ข้ามไปเนื้อหา

พรูอิตต์–ไอโก

พิกัด: 38°38′32.24″N 90°12′33.95″W / 38.6422889°N 90.2094306°W / 38.6422889; -90.2094306
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พรูอิตต์–ไอโก
เวนเดลล์ โอ. พรูอิตต์ โฮมส์ (Wendell O. Pruitt Homes) และ วิลเลียม ไอโก อะพาร์ตเมนตส์ คอมเพล็กซ์ (William Igoe Apartments complex)
ข้อมูลทั่วไป
ที่ตั้งเซนต์ลุยส์ รัฐมิสซูรี สหรัฐ
พิกัด38°38′32.24″N 90°12′33.95″W / 38.6422889°N 90.2094306°W / 38.6422889; -90.2094306
สถานะทุบทำลาย
พื้นที่57 เอเคอร์ (23 เฮกตาร์)
จำนวนบล็อก33
จำนวนยูนิต2,870
ความหนาแน่น50 units per acre (120 per hectare)
การก่อสร้าง
ก่อสร้างเมื่อ1951–1955
สถาปนิกมิโนรุ ยามาซากิ
สถาปัตยกรรมอินเตอร์เนชันนัล, มอเดิร์น
ทำลาย1972–1976

เวนเดลล์ โอ. พรูอิตต์ โฮมส์ (อังกฤษ: Wendell O. Pruitt Homes) และ วิลเลียม ไอโก อะพาร์ตเมนส์ (อังกฤษ: William Igoe Apartments) หรือที่นิยมเรียกรวมกันว่า พรูอิตต์–ไอโก (อังกฤษ: Pruitt–Igoe) เป็นอดีตโครงการที่อยู่อาศัยชนิดรัฐสนับสนุนบางส่วน เริ่มมีผู้ย้ายเข้าอยู่อาศัยครั้งแรกใน ค.ศ. 1954 ตั้งอยู่ในนครเซนต์ลุยส์ รัฐมิสซูรี สหรัฐ โครงการประกอบด้วยอาคารสูงสิบเอ็ดชั้นจำนวน 33 หลังที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมมอเดิร์น โดยมิโนรุ ยามาซากิ ถือเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ก่อนสร้างขึ้นด้วยเงินทุนสนับสนุนจากระดับประเทศบนจุดที่เคยเป็นสลัมในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูนคร แม้ว่าโครงการนี้จะไม่มีการแบ่งแยกสีผิว แต่ผู้อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดเป็นชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ชื่อโครงการตั้งตามชาวเซนต์หลุยส์สองคนคือ เวนเดิล โอ. พรูอิตต์ นักนับเครื่องบินรบชางแอฟริกัน-อเมริกันในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กับวิลเลียม แอล. ไอโก อดีตคองเกรสแมน[1] เริ่มแรกจะแบ่งจัดสรรเขตพรูอิตต์สำหรับคนดำ และเขตไอโกสำหรับคนขาว[2] กระนั้นการแบ่งแยกสีผิวในที่อยู่อาศัยถูกยกเลิกในเซนต์หลุยส์ใน ค.ศ. 1955 ก่อนการเปิดตัวโครงการ[3]

แม้ว่าในตอนแรก โครงการจะได้รับการยกย่องในฐานะการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน แต่ไม่นานหลังเปิดให้เข้าพักอาศัย ความเป็นอยู่ในโครงการเริ่มเลวร้ายลง และภายในกลางคริสต์ทศวรรษ 1960 โครงการเต็มไปด้วยอาชญากรรมและมีปัญหาขาดการดูแล รวมถึงประสบปัญหาการทำลายทรัพย์สินและปัญหาอาชญากรรมเยาวชน หลังจากนั้นมามีการเสนอโครงการต่าง ๆ เพื่อปรับสภาพแต่ทั้งหมดล้วนไม่ประสบความสำเร็จ ใน ค.ศ. 1970 ผู้อยู่อาศัยย้ายออกจากโครงการ จนเหลือห้องว่างมากกว่าสองในสาม และท้ายที่สุดใน ค.ศ. 1972 จึงเริ่มต้นการทำลายอาคารในโครงการด้วยการระเบิดอาคารผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ผู้อยู่อาศัยทั้งหมดย้ายออกและโครงการถูกทำลายจนเสร็จสิ้นในสี่ปีต่อมา

พรูอิตต์–ไอโก กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลวในความพยายามเปลี่ยนสังคมด้วยสถาปัตยกรรมมอเดิร์น นักวิจารณ์ ชาลส์ เจิงส์ อธิบายการทุบทำลายโครงการนี้ว่าเป็น "วันที่สถาปัตยกรรมมอเดิร์นตายลง"[4] ในการวิเคราะห์เหตุการณ์ในยุคหลัง ๆ เริ่มหันเหมาให้น้ำหนักกับปัญหาการลดลงของประชากรในนครเซนต์ลุยส์ และปัญหาการเงินขององค์การที่ดูแลที่อยู่อาศัยของท้องถิ่น อาร์คีเท็กชรอลรีวิว ระบุว่ามุมมองในสมัยใหม่ต่อโครงการนี้มองว่า "ต้องล้มเหลวเข้าในสักวันมาตั้งแต่แรก"[5] ข้อมูลจาก ค.ศ. 2024 พื้นที่ที่ในอดีตเป็นโครงการพรูอิตต์–ไอโก ยังคงถูกทิ้งร้างเป็นส่วนใหญ่

มีการกล่าวถึงและบทวจารณ์เกี่ยวกับพรูอิตต์–ไอโกอยู่มากมายในวรรณกรรมด้านสถาปัตยกรรม[6] สถาปนิก วิลเลียม แรมรอธ (William Ramroth) บรรยายว่าพรูอิตต์–ไอโก เป็น "ภัยพิบัติด้านที่อยู่อาศัยสาธารณะที่มีชื่อเสียงเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน" และเป็น "ตัวแบบ" (poster child) สำหรับโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสาธารณะ[1] กระนั้นก็ดี เสียงตอบรับในระยะแรกต่อโครงการนี้เป็นไปในทางบวก แม้ว่าโครงการจะไม่เคยได้รับรางวัลใด ๆ ก็ตาม[7] ใน ค.ศ. 1951 ก่อนที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ บทความบน อาร์คีเท็กชรอลฟอรัม เขียนสรรเสริญแผนเดิมของยามาซากิ[8] และเชิดชูว่าเป็น "ชุมชนแนวตั้งสำหรับคนจน"[9] ผู้เขียนชีวประวัติของยามาซากิน พอล คิดเดอร์ (Paul Kidder) ชื่นชมโครงการนี้ว่าเป็น "ความพยายามอันทะเยอทะยานอย่างน่าอัศจรรย์ ก่อนที่จะกลายมาเป็นความน่าอับอาย"[10] ความล้มเหลวและการทุบทำลายโครงการนี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของยามาซากิในฐานะสถาปนิก และเขาเองยังยอมรับว่าตนเองเสียใจที่ได้ออกแบบอาคารเหล่านี้[5]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 Ramroth 2007, p. 163.
  2. Rainwater 1970, p. 8.
  3. Meehan 1979, p. 85.
  4. Jencks 1984, p. 9.
  5. 5.0 5.1 Gyure 2019.
  6. Comerio 1981, p. 26.
  7. Bristol 1991, p. 168.
  8. Meehan 1979, p. 67.
  9. Ramroth 2007, p. 164.
  10. Kidder 2022, p. 4.

บรรณานุกรม

[แก้]

หนังสือ

[แก้]
  • Hall, Peter Geoffrey (2004). Cities of Tomorrow: An Intellectual History of Urban Planning and Design in the Twentieth Century. Wiley, John & Sons, Incorporated. ISBN 978-0-631-23252-0.
  • Jencks, Charles (1984). The Language of Post-Modern Architecture. Rizzoli. ISBN 978-0-8478-0571-6.
  • Kidder, Paul (2022). Minoru Yamasaki and the Fragility of Architecture. Routledge. ISBN 978-0-367-62952-6.
  • Larsen, Lawrence Harold; Kirkendall, Richard Stewart (2004). A History of Missouri: 1953 to 2003. University of Missouri Press. ISBN 978-0-8262-1546-8.
  • Meehan, Eugene (1979). The Quality of Federal Policymaking: Programmed Failure in Public Housing. University of Missouri Press. ISBN 0-8262-0272-1.
  • Mendelson, Robert E.; Quinn, Michael A. (1985). "Residential Patterns in a Midwestern City: The Saint Louis Experience". The Metropolitan Midwest. University of Illinois Press. ISBN 978-0-252-01114-6.
  • Montgomery, Roger (1985). "Pruitt–Igoe: Policy Failure or Societal Symptom". The Metropolitan Midwest. University of Illinois Press. ISBN 978-0-252-01114-6.
  • Newman, Oscar (1996). Creating Defensible Space. US Department of Housing and Urban Development Office of Policy Development and Research. ISBN 978-0-7881-4528-5.
  • Rainwater, Lee (1970). Behind Ghetto Walls: Black Families in a Federal Slum. Aldine Publishing Company. ISBN 978-0-202-30907-1.
  • Ramroth, William G. (2007). Planning for Disaster: How Natural and Man-made Disasters Shape the Built Environment. Kaplan Publishing. ISBN 978-1-4195-9373-4.

บทความ

[แก้]