มอเตอร์แนวราบ
มอเตอร์เชิงเส้น (อังกฤษ: Linear Motor) คือมอเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกผ่ากลางแล้วแผ่ออกในแนวราบ ซึ่ง rotor แทนที่จะหมุน มันกลับเคลื่อนที่ไปในแนวราบ[1] ตามสูตรของแรงที่ใส่เข้าไปมีสัดส่วนโดยตรงกับกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก นั่นคือ .
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/31/Linear_motor_U-tube.svg/220px-Linear_motor_U-tube.svg.png)
มอเตอร์เชิงเส้นแบ่งออกเป็นสองชนิดคือ แบบความเร่งต่ำ กับแบบความเร่งสูง มอเตอร์เชิงเส้นแบบความเร่งต่ำเหมาะกับรถไฟพลังแม่เหล็ก (maglev train) หรือการขนส่งบนพื้นดิน แต่มอเตอร์เชิงเส้นความเร่งสูงถูกนำไปใช้ในการเคลื่อนวัตถุความเร็วสูงมากๆ เช่นปืนแม่เหล็กไฟฟ้า หรือในการศึกษาเกี่ยวกับการชนที่รุนแรง เช่นอาวุธ หรือการทดสอบผู้ขับเคลื่อนยานอวกาศ โดยทั่วไปมอเตอร์เชิงเส้นความเร่งสูงจะใช้ AC มอเตอร์เหนี่ยวนำเชิงเส้น (Linear Induction Motor, LIM) ที่มีขดลวด 3 เฟสที่แอคทีพที่ด้านหนึ่งของช่องว่างอากาศ (air-gap) อีกด้านเป็นแผ่นตัวนำแบบพาสซีพ แต่สำหรับปืนแม่เหล็กไฟฟ้า จะใช้ DC มอเตอร์เชิงเส้นแบบขั้วเหมือน (Homopolar)
มอเตอร์เชิงเส้นความเร่งต่ำปรกติจะออกแบบให้เป็นซิงโครนัสมอเตอร์ (Linear Synchronous Motor, LSM) ที่มีขดลวดแอ๊คทีพด้านหนึ่ง อักด้านหนึ่งเป็นแถวแม่เหล็กขั้วสลับ แถวแม่เหล็กนี้ อาจเป็นแม่เหล็กชั่วคราวหรือแม่เหล็กถาวร มอเตอร์ของรถไฟความเร็วสูงเมืองเซี่ยงไฮ้ใช้มอเตอร์แบบ LSM
ชนิด[แก้]
มอเตอร์เหนี่ยวนำ[แก้]
แรงถูกสร้างขึ้นเนื่องจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนที่ไปกระทำกับสารตัวนำที่วางอยู่ในสนามแม่เหล็กนั้น ตัวนำไม่ว่าจะอยู่ในรูปวงแหวนหรือเป็นม้วนหรือเป็นแค่แผ่นราบ เมื่อถูกวางอยู่ในสนามแม่เหล็ก จะมีกระแสวนเกิดขึ้น กระแสเอ็ดดี้นี้ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กที่มีลักษณะต้านกับสนามแม่เหล็กเดิมตามกฎของเลนซ์ (Lenz's law) สนามแม่เหล็กทั้งสองนี้จะผลักกัน ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปตลอดตวามยาวของสารตัวนำนั้น เช่น ลวดทองแดง ดังนั้นการสร้างให้เกิดการเคลื่อนที่ของวัตถุจึงเป็นการที่ทำให้สนามแม่เหล็กมีการกวาดตัวเองผ่านโลหะตัวนำไฟฟ้าไป
ซิงโครนัสมอเตอร์[แก้]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f6/Linearmotorprinzip.png/220px-Linearmotorprinzip.png)
อัตราการเคลื่อนที่ของสนามแม่เหล็กจะถูกควบคุม(ปกติด้วยวงจรอิเล็คโทรนิคส์)ให้ติดตามการเคลื่อนที่ของ rotor ด้วยเหตุผลด้านค่าใช้จ่าย SLM จึงไม่ค่อยมี commutator ดังนั้น rotor จึงประกอบด้วยแม่เหล็กถาวรหรือเหล็กอ่อน ตัวอย่าง ได้แก่ ปืนแม่เหล็กไฟฟ้าแบบขดลวดเหนี่ยวนำ (coilgun) และมอเตอร์ที่ใช้ในบางส่วนของระบบรถไฟพลังแม่เหล็ก (maglev) เช่นเดียวกับมอเตอร์เชิงเส้นอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/0d/Linear_motor_by_Zureks.jpg/220px-Linear_motor_by_Zureks.jpg)
ขั้วเหมือน (Homopolar)[แก้]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/9/9a/Railgun-1.svg/220px-Railgun-1.svg.png)
ในการออกแบบในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบให้อยู่ในรูปแบบของกระสุนโลหะที่มีการสัมผัสกันโดยการเลื่อนไถลไปบนรางโลหะในแนวขวางที่ถูกป้อนกระแสไฟฟ้าผ่านมาจากรางคู่ขนานทั้งสองข้างนั้น
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/88/Linear_Motor_of_Toei_%C5%8Cedo_Line.jpg/220px-Linear_Motor_of_Toei_%C5%8Cedo_Line.jpg)
การประยุกต์ใช้งาน[แก้]
- ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า
- รถไฟพลังแม่เหล็ก
- รถไฟชิงกันเซ็ง
- เครื่องเล่น Roller Coaster
- เครื่องยิงจรวด
- เครื่องทดสอบการชน[2]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/16/Magnetic_Launch_Assist_System_Demonstration_Test.jpg/220px-Magnetic_Launch_Assist_System_Demonstration_Test.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e8/Magnetic_Launch_Assist_Demonstration_Test.jpg/220px-Magnetic_Launch_Assist_Demonstration_Test.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/df/TRACKED_AIR_CUSHION_RESEARCH_VEHICLE_INSIDE_TEST_AREA_AT_THE_DEPARTMENT_OF_TRANSPORTATION%27S_HIGH_SPEED_GROUND_TEST..._-_NARA_-_545947.tif/lossy-page1-220px-TRACKED_AIR_CUSHION_RESEARCH_VEHICLE_INSIDE_TEST_AREA_AT_THE_DEPARTMENT_OF_TRANSPORTATION%27S_HIGH_SPEED_GROUND_TEST..._-_NARA_-_545947.tif.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/ae/Six_Flags_Magic_Mountain_Superman_closeup.jpg/220px-Six_Flags_Magic_Mountain_Superman_closeup.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/07/JFK_AirTrain.agr.jpg/220px-JFK_AirTrain.agr.jpg)
อ้างอิง[แก้]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)