ผู้ใช้:Wawvy1986/กระบะทราย

อายุขัย ของมนุษย์ โดยปกติในสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม จะสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกได้ประมาณ 5- 7 เท่าของช่วงการเจริญเติบโต เช่น มนุษย์จะมีการเจริญเติบโตเต็มที่ถึงอายุ 25 ปี นั้นแสดงว่าอายุขัยของมนุษย์นั้นจะอยู่ในช่วงประมาณ 100 - 200 ปี แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้ที่มีอายุประมาณ 60-70 ปี จะเสียชีวิตกันมากขึ้น โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น จากความเครียด ,จากการบริโภคอาหาร เป็นต้น

บุคคลที่สำคัญในประวัติศาสตร์จีน ได้ให้ข้อควรปฏิบัติเพื่อการมีสุขภาพที่ดี ดังนี้

1. เล่าจื้อ เป็นผู้นำของลัทธิเต๋า จากบันทึกมีอายุประมาณ 160 ปี เป็นคนรักสันโดษ ชอบที่จะอยู่กับธรรมชาติ ชอบอยู่ในที่สงบ และที่ที่มีความบริสุทธิ์ ไร้ความโลภและกิเลสตัณหา กล่าวว่ามนุษย์ควรที่จะมีธรรมะในจิตใจและรู้จักในความพอดีก็จะส่งผลให้มีจิต ใจที่ดีก็จะนำไปสู่สุขภาพที่ดีด้วย

2. ขงจื้อ จากบันทึกมีอายุประมาณ 83 ปี และเป็นคนที่วางรากฐานของสังคม เช่น การปกครอง และได้เห็นว่ามนุษย์นั้นควรที่จะมีมุทิตา คือ จะต้องรักส่วนรวม และเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้อายุยืนยาว ซึ่งสิ่งสำคัญที่ขงจื้อได้กล่าวเตือนบุรุษ มี 3 ข้อ คือ

1. เรื่องกามารมณ์

2. เรื่องการต่อสู้

3. เรื่องความละโมบ

3. ปรมาจารย์ฮัวถ๋อ จากบันทึกมีอายุประมาณ 83 ปี มีทัศนคติที่ชอบช่วยเหลือคนยากจน และยังได้คิดค้นท่าบริหารที่เลียนแบบมาจากสัตว์ 5 ชนิด มาใช้ในการสอนประชาชน เช่น

กวาง มีการเคลื่อนไหวที่อ่อนช้อย ทำให้มีการเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัว ซึ่งการบริหารนี้จะเป็นบริหารที่เกี่ยวกับตับ

ลิง มีความคล่องแคล่วว่องไว ซึ่งในคนเรานั้นจำเป็นที่จะต้องมีความคล่องแคล่วว่องไว และไม่ควรที่จะหยุดนิ่ง เพราะจะทำให้ไม่เกิดความเสื่อมถอยของร่างกาย ซึ่งการบริหารนี้เป็นการบริการที่เกี่ยวกับการบริหารที่หัวใจ เป็นต้น

4. ซุนซือเหมี่ยว อายุประมาณ 100 ปี พูดถึงเรื่องการปรับเปลี่ยนวิถีของการดำเนินชีวิต เช่น เรื่องทางเพศ และ เรื่องการกินอยู่ต่างๆ

5. หลี่ตงเหิง พูดในเรื่อง การปรับการทำงานของกระเพาะอาหาร และม้าม เช่น อาหาร และ อารมณ์ เพราะสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบกระเพาะอาหาร และสิ่งสำคัญในการที่จะไม่เป็นโรคนั้นจะต้องไม่ส่งผลทำลายระบบการย่อยอาหาร

6. จูตันซี อายุ 74 ปี โดยกล่าวไว้ว่ามนุษย์ที่จะมีอายุยืนยาวจะต้องปกป้องพลังยิน พลังยิน ในผู้ชายคือเรื่องของน้ำอสุจิ ในผู้หญิง คือเรื่องของประจำเดือน เช่นในผู้ชายที่สูญเสียน้ำอสุจิมาก จะทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานและต้องสร้างกลับขึ้นมาใหม่และเป็นการทำให้ กลไกของร่างกายทำให้เสื่อมได้เร็วขึ้น สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาก หรือตกขาวมาก จะทำให้ร่างกายเสียพลังยิน หรือการนอนไม่หลับก็จะทำเสียพลังงานยินด้วยเช่นกัน

สารอาหารที่ให้พลังงาน คือ แป้งและน้ำตาล หรือสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ซึ่งให้พลังงาน 50 -60 % และเป็นสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์จะต้องรับประทาน สารอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบในร่างกายประมาณ 20% ของน้ำหนักตัว ช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สารอาหารประเภทไขมัน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และช่วยในการละลายของวิตามินบางตัว ผักและผลไม้ต่างๆ เป็นแหล่งที่ให้วิตามินและเกลือแร่ ร่างกายมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ประมาณ 60% ของน้ำหนักตัว ในปัจจุบันพบว่าใยอาหารมีความสำคัญในการขับของเสียออกมาได้ดี สามารถที่จะป้องกันมะเร็งได้, ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี

อาหารและยานั้นมีแหล่งที่มาจากแหล่งเดียวกัน ปัจจุบันปัญหาในผู้ป่วยที่พบบ่อย คือ การฟังโฆษณาและเชื่อผลการศึกษาวิจัยบางอย่าง ทำให้มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง เช่น ผลการวิจัย พบว่าการรับประทานดอกคำฝอยจะสามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้ ดังนั้น คนจึงเชื่อว่าการรับประทานดอกคำฝอยนั้นช่วยในการลดไขมันในเลือด จึงรับประทานดอกคำฝอยเพียงอย่างเดียว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วจะต้องมีอะไรหลายอย่างที่จะต้องควบคู่กันไป ในศาสตร์การแพทย์แผนจีนมีความเชื่อในทัศนะขององค์รวมและการปรับร่างกายให้มี ความสมดุล

สำหรับประเทศไทยนั้น เป็นประเทศที่มีอากาศร้อน และชื้น ถ้ารับประทานเนื้อแพะ จะทำให้ร่างกายร้อนมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้เกิดการเสียสมดุล

เรียบเรียงโดย

สถาบันการแพทย์ไทย - จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- See more at: http://www.baiwantcm.com/article_detail.php?Art_ID=27#sthash.npSdcSDm.dpuf