ภาพติดตาชั่วขณะ
ภาพติดตาชั่วขณะ[1] หรือ ภาพติดตา (อังกฤษ: afterimage, ghost image, image burn-in) เป็นภาพที่ติดตาชั่วขณะหลังจากเห็นภาพดั้งเดิมชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นปรากฏการณ์ปกติทางสรีรภาพ หรืออาจเป็นอาการของโรค คือ palinopsia ซึ่งก็อาจเป็นปรากฏการณ์ทางสรีรภาพที่เป็นมากเกินปกติ ภาพติดตาเกิดเพราะการทำงานทางแสง-เคมีในจอตาที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้เมื่อสิ่งเร้าดั้งเดิมจะหมดไปแล้ว[2][3] บทความที่เหลือจะกล่าวถึงปรากฏการณ์ทางสรีรภาพที่ไม่ใช่อาการของโรค ภาพติดตาที่สามัญอย่างหนึ่งก็คือแสงที่ดูเหมือนจะอยู่ข้างหน้าหลังจากที่ดูไฟสักชั่วระยะหนึ่ง เช่นที่เห็นหลังแสงแฟลชจากกล้องถ่ายภาพ
ภาพติดตาแบบเนกาทิฟ
[แก้]ภาพติดตาแบบเนกาทิฟ (negative afterimage) เกิดเมื่อเซลล์รับแสงของตา โดยเฉพาะเซลล์รูปกรวยและเซลล์รูปแท่ง ปรับตัวเนื่องจากรับสิ่งเร้าเกินแล้วเสียความไวแสง หลักฐานใหม่ ๆ ยังแสดงด้วยว่า เปลือกสมองก็มีบทบาทด้วย[4]
ปกติแล้ว ระบบการเห็นจะแก้ปัญหาการได้สิ่งเร้าเกินโดยเลื่อนภาพไปยังส่วนใหม่ของจอตาด้วยการขยับตาเล็ก ๆ ที่เรียกว่า microsaccade ซึ่งเกิดใต้สำนึกและจะสังเกตไม่เห็น แต่ถ้าภาพนั้นใหญ่หรือว่าตาขยับไม่พอ ก็จะไม่สามารถย้ายภาพนั้นไปยังส่วนใหม่ ๆ ของจอตาได้ เซลล์รับแสงที่ได้รับสิ่งเร้าเดียวอย่างคงยืนในที่สุดก็จะหมดโปรตีนรงควัตถุไวแสง (photopigment) ที่จำเป็นในการรับแสง มีผลลดกระแสประสาทที่ส่งไปยังสมอง ปรากฏการณ์นี้สามารถเห็นได้เมื่อเข้าไปสู่ที่มืดจากที่สว่าง
พร้อม ๆ กับปรากฏการณ์เช่นนี้ เซลล์ประสาทในสมองกลีบท้ายทอยก็จะปรับตัวด้วย คล้ายกับการปรับดุลสีในการถ่ายภาพ เป็นความพยายามรักษาการเห็นให้สม่ำเสมอในสภาพแสงที่ไม่คงที่ การมองพื้นเรียบ ๆ ในขณะที่สมองกำลังปรับตัวจะทำให้เห็นภาพติดตา เพราะสมองจะแปลผลโดยใช้การปรับตัวเฉพาะที่ ๆ ในสายตาซึ่งไม่จำเป็นแล้ว
ในปี พ.ศ. 2421 นักกายวิภาคชาวเยอรมัน Ewald Hering (2377-2461) ได้อธิบายกระบวนการที่สมองเห็นภาพติดตาโดยใช้แม่สีเป็นคู่ 3 คู่ ทฤษฎี opponent process (กระบวนการคู่แข่งขัน) ของเขาแสดงว่า ระบบการเห็นของมนุษย์แปลผลกระแสประสาทจากเซลล์รูปกรวยและเซลล์รูปแท่งแบบเป็นปฏิปักษ์กัน (antagonistic) ทฤษฎีเสนอว่า มีช่องทางความเป็นปฏิปักษ์ 3 ช่องคือ แดงกับเขียว น้ำเงินกับเหลือง และดำกับขาว คือการตอบสนองต่อสีหนึ่งของช่องจะเป็นปฏิปักษ์ต่ออีกสีหนึ่งของช่องนั้น ดังนั้น ภาพเขียวจะสร้างภาพติดตาสีแดงม่วง เพราะภาพเขียวได้ทำให้เซลล์รับแสงสีเขียวให้หมดกำลัง จึงส่งสัญญาณอ่อนกว่า ดังนั้น สมองจึงตีความเป็นแม่สีที่เป็นปฏิปักษ์กัน ซึ่งก็คือ สีแดงม่วง[ต้องการอ้างอิง]
ภาพติดตาปกติ
[แก้]
ภาพติดตาปกติ (positive afterimage) เทียบกันแล้ว จะปรากฏในสีเดียวกันกับภาพเดิมที่ดู และบ่อยครั้งปรากฏสั้นมากโดยเห็นน้อยกว่าครึ่งวินาที เหตุของภาพติดตาปกติยังไม่ชัดเจน แต่อาจเกี่ยวกับการทำงานที่คงยืนในเปลือกสมอง เมื่อเซลล์รับแสงที่จอตาดำรงการส่งกระแสประสาทไปยังสมองกลีบท้ายทอย[5]
สิ่งเร้าที่ทำให้เห็นภาพติดตาปกติ ปกติจะทำให้กลายเห็นภาพติดตาแบบเนกาทีฟได้อย่างรวดเร็วผ่านการปรับตัวของประสาท ถ้าอยากจะลองดู ให้มองแสงสว่าง ๆ แล้วมองที่มืด ๆ เช่นเมื่อปิดตา ตอนแรกจะเห็นภาพติดตาปกติที่จางลง ๆ ซึ่งอาจติดตามด้วยภาพติดตาแบบเนกาทิฟที่ยาวนานกว่า การเห็นภาพติดตาของวัตถุสารพัดอย่างที่ไม่สว่างก็เป็นไปได้ด้วย แต่นี่จะคงยืนเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวซึ่งคนโดยมากจะไม่ได้สังเกต[ต้องการอ้างอิง]
ภาพลายเส้นที่ติดตา
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ภาพติดตาโดยทั่วไปเป็นภาพลวงตาที่ปรากฏแม้สิ่งเร้าจะได้หมดไปแล้ว การมองแถบสีจะทำให้เห็นภาพติดตาของสีตรงกันข้าม (เช่น สีเหลืองจะทำให้เห็นสีเขียวน้ำเงิน) ส่วนภาพติดตาในรูปสีขาวเป็นปรากฏการณ์ที่สัมพันธ์กับปรากฏการณ์ความเปรียบต่าง (contrast effect)[ต้องการอ้างอิง] ในปรากฏการณ์นี้ ถ้าแสดงรูปสีขาวบนพื้นที่มีสีเป็นชั่วระยะหลายวินาที เมื่อพื้นกลายเป็นสีขาว (คือสีหายไป) สีที่เป็นภาพลวงคล้ายกับสีพื้นเดิมจะปรากฏภายในรูป[ต้องการอ้างอิง] กลไกของปรากฏการณ์นี้ยังไม่ชัดเจน
ดูเพิ่ม
[แก้]เชิงอรรถและอ้างอิง
[แก้]- ↑ "afterimage", ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑ ฉบับ ๒๕๔๕,
(แพทยศาสตร์) ภาพติดตาชั่วขณะ
- ↑ Bender, MB; Feldman, M; Sobin, AJ (June 1968). "Palinopsia". Brain : a journal of neurology. 91 (2): 321–38. doi:10.1093/brain/91.2.321. PMID 5721933.
- ↑ Gersztenkorn, D; Lee, AG (July 2, 2014). "Palinopsia revamped: A systematic review of the literature". Survey of ophthalmology. 60: 1–35. doi:10.1016/j.survophthal.2014.06.003. PMID 25113609.
- ↑ Shimojo, S; Kamitani, Y; Nishida, S (2001). "Afterimage of perceptually filled-in surface". Science. 293 (5535): 1677–80. doi:10.1126/science.1060161. PMID 11533495.
- ↑ "Positive afterimages". October 3, 2003. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 22, 2017.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- The Palinopsia Foundation is dedicated to increasing awareness of palinopsia, to funding research into the causes, prevention and treatments for palinopsia, and to advocating for the needs of individuals with palinopsia and their families.
- Eye On Vision Foundation raises money and awareness for persistent visual conditions
- Afterimages, a small demonstration.
- afterimage examples เก็บถาวร 18 มิถุนายน 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Color Dove Illusion