พระราชธรรมาภรณ์ (เงิน จนฺทสุวณฺโณ)
พระราชธรรมาภรณ์ (เงิน จนฺทสุวณฺโณ) | |
---|---|
ชื่ออื่น | หลวงพ่อเงิน |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 16 กันยายน พ.ศ. 2433 (86 ปี) |
มรณภาพ | 13 มกราคม พ.ศ. 2520 |
นิกาย | มหานิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม |
อุปสมบท | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 |
พรรษา | 66 |
ตำแหน่ง | เจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม |
หลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ หรือ พระราชธรรมาภรณ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในจังหวัดนครปฐม ซึ่งชื่อหลวงพ่อเงินนั้นเคยมีพระรุ่นเก่าปรากฏนามนี้เช่นกันท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเช่นเดียวกัน อย่างเช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นต้น ท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความเคราพกันเป็นส่วนใหญ่ เป็นพระนักพัฒนา และเป็นบุคคลที่มีจิตที่เมตตาต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า และในสมัยนั้นท่านก็เป็นแกนนำในการพัฒนาบ้านเรือนและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและท่านจะอบรมสั่งสอนให้ประชาชนทำแต่ความดี และท่านเองก็จะคอยพัฒนาช่วยเหลือวัดและบ้านที่เก่าหรือชำรุดก็ตาม โดยในการพัฒนานั้น ประชาชนก็จะให้ความร่วมมือกันเสมอ งานทุกอย่างจึงสำเร็จลุล่วงได้ดี ท่านได้รับการยกย่องจากประชาชนว่า เทพเจ้าแห่งดอนยายหอม [1]
ประวัติ
[แก้]หลวงพ่อเงินเกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2433 ในครอบครัวเกษตรกรรมที่มีฐานะครอบครัวหนึ่งของบ้านดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม บิดาท่าชื่อ พรม ด้วงพูล มารดาชื่อ กรอง ด้วงพูล ท่านเป็นบุตรคนที่ 4 ในพี่น้องทั้งหมด 7 คน ในวัยเด็ก ท่านก็อยู่ศึกษาวิชาความรู้กับ พ่อพรม บิดาของท่านเอง และตัวพ่อพรมท่านมีความสามารถในการถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ผ้ายันต์ ตัวอักขระ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 ณ พัทธสีมา วัดดอนยายหอม มีพระปลัดฮวย เจ้าอาวาสวัดดอนยายหอมในขณะนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า จนฺทสุวณฺโณ หลังอุปสมบทท่านก็ได้เข้ารับการศึกษาพระธรรมวินัย และปฏิบัติธรรมของสงฆ์ ซึ่งในเวลาหลังอุปสมบทไม่นาน ท่านก็ได้มีการท่องบทคาถาอาคมต่าง ๆ หลวงพ่อท่านได้เริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและพอสำเร็จ ท่านก็เริ่มออกธุดงควัตร หลวงพ่อท่านได้เดินทางผ่านภาคเหนือ[2] ในการออกธุดงค์ของหลวงพ่อเงิน ต้องเผชิญอันตรายกับสัตว์ป่า สัตว์ที่ดุร้าย แต่ท่านก็สามารถรอดปลอดภัยกลับมาได้ แต่เนื่องจากระหว่างทางมีแต่ความลำบาก ท่านจึง ได้มาปักกลดอยู่ข้างบ้านดอนยายหอม โดยที่มีผิวกายดำกร้าน ร่างกายซูบผอมราวกับคนชรา ชาวบ้านพอจำท่านได้ก็ยกมือไหว้ หลังจากนั้นพอท่านกลับมาจากการปักกรดไม่นาน ท่านก็เทศนาสอนลูกศิษย์และประชาชนว่า ชีวิตมนุษย์ของเรานั้นไม่แน่นอน ร่างกายมนุษย์ สังขารนั้นไม่ยั่งยืน ทุกอย่างล้วนอยู่ในวัฎสงสาร และจงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ มีสุขก็รู้จักพอ ต่อมาท่านเจ้าคุณพุทธรักขิต แต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2459 และท่านได้เข้าดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนยายหอมจริงๆเมื่อปี พ.ศ. 2466 เนื่องจากพระปลัดฮวย อดีตเจ้าอาวาส ได้ถึงแก่มรณภาพลง เมื่อเดือน ธันวาคม 2504 หลวงพ่อเงินได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในนาม “พระราชธรรมาภรณ์” ข่าวนี้ ก่อความปลื้มปิติแก่ลูกศิษย์และชาวดอนยายหอมเป็นล้นพ้น หลวงพ่อท่านได้สร้างคุณประโยชน์มากมายตั้งแต่การดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ทั้งช่วยเหลือประชาชนและชาวบ้านละแวกใกล้ๆ และพระเครื่องของท่าน ก็คอยคุ้มครองปกปักรักษาประชาชนทุกคน หลวงพ่อเงินท่านได้เริ่มอาพาธในปี พ.ศ. 2520 และได้ถึงแก่มรณภาพลงในวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2520 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี สิริอายุ 86 ปี 66 พรรษา ถึงแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วก็ตาม แต่คุณความดีของท่านยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของบรรดาลูกศิษย์ลูกหา โดยเฉพาะชาวดอนยายหอมอย่างไม่มีวันลืม ต่างยังรำลึกนึกถึงท่านอย่างไม่มีวันเลือนหายไปจากความทรงจำ[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ปฏิปทาหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม[ลิงก์เสีย] อ้างอิงมาจากศูนย์อนุรักษ์พระเครื่อง
- ↑ "ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-12. สืบค้นเมื่อ 2013-04-17.
- ↑ "เหรียญหลวงพ่อเงิน รุ่นสุดท้าย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2013-04-17.