พิธีแห่นางแมว
แห่นางแมว แห่นางแมว (ไทย)
ពិធីហែនាងម៉ែវ (เขมร) | |
---|---|
สถานะ | ยังมีอยู่ |
ประเภท | การใช้แมว |
ความถี่ | ทุกปี |
ประเทศ | กัมพูชา และไทย |
พิธีแห่นางแมว (เขมร: ពិធីហែនាងម៉ែវ) เป็นพิธีกรรมขอฝนโดยใช้แมวตามความเชื่อพื้นบ้านที่มีการจัดขึ้นในช่วงหน้าแล้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงสิงหาคม สามารถพบได้ทั้งในประเทศกัมพูชา และภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
รายละเอียด
[แก้]พิธีแห่นางแมวเป็นพิธีขอฝนที่ชาวนาในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยนิยมทำกันมากที่สุด[1] นอกจากนี้ยังมีการฉลองพิธีนี้ในประเทศกัมพูชา ถึงแม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าพิธีนี้มีต้นกำเนิดมาจากอารยธรรมเขมรหรือจากลาวในภายหลัง[2]
พิธีแห่นางแมวมักจะใช้แมวสีสวาดหรือแมวสีดำ โดยจะถูกนำใส่ในตะกร้าทำจากไม้ไผ่หรือหวาย และปิดฝาเพื่อป้องกันไม่ให้แมวหลบหนีไป แมวที่มีสีคล้ายเมฆหรือสีดำจะถูกเลือกใช้เพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ ตะกร้านี้จะถูกแขวนไว้ที่เสาไม้หรือไม้ไผ่ที่มีคนหามสองคนคอยถืออยู่ พิธีเริ่มด้วยผู้สูงอายุในกลุ่มขอให้แมวนำฝนมาสู่แผ่นดิน หลังจากนั้นขบวนพร้อมวงดนตรีจะเดินผ่านถนนในหมู่บ้าน และขอให้ผู้คนที่ยืนดูสาดน้ำลงบนแมว[3]
ขบวนแห่นางแมวจะจัดขึ้นเมื่อฝนแล้งจนกลายเป็นปัญหาสำหรับชาวนา โดยปกติชาวบ้านจะเริ่มปลูกข้าวทันทีเมื่อฝนมาหลังจากพิธีแรกนาขวัญในต้นเดือนพฤษภาคม หากไม่มีฝนตกหลังพิธีนี้ ชาวบ้านมักจะตัดสินใจจัดขบวนแห่นางแมว[4]
ขบวนแห่นางแมวมีความคึกคักและมีชีวิตชีวาเหมือนการเต้นรำแบบตะร็อด[2] โดยมีวงดนตรีที่ประกอบด้วยกลอง ฆ้อง ฉิ่ง และกรับ พร้อมกับการร้องเพลงซึ่งเนื้อเพลงจะใกล้เคียงกับเพลงโบราณที่แปลได้ว่า "ฝนเอ๋ยฝนจงตกมา เรามีน้อยนักในปีนี้ หากไม่มีฝน ข้าวของเราจะตาย"[5]
ในกัมพูชาพิธีแห่นางแมวยังคงทำแบบดั้งเดิม แต่ในประเทศไทยพิธีนี้ได้รับการปรับเพื่อมิให้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการทารุณสัตว์ เพราะแมวกลัวน้ำมาก ในภาคอีสานบางครั้งจะใช้ตุ๊กตาหมีแทนแมว[6] นอกจากนี้ในจังหวัดอุตรดิตถ์ เด็ก ๆ และพ่อแม่จะใช้การแต่งตัวเป็นแมวแทนการใช้แมวจริง[7] ชาวบ้านในตำบลธาตุทอง อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ จะทำแมวปลอมจากโครงไม้ไผ่และกาบมะพร้าวที่เรียกว่า "น้องสายฝน"[8] ส่วนในบางพื้นที่มีการใช้ตุ๊กตาเฮลโลคิตตี้หรือโดราเอมอนแทนแมวจริงด้วย[9][10]
จุดประสงค์
[แก้]พระยาอนุมานราชธน นักมานุษยวิทยาชาวไทย กล่าวว่า แมวไม่ชอบน้ำและถูกเชื่อมโยงกับการก่อให้เกิดภัยแล้งตั้งแต่สมัยโบราณ จึงมีการนำแมวมาอาบน้ำเพื่อปลดปล่อยคำสาปนั้น ขบวนแห่นี้มักเกี่ยวข้องกับราชพิธี และการเรียกว่า "นางแมว" แสดงถึงเกียรติที่ให้กับสัตว์ชนิดนี้ โดยแมวจะถูกแบกโดยจับใส่เสลี่ยง[3]
เช่นเดียวกับพิธีกรรมบูชายุคกลางของยุโรป เช่น Kattenstoet ความหวังในการทำพิธีนี้คือการที่จะทำให้ "ฝนตกเป็นแมวเป็นหมา" (raining cats and dogs) อีกครั้ง[11] หากแมวส่งเสียงร้องระหว่างพิธีจะหมายความว่าฝนจะตกในไม่ช้า[1] คนเขมรและคนไทยหวังว่าฝนจะตกภายใน 3 ถึง 7 วันหลังพิธี พิธีแห่นางแมวนี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจว่าฝนจะตก และนำความสามัคคีมาสู่ชุมชนเนื่องจากต้องใช้การทำงานร่วมกันของคนในหมู่บ้าน.[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Daovisith, Douangbouppha (2023-10-15). "Preserving Rain Traditions in Southeast Asia". The ASEAN Magazine (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-30. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ 2.0 2.1 Porée-Maspero, Eveline (1962). "L'obtention de la pluie" [Obtaining rain]. Étude sur les rites agraires des Cambodgiens (ภาษาฝรั่งเศส). Mouton. pp. 264 sq.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 Thanwadee, Sookprasert (2016-09-12). "Hae Nang Meaw". Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre. Rituals, Ceremonies and Local Festivals in Thailand Database. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-30. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ "Catcalls for cloudbursts". Thaiger (ภาษาอังกฤษ). 2010-06-14. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ "Thai farmers ask spirits for rain to end crippling drought". New York Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2015-07-09. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-30. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ "Parched Isaan village opts for politically correct 'cat parade'". The Nation (Thailand) (ภาษาอังกฤษ). 2018-09-03. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-30. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ "'Cat people' parade in Uttaradit in prayer for rains". The Nation (Thailand) (ภาษาอังกฤษ). 2019-05-07. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-30. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ "ได้ผล ชาวบ้านแห่นางแมว จับปลาบนบกประชดเทวดา ตกกลางคืนฝนตกทันที". www.thairath.co.th. 2023-04-24. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-26. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ "แล้งจัด! ชาวบ้าน จ.แพร่ นำตุ๊กตาคิตตี้ทำพิธีขอฝนแห่นางแมว". mgronline.com. 2019-04-22. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ Sitthipoj, Kebui (2018-06-21). "Doraemon joins rain-asking ritual in Phichit". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-30. สืบค้นเมื่อ 2024-04-30.
- ↑ Geyer, Georgie Anne (2004). When Cats Reigned Like Kings: On the Trail of the Sacred Cats (ภาษาอังกฤษ). Andrews McMeel Publishing. p. 107. ISBN 978-0-7407-4697-0.