอากาศยานล้วน ๆ อย่างสเตรนเจอร์ทูเดอะกราวด์ ที่เป็นหนังสือเล่มแรกของเขา ไปจนถึงผลงานในภายหลัง ซึ่งเขาใช้การบินเป็นอุปมาเชิงปรัชญา

อาชีพวรรณกรรม

[แก้]

หนังสือเล่มแรกของบาค คืออัตชีวประวัติสเตรนเจอร์ทูเดอะกราวด์ (ค.ศ. 1963) ที่บรรยายถึงการเคลื่อนกำลังพลกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทางอากาศสู่ประเทศฝรั่งเศส และได้รับคำตอบรับอย่างดี เช่น จากเอ็ดมันด์ ฟูลเลอร์ ในหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล

ส่วนใน ค.ศ. 1970 โจนาทาน ลิฟวิงสตัน นางนวล เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนกนางนวลที่บินด้วยความรักในการบินมากกว่าเพียงเพื่อจับอาหาร ซึ่งได้รับการเผยแพร่โดยสำนักพิมพ์แมกมิลลันหลังจากที่ต้นฉบับดังกล่าวถูกปฏิเสธโดยสำนักพิมพ์อื่น ๆ อีกหลายสำนักพิมพ์ โดยได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารซอริง ของซอริงโซไซอิตีออฟอเมริกา หนังสือเล่มนี้ซึ่งรวมถึงภาพถ่ายนกนางนวลที่กำลังบินโดยรัสเซลล์ มันสัน ผู้เป็นช่างภาพ ได้กลายเป็นหนังสือขายดีอันดับหนึ่ง ซึ่งมีคำศัพท์น้อยกว่า 10,000 คำ และขายได้มากกว่าหนึ่งล้านเล่มใน ค.ศ. 1972 เพียงปีเดียว[5] ความสำเร็จอันน่าประหลาดใจของหนังสือเล่มนี้ได้รับการรายงานอย่างกว้างขวางในสื่อในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1970[6]

บาค (ในเสื้อคลุมหนัง) หน้าเฮลิโอเคอเรียร์ G-ARMU ที่ใช้สำหรับภาพยนตร์เรื่องฟ็อน ริชท์โฮเฟิน แอนด์ บราวน์ (ค.ศ. 1970)

ใน ค.ศ. 1973 โจนาทาน ลิฟวิงสตัน นางนวล ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน ที่สร้างโดยพาราเมาต์พิกเจอส์คอร์ปอเรชัน พร้อมเพลงประกอบโดยนีล ไดอะมอนด์ จากนั้น บาคได้ยื่นฟ้องฮอล บาร์ตเลต ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับ โดยกล่าวหาว่าบาร์ตเลตได้ทำลายบทภาพยนตร์ของบาคสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ และบาร์ตเลตได้ละเมิดข้อกำหนดในสัญญาของบาคที่ระบุว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ได้หากไม่ได้รับอนุมัติจากบาค[7] ส่วนเลสลี แพร์ริช ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการสร้าง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสื่อกลางระหว่างบาคและบาร์ตเลต แต่การไกล่เกลี่ยดังกล่าวล้มเหลว การฟ้องร้องจบลงด้วยการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์โดยมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในการตัดครั้งสุดท้าย ในขณะที่บาคได้ลบชื่อของเขาออกจากเครดิตการเขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้[8]

อ้างอิง

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. King County Superior Court, Seattle, Washington; case number 10-3-05920-6, decree of dissolution issued April, 1, 2011.
  2. "Richard Bach (Biographical sketch)." butler-bowdon.com. Retrieved: December 11, 2015.
  3. Science Fiction and Fantasy Literature, vol. 2, R. Reginald, 1979, pg 803
  4. Scott, Phil. "My First Time." Air & Space/Smithsonian, Vol. 17, No. 2, June/July 2002, p. 47.
  5. "Jonathan Livingston Seagull". เก็บถาวร 2006-04-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 20th-Century American Bestsellers. Retrieved: December 11. 2015.
  6. Walters, Raymond, Jr. "Book Review: 'Jonathan Livingston Seagull'." The New York Times, July 23, 1972, p. 43.
  7. "'Seagull' Author Sues". The Evening News. Vol. 12, no. 210. Newburgh, NY. Associated Press. 12 October 1973.
  8. "Jonathan Livingston Seagull (1973) | Via Vision Entertainment - info relayed by Leslie Parrish for the Blu-ray commentary track".

บรรณานุกรม

[แก้]
  • Pendo, Stephen. Aviation in the Cinema. Lanham, Maryland: Scarecrow Press, 1985. ISBN 0-8-1081-746-2.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]