พืดหินปะการังอาโป
Apo Reef | |
---|---|
ทิวทัศน์ของพืดหินปะการังอาโปจากประภาคารบนเกาะอาโป | |
ที่ตั้ง | ช่องแคบมินโดโร, ฟิลิปปินส์ |
เมืองใกล้สุด | ซาบลายาน |
พิกัด | 12°39′42″N 120°24′52″E / 12.66167°N 120.41444°E |
พื้นที่ | 34 ตารางกิโลเมตร (13 ตารางไมล์) |
หน่วยราชการ | Department of Environment and Natural Resources Municipal Government of Sablayan |
พืดหินปะการังอาโป เป็นระบบแนวปะการังในฟิลิปปินส์ตั้งอยู่บนน่านน้ำตะวันตกของจังหวัดคันลูรังมินโดโรในช่องแคบมินโดโร ครอบคลุมพื้นที่รวม 34 ตารางกิโลเมตร พืดหินปะการังนี้ถือเป็นระบบแนวปะการังที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและใหญ่ที่สุดในประเทศ แนวปะการังและน่านน้ำโดยรอบเป็นพื้นที่คุ้มครองของประเทศโดยใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติพืดหินปะการังอะโป (ARNP) พืดหินปะการังอะโปเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศ และอยู่ในรายการเบื้องต้นของแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย
ประวัติศาสตร์การอนุรักษ์
[แก้]พืดหินปะการังอาโปเป็นพื้นที่คุ้มครองของฟิลิปปินส์ จัดเป็นอุทยานธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่ 274.69 ตารางกิโลเมตร (106.06 ตารางไมล์)[1] โดยแยกเป็น 157.92 ตารางกิโลเมตร (60.97 ตารางไมล์) สำหรับ อุทยานธรรมชาติพืดหินปะการังอาโป ส่วนที่เหลือ 116.77 ตารางกิโลเมตร (45.09 ตารางไมล์) เป็นเขตกันชนล้อมรอบพื้นที่คุ้มครอง[2][3]
ก่อนที่จะมีการประกาศให้เป็นพื้นที่คุ้มครองพืดหินปะการังอาโปได้รับการประกาศว่า "อุทยานทางทะเล" อย่างเป็นทางการครั้งแรกโดยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ในปี 1980[4] ตามด้วยรัฐบาลท้องถิ่นของซาบลายานประกาศพืดหินปะการังให้เป็น "เขตการท่องเที่ยวและเขตอนุรักษ์ทางทะเล" ในสามปีต่อมา[5] ในปี 1996 พืดหินปะการังทั้งหมดได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานธรรมชาติที่ได้รับการคุ้มครองโดยประธานาธิบดีฟิเดล รามอส[1]
ในปี 2006 สำนักคุ้มครองพื้นที่และสัตว์ป่าของกรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของฟิลิปปินส์ ได้ส่งชื่อพืดหินปะการังอาโปไปยังศูนย์มรดกโลกยูเนสโกเพื่อพิจารณาให้เป็นมรดกโลก[2]
หลังจากการตรวจสอบขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล การตกปลาในแนวปะการังถูกห้ามโดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ในเดือนกันยายน 2007[6][7] อุทยานทางทะเลนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้เพื่อหาเงินสำหรับการอนุรักษ์รวมทั้งจัดหาวิถีชีวิตทางเลือกให้กับชาวประมงหลายร้อยคนในพื้นที่[8] ทุกคนที่เข้าถึงพืดหินปะการังอาโปจำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทางสิ่งแวดล้อม
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "Presidential Proclamation 868" (Press release). Office of the President of the Republic of the Philippines. 1996-09-06.
- ↑ 2.0 2.1 "Apo Reef Natural Park". UNESCO World Heritage: Tentative Lists. UNESCO. 2006-05-16. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 October 2007. สืบค้นเมื่อ 2007-10-08.
- ↑ "Protected Areas in Region 4B – MIMAROPA" เก็บถาวร 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Biodiversity Management Bureau. Retrieved on 2014-09-25.
- ↑ "Presidential Proclamation 1801" (Press release). Office of the President of the Republic of the Philippines. 1980.
- ↑ "Resolution No. 1108" (Press release). Sangguniang Bayan ng Sablayan, Occidental Mindoro. 1983.
- ↑ "Philippines bans fishing to revive biggest reef". Yahoo! News. Yahoo! Inc. 2007-10-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2007. สืบค้นเมื่อ 2007-10-08.
- ↑ "Philippines bans fishing to revive biggest reef". Reuters News. Reuters Inc. 2007-10-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-01. สืบค้นเมื่อ 2007-10-08.
- ↑ "Sustainable Ecosystems and Community News: Philippines bans fishing to revive biggest reef". enn.com. สืบค้นเมื่อ 24 August 2015.