พระพิราพ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
พระพิราพ เป็นอสูร มีลักษณะหน้ากางคางออก เรียกว่าหน้าจาวตาล สีม่วงแก่ หรือสีน้ำรัก หรือสีทอง ปากแสยะ ตาจระเข้ เขี้ยวทู่หรือเขี้ยวตัด หัวโล้น สวมกะบังหน้า ตอนทรงเครื่องสวมมงกุฎยอดเดินหน กายสีม่วงแก่ 51 พักตร์ 100 กร มีกายเป็นวงทักขิณาวัฏ
ความเชื่อ
[แก้]พระพิราพ ในคติเดิมเรียกว่าพระไภรวะ เป็นอวตารปางดุร้ายปางหนึ่งของพระศิวะ เมื่อชาวไทยรับดุริยางคศิลป์มาจากประเทศอินเดีย คติการนับถือพระอิศวรนารายณ์ทวยเทพทั้งหลายรวมไปถึงพระไภรวะจึงติดตามมาด้วย แต่เมื่อเข้ามาในไทยแล้วมีการเรียกนามพระองค์เพี้ยนไปจากเดิมเป็นพระพิราพ แล้วนับถือว่าเป็นครูสูงสุดทั้งฝ่ายนาฏศิลป์และดุริยางค์ศิลป์ ปรากฏหลักฐานมาแต่สมัยกรุงสุโขทัย และมีการบันทึกหลักฐานเป็นที่แน่ชัดราวรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระพิราพถือเป็นครูยักษ์ เป็นเทพอสูร และเป็นมหาเทพ (ศิวะอวตาร) แต่เนื่องจากนามของพระองค์คล้ายคลึงกับตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ซึ่งมีลักษณะเป็นยักษ์เช่นกันคือยักษ์วิราธ และนิยมเรียกเพี้ยนเป็นยักษ์พิราพ ทำให้บรมครูสูงสุดกับตัวละครตัวนี้เกิดความสับสนปนเปกัน
ในปัจจุบันทางกรมศิลปากรได้มีการชำระประวัติของพระพิราพ โดยนักวิชาการ และมีการเผยแพร่สร้างความเข้าใจให้แก่บุคคลทั่วไป แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- http://www.พ่อแก่.com เก็บถาวร 2022-03-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน