พฤกษศาสตร์พื้นบ้าน
พฤกษศาสตร์พื้นบ้าน เป็นพฤกษศาสตร์และมานุษยวิทยาแขนงหนึ่งที่ศึกษาพืชในภูมิภาคและการใช้ประโยชน์เชิงปฏิบัติผ่านภูมิปัญญาดั้งเดิมของวัฒนธรรมและผู้คนท้องถิ่น[1] นักพฤกษศาสตร์พื้นบ้านพยายามรวบรวมองค์ความรู้ของการใช้พืชโดยคนพื้นเมืองในหลายด้าน เช่น อาหาร ยารักษาโรค สารออกฤทธิ์ และเครื่องนุ่งห่ม[2] ริชาร์ด อีแวนส์ ชูลทีส นักชีววิทยาชาวอเมริกันผู้ได้รับการขนานนามว่า "บิดาแห่งพฤกษศาสตร์พื้นบ้าน"[3] บรรยายสาขาวิชานี้ว่า
พฤกษศาสตร์พื้นบ้านหมายถึง การสำรวจพืชที่สังคมใช้ในส่วนต่าง ๆ ของโลก[4]
นับตั้งแต่ชูลทีส พฤกษศาสตร์พื้นบ้านได้พัฒนาจากการแสวงหาภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การประยุกต์ใช้ในสังคมสมัยใหม่ โดยเฉพาะในทางเภสัชศาสตร์[5] คำว่าพฤกษศาสตร์พื้นบ้านตรงกับคำในภาษาอังกฤษคือ ethnobotany ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกโบราณสองคำคือ ἔθνος (éthnos, “กลุ่มชน”) และ βοτάνη (botánē, “พืช”)[6]
ประวัติ
[แก้]แนวคิดของพฤกษศาสตร์พื้นบ้านริเริ่มโดยจอห์น วิลเลียม ฮาร์ชเบอร์เกอร์ นักพฤกษศาสตร์ชาวอเมริกันผู้คิดค้นคำว่า "ethnobotany" ในค.ศ. 1895[7] แม้ฮาร์ชเบอร์เกอร์จะทำการศึกษาพฤกษศาสตร์พื้นบ้านอย่างกว้างขวางในแอฟริกาเหนือ เม็กซิโก สแกนดิเนเวีย และเพนซิลเวเนีย[8] แต่พฤกษศาสตร์พื้นบ้านกลายเป็นสาขาวิชาที่เป็นที่รู้จักเมื่อริชาร์ด อีแวนส์ ชูลทีสเริ่มเดินทางไปยังป่าดิบชื้นแอมะซอนช่วงคริสต์ทศวรรษ 1940[9] กระนั้นเชื่อว่าการศึกษาพฤกษศาสตร์พื้นบ้านมีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 เมื่อพีดาเนียส ไดออสคอริดีส แพทย์ชาวกรีกแต่งตำรา De Materia Medica ("ว่าด้วยเภสัชวัตถุ") ที่บรรยายถึงสรรพคุณทางยาและอาหารของพืชเมดิเตอร์เรเนียนกว่า 600 ชนิด[2] การค้นพบโลกใหม่มีส่วนในการเพิ่มพูนความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ของยุโรปเนื่องจากมีการนำเข้าพืชชนิดใหม่จากทวีปอเมริกา เช่น มันฝรั่ง มะเขือเทศ ถั่วลิสง และอาโวคาโด[10]
พัฒนาการ
[แก้]เลออปอล กลุค แพทย์ชาวเยอรมันเป็นบุคคลแรกที่ศึกษาพฤกษศาสตร์พื้นบ้านด้วยมุมมองแบบคนใน (emic) การศึกษาของเขาเกี่ยวกับการใช้พืชทางการแพทย์พื้นบ้านของคนชนบทในบอสเนียที่ตีพิมพ์ในค.ศ. 1896 ถือเป็นผลงานด้านพฤกษศาสตร์พื้นบ้านสมัยใหม่ชิ้นแรก[11] หลังจากนั้นมีการศึกษาการใช้พืชในมุมมองคนพื้นเมืองจำนวนมาก เช่น มาทิลดา ค็อกซ์ สตีเวนสันศึกษาพืชที่ใช้โดยชาวซูนี (ค.ศ. 1915), คณะนำโดยวิลเฟรด ร็อบบินส์ศึกษาพืชที่ใช้โดยชาวเตวาปูเอโบ (ค.ศ. 1916) และแฟรงก์ แฮมิลตัน คุชิงศึกษาอาหารของชาวซูนี (ค.ศ. 1920)
ในช่วงแรกการศึกษาและการเก็บตัวอย่างทางพฤกษศาสตร์พื้นบ้านยังไม่มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากนักพฤกษศาสตร์และนักมานุษยวิทยาไม่มีเป้าหมายเดียวกัน นักพฤกษศาสตร์นั้นมุ่งเน้นการระบุชนิดพืชและการใช้งาน แต่ไม่ได้สนใจประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างพืชกับชีวิตผู้คน ขณะที่นักมานุษยวิทยาสนใจบทบาททางวัฒนธรรมของพืช แต่ศึกษาแง่มุมทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ เพียงผิวเผิน ต่อมาช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักพฤกษศาสตร์และนักมานุษยวิทยาร่วมมือกันมากขึ้น จึงมีข้อมูลข้ามสาขาวิชาที่น่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น
ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 พฤกษศาสตร์พื้นบ้านเริ่มเปลี่ยนผ่านจากกลุ่มข้อมูลดิบสู่การปรับเปลี่ยนระเบียบวิธีให้เป็นวิชาการมากขึ้น ปัจจุบันนักพฤกษศาสตร์พื้นบ้านต้องการทักษะที่หลากหลาย เช่น ความรู้ทางพฤกษศาสตร์ในการระบุจำแนกและเก็บตัวอย่างพืช ความรู้ทางมานุษยวิทยาเพื่อเข้าใจแนวคิดทางวัฒนธรรมที่มีต่อพืช และความรู้ทางภาษาศาสตร์ในการถอดความศัพท์ท้องถิ่น และเข้าใจองค์ประกอบของภาษาท้องถิ่น
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Ethnobotany". www.fs.fed.us. สืบค้นเมื่อ 2 May 2018.
- ↑ 2.0 2.1 "Ethnobotany". www.eplantscience.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 April 2018. สืบค้นเมื่อ 2 May 2018.
- ↑ Kandell, Jonathan (13 April 2001). "Richard E. Schultes, 86, Dies; Trailblazing Authority on Hallucinogenic Plants". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2 May 2018.
- ↑ Kochhar, S. L. (2016). Economic Botany: A Comprehensive Study (5 ed.). Cambridge University. p. 644. ISBN 9781316675397.
- ↑ Soejarto, D.D.; Fong, H.H.S.; Tan, G.T.; Zhang, H.J.; Ma, C.Y.; Franzblau, S.G.; Gyllenhaal, C.; Riley, M.C.; Kadushin, M.R.; Pezzuto, J.M.; Xuan, L.T.; Hiep, N.T.; Hung, N.V.; Vu, B.M.; Loc, P.K.; Dac, L.X.; Binh, L.T.; Chien, N.Q.; Hai, N.V.; Bich, T.Q.; Cuong, N.M.; Southavong, B.; Sydara, K.; Bouamanivong, S.; Ly, H.M.; Thuy, Tran Van; Rose, W.C.; Dietzman, G.R. (2005). "Ethnobotany/Ethnopharmacology and mass bioprospecting: Issues on intellectual property and benefit-sharing" (PDF). Journal of Ethnopharmacology. 100 (1–2): 15–22. doi:10.1016/j.jep.2005.05.031. PMID 15993554. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-01-07. สืบค้นเมื่อ 2013-06-01.
- ↑ "ethnobotany - definition". Collins English Dictionary. สืบค้นเมื่อ August 2, 2021.
- ↑ Merlin, Mark D. (July 2000). "A History of Ethnobotany in Remote Oceania" (PDF). Pacific Science. 54 (3): 275–287. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-08-01. สืบค้นเมื่อ August 1, 2021.
- ↑ White, James T. (1931). The National cyclopædia of American biography ... v.21. University of Michigan.
- ↑ Ponman, Bussmann, Bruce E, Rainer W. (2012). Medicinal Plants and the Legacy of Richard E. Schultes (PDF). Missouri Botanical Garden. ISBN 978-0984841523.
- ↑ Crosby, Alfred W. "The Columbian Exchange: Plants, Animals, and Disease between the Old and New Worlds". nationalhumanitiescenter.org. National Humanities Center.
- ↑ Andrea Pieroni, Cassandra L. Quave, บ.ก. (2014). Ethnobotany and Biocultural Diversities in the Balkans: Perspectives on Sustainable Rural Development and Reconciliation (illustrated ed.). Springer. p. 1. ISBN 9781493914920.