ฟอสเฟต
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ในทางเคมี ฟอสเฟต (อังกฤษ: phosphate) เป็นแอนไอออน เกลือ หมู่ฟังก์ชัน หรือเอสเทอร์ที่ได้รับมาจากกรดฟอสฟอริก โดยทั่วไปแล้วหมายถึงออร์โธฟอสเฟต สารสังเคราะห์ของกรดออร์โธฟอสฟอริก H
3PO
4
ฟอสเฟต หรือ ออร์โธฟอสเฟต ion [PO
4]3−
ได้รับมาจากกรดฟอสฟอริกโดยการกำจัดโปรตอนสามตัว H+
การกำจัดหนึ่งหรือสองโปรตอนจะได้ออกมาเป็นไดไฮโดรเจนฟอสเฟต ion [H
2PO
4]−
และ ไฮโดรเจนฟอสเฟต ion [HPO
4]2−
ion, ตามลำดับ ชื่อเหล่านี้ยังถูกใช้สำหรับเกลือของแอนไอออน เช่น แอมโมเนียม ไดไฮโดรเจน ฟอสเฟต และไตรโซเดียม ฟอสเฟต
-
H
3PO
4 -
H
2PO−
4 -
HPO2−
4 -
PO3−
4
ในทางเคมีอินทรีย์ ฟอสเฟต หรือ ออร์โธฟอสเฟต เป็นออร์กาโนฟอสเฟต เป็นเอสเทอร์ของกรดออร์โธฟอสฟอริกในรูปแบบของ PO
4RR′R″ ซึ่งไฮโดเจนอะตอมหนึ่งหรือมากกว่าจะถูกแทนที่โดยกลุ่มอินทรีย์ ตัวอย่างคือ ไตรเมทิลฟอสเฟต (CH
3)
3PO
4. คำนี้ยังถูกเรียกว่า กลุ่มฟังก์ชันไตรเวเลนซ์ OP(O-)
3 ในเอสเทอร์ดังกล่าว
ออร์โธฟอสเฟตมีความสำคัญอย่างยิ่งในหมู่ฟอสเฟตหลายชนิด เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในชีวเคมี ชีวธรณีเคมี นิเวศวิทยา และความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม นอกจากนี้การเพิ่มหรือการกำจัดกลุ่มฟอสเฟต(ฟอสฟอรีเลชันและดีฟอสโฟรีเลชัน) เป็นขั้นตอนที่สำคัญในเมแทบอลิซึมของเซลล์
ออร์โธฟอสเฟตสามารถควบแน่นเพื่อสร้างไพโรฟอสเฟต
แหล่งฟอสเฟต
[แก้]ในไทย สามารถแบ่งแหล่งกำเนิดฟอสเฟตได้ 3 ประเภท ดังนี้
1.แบบกัวโน - เกิดจากการสะสมของมูลสัตว์ปีก พบเห็นได้หลายที่ เช่น เขตคลองวาฬ, ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ
2.แบบอะลูมิเนียมฟอสเฟต - เกิดจากการสะสมตัวของฟอสฟอรัสในชั้นหินทราย พบเห็นได้ที่ ร้อยเอ็ด
3.แบบหินชั้น - เกิดจากฟอสฟอรัสแทรกอยู่ใน หินดินดาน พบเห็นได้ที่ เชียงใหม่
ฟอสเฟตในอาหาร
[แก้]สารประกอบฟอสเฟตเป็นสารที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายๆชนิดเช่น อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ อุตสาหกรรมการผลิตนม ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ โดยการผลิตสารประกอบฟอสเฟตนั้นสามารถผลิตได้จากกระดูกสัตว์ หินฟอสเฟต หรือปฏิกิริยาระหว่างไอออนของโลหะกับกรดฟอสฟอริก ซึ่งสารประกอบฟอสเฟตนั้นได้รับการรับรองในเป็นส่วนประกอบของอาหารที่ปลอดภัย(GRAS; Generally Recognized as Safe) จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในประเทศไทยตามประการของกระทรวงสาธารณสุข (2547) นั้นได้มีการกำหนดปริมาณของสารประกอบฟอสเฟตสูงสุดที่สามารถใส่ในผลิตภัณฑ์เนื้อหมัก เช่น ไส้กรอก กุนเชียง แฮม และขาหมูรมควันไว้ที่ 3000 มิลลิกรัม ต่อผลิตภัณฑ์ 1กิโลกรัม โดยวัตถุประสงค์ของการใส่สารประกอบฟอสเฟตในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เพื่อ
1. ทำสีของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ให้มีความคงตัว
2. เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของเนื้อสัตว์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ได้นั้นมี รสสัมผัสที่นุ่มและมีความชุ่มฉ่ำมากขึ้น
3. ป้องกันการเกิดกลิ่นและรสชาติที่น่ารับประทาน โดยสารประกอบฟอสเฟตนั้นจะมีฤทธิ์ในการช่วยกันการหืนของอาหาร
4. ยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์
5. ลดปริมาณของโซเดียมคลอไรด์ที่ใช้ในกระบวนการแปรรูป